"พี่สะใภ้ พี่ให้ผมไปจริงๆหรอ ?" ซูเฉินถามขึ้น
เห็นสายตาซูเฉินที่แผดเผา ดูเหมือนมีน้ำตาภายในตา หลิวอี้อี้ก็ปวดใจ แต่เธอยังพูดอย่างแน่วแน่ว่า "พวกเรา.....ต้องการเวลาในการสงบสติอารมณ์"
"ครับ"
ซูเฉินกัดฟันและพูดว่า ".....คืนนี้ ผมจะรอพี่ถังกลับมาเป็นเพื่อนพี่ ถ้าเขากลับมาแล้วไม่พูดอะไร พรุ่งนี้เช้าผมจะไป แต่ถ้า.....มีเรื่องนั้นล่ะก็ ผมจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"
พูดจบ ซูเฉินก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป ประตูถูกปิดอย่างแรง เพื่อแยกตัวเองและหลิวอี้อี้ออกจากกัน
มองแผ่นหลังของซูเฉิน หลิวอี้อี้ก็รู้สึกไม่สบายใจแต่ก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกลังเล หลิวอี้อี้เลยจะไปปลอบใจซูเฉิน
เมื่อกลับเข้าห้องแล้ว ซูเฉินรู้สึกว่าฟ้ามืดมิด เรื่องราวทั้งหมด ราวกับว่าเป็นละคร
ถึงเวลาพลบค่ำ หลิวอี้อี้ไปเรียกซูเฉินกินข้าว
หลังจากที่ซูเฉินได้ยินเสียงของหลิวอี้อี้แล้ว ก็รู้สึกเหมือนภายในใจมีแต่ความมืดสลัว แต่ก็ปากแข็งบอกไปว่า " ผมไม่หิว"
"ไม่หิวก็ต้องกินซักหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวจะหิวทำลายกระเพาะ" หลิวอี้อี้พูดอย่างอ่อนโยน
เมื่อซูเฉินได้ยินความเป็นห่วงของหลิวอี้อี้ ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดี เขาลงจากเตียง ยืนเงียบๆที่หน้าประตู อยากฟังเสียงของเธอให้ชัดเจนขึ้น
"ซูเฉิน?" หลิวอี้อี้ยังคงเรียกต่อไป
เพียงแค่ประตูกั้น แต่เสียงของหลิวอี้อี้ก็ดังชัดเจน
แต่ซูเฉินกลับไม่อยากออกไป เพราะทุกครั้งที่หลิวอี้อี้เรียกชื่อตน ใจซูเฉินก็จะสั่น
เขาอยากจะออกไปแล้วกอดหลิวอี้อี้แน่นๆในอ้อมอก อยากจะบอกเธอว่า ตัวเขาใส่ใจเธอขนาดไหน ชอบเธอ....ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แค่ให้ตัวเขาได้กอดเธอ แค่นี้ซูเฉินก็พอใจแล้ว
แต่จิสัมนึกบอกกับซูเฉินว่า ตัวเองควรเงียบไว้ดีที่สุด รอพรุ่งนี้เขาไปแล้ว ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี
.........
กลางคืน พี่ถังไม่กลับมา ซูเฉินพลิกไปพลิกมา สุดท้ายก็หลับไป
เพราะมีเรื่องในใจ เขาก็เลยไม่ได้หลับลึก เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ตื่นขึ้นมา
เดินออกไปห้องรับแขกเงียบๆ พบว่าไม่มีรองเท้าของพี่ถังที่หน้าประตู เขาน่าจะยังไม่กลับมา คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินก็ถอนหายใจเบาๆ
และเดินไปหน้าประตูบ้านเงีบๆ เขาเปลี่ยนรองเท้า เปิดประตูและเดินออกไป
ความรู้สึกเหมือนสัปดาห์ก่อน ตัดใจไม่ลง แต่ครั้งนี้โศกเศร้าหน่อย เพราะดูจากท่าทางของหลิวอี้อี้แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนดูจะไม่มีที่เหลืออีกแล้ว
เดินออกจากหมู่บ้านไป ซูเฉินเรียกแซ็กซี่คันหนึ่ง นั่งไปยังไม่ทันถึง หลิวอี้อี้ก็โทรเข้ามา
ซูเฉินกดตัดสาย และคิดว่าจะส่งข้อความหาหลิวอี้อี้บอกว่า เขากลับมหาวิทยาลัยแล้ว
แต่เมื่อกดตัดสาย หลิวอี้อี้ก็โทรมาอีกครั้ง เขาตัดสายอีก หลังจากทำแบบนั้นอยู่สามสี่ครั้ง ซูเฉินก็รับสาย พูดว่า "พี่สะใภ้...."
พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลิวอี้อี้ถามด้วยความอ่อนโยนว่า " ทำไมไปไม่บอกซักคำ?"
"นี่ไม่ใช่สิ่งที่พี่ต้องการหรอ?" ซูเฉินยิ้มแห้งๆถามออกไป
หลิวอี้อี้รู้สึกปวดใจ แต่ก็อธิบายอย่างจริงจังว่า " ซูเฉิน พี่เห็นนายเป็นน้องชายแท้ๆ.....จนกระทั่งถึงตอนนี้ พี่ก็ไม่เคยคิดโทษนาย"
ซูเฉินเงียบ ไม่พูดอะไร
หลิวอี้อี้พูดต่อว่า "เรื่องของความรู้สึก พี่คนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็ควบคุมไม่ได้ จะไปโทษนายได้ยังไง? พวกเราสองคนสงบสติอารมณ์ สัปดาห์หน้า พี่จะให้พี่ถังไปรับนายกลับมา โอเคมั้ย?"
ซูเฉินรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย พูดเบาๆว่า "อืม" แล้ววางสายไป
กลับถึงมหาวิทยาลัย บังเอิญเจอ เธอสวมชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้ แต่งหน้าอ่อนๆบนใบหน้าขาวนวล มากับเพื่อนสนิทอีกสองคน
เห็นจ้าวซีแล้ว ซูเฉินก็ยิ้มเป็นการทักทาย แล้วเดินต่อไป
จู่ๆ จ้าวซีก็วิ่งมาหาเขา สีหน้าเขิลอาย พูดว่า "ซูเฉิน วันนี้วันเกิดฉัน....ตอนเย็นนายว่างมั้ย?"
"หา?" ซูเฉินชะงักไป และมองสายตาที่รอคอยคำตอบของจ้าวซี รีบพยักหน้า พูดว่า " ว่าง ว่าง"
"งั้นตอนเย็นฉันค่อยโทรหานายนะ" จ้าวซียิ้มด้วยความดีใจ และจากไปด้วยหน้าแดงๆ
ซูเฉินไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเขาและจ้าวซีเป็นเพื่อนที่นั่งเรียนโต๊ะเดียวกัน ติดต่อกันส่วนตัวบ้างก็ดี หลังจากที่เธอไปแล้ว เขาก็ละสายตา และตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปที่หอพักก่อน
"ไปร่วมงานวันเกิดของเธอ ยังไงก็ต้องมีของขวัญสิ!" ซูเฉินพูดกับตัวเอง
ซูเฉินเดินดูของไปทั่ว สุดท้ายสนใจนาฬิกาข้อมือผู้หญิง ราคาสองร้อยกว่าหวน ราคาไม่ค่อยแพง และก็ดูดี
หลังจากซื้อของเสร็จก็กลับหอไปนอนพัก ตอนที่กำลังเดินเข้าประตู ซูเฉินก็เอาหูแนบไปที่ประตู แน่ใจแล้วว่ารูมเมทที่ชื่อ หวังฟานไม่ได้พาแฟนมาพลอดรักกัน ก็ผลักประตูเข้าไป
คิดถึงสายตาโกรธแค้นของแฟนสาวของหวังฟานแล้ว ซูเฉินก็อยากหัวเราะออกมา
เพราะเมื่อคืนมัวแต่เสียใจเรื่องหลืวอี้อี้ ซูเฉินแทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน ตอนนี้ขึ้นเตียงปุ๊บ ก็หลับได้เลย
หลังจากที่ตื่นนอน เวลาประมาณห้าโมงเย็น เก็บของโน่นนี่ จ้าวซีก็โทรมาพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก