ความตั้งใจของซูเฉินเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ หลิวอี้อี้จะผลักออกง่ายๆได้ไง?
สุดท้าย หลิวอี้อี้ต้องอ้อนวอนด้วยสีหน้าแดงๆว่า " ซูเฉิน หยุดได้แล้ว ยี่อยู่ยนรถนะ.......ถูกคนถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ดีแน่"
ซูเฉินได้ยินมาว่า สื่ออินเตอร์เน็ตในปัจจุบีนมีประสิทธิภาพมาก ถ้าเกิดถูกใครถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วเอาไปโพสลงโซเชียลว่าคู่รักจูบดูดดื่มบนรถเมล์ งั้นก็จบกัน?
ถึงแม้ในใจจะเกิดความกลัวจนขาดความมั่นใจ แต่ซูเฉินก็ถือโอกาสนี้พูดออกไปว่า " งั้นพี่บอกผมเรื่องนึงหน่อย"
"เรื่องอะไร?" หลิวอี้อี้ถามด้วยความสงสัย
ซูเฉินกลืนน้ำลาย พูดว่า " พี่สะใภ้ พี่ชอบผมมั้ย?"
คำไม่กี่คนที่ออกมา ทำให้ซูเฉินรู้สึกว่าใจเต้นแรง "ตึก ตึก ตึก" รู้สึกร้อนรุ่มในร่างกาย รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่ต้องพูดถึงซูเฉิน หลังจากที่หลิวอี้อี้ได้ยินคำถามนี้แล้ว หน้าก็แดงใจเต้นรัว
"บอกผมมา!" ซูเฉินไม่ประนีประนอม เอาหน้าเข้าไปใกล้หลิวอี้อี้ ปลายจมูกชนปลายจมูก ลมหายใจรดกัน
หลิวอี้อี้เห็นซูเฉินกำลังจะกระแทกเข้ามา ก็ตอบไปตรงๆว่า " ชะ.....ชอบ!"
คำสองคำนี้ ทำเอาหลิวอี้อี้เขิลอายมาก รู้สึกถึงความไร้ยางอายที่กระแทกเข้ามา....
ความรู้สึกคลุมเครือปกติก็จะทำให้คนหน้าแดงใจเต้นรัวได้ และยังทำให้คนลุ่มหลงง่ายๆ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เดินตามกฎเกณฑ์ พวกเขาก็จะชอบความรู้สึกที่คลุมเครือ ตื่นเต้น เร้าใจ และไร้ยางอายนี้!
"งั้นพี่ชอบผม......หรือชอบพี่ถัง" ซูเฉินถามเข้าไปอีกขั้น
เวลานี้ หัวใจของหลิวอี้อี้ก็เต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมาแล้ว แววตาที่คลึงไปด้วยน้ำตาบนดวงตาที่สวยคู่นั้น เขิลอายแก้มแดงจะจะหยดออกมาเป็นเลือด
"พูดสิ!" ซูเฉินถามย้ำ
"นี่ นี่ฉันจะพูดอย่างไรหละ!" หลิวอี้อี้พูดเบาๆ โดนหนุ่น้อยถามมาแบบนี้ เธอรู้สึกเคว้งคว้าง
"พูดความจริงสิ" ซูเฉินกลืนน้ำลาย กลั้นความตื่นเต้น
หลิวอี้อี้โดนซูเฉินบังคับจนไม่มีทางเลือก กัดฟันแล้วพูดออกไปว่า " ฉัน ฉันชอบนายมากกว่า!"
"ฮิ ฮิฮิฮิ!" ซูเฉินหัวเราะมีความสุข แล้วจุ๊บเข้าไปที่ปากของหลิวอี้อี้ครั้งหนึ่ง ส่งเสียง"จุ๊บ"ดังมาก
ตอนแรกที่เข้าสองคนจูบกันก็ดึงดูดคนอื่นไม่น้อย แต่เสียง "จุ๊บ" ยิ่งทำให้คนหันมามองมากขึ้น หลิวอี้อี้อายมาก รีบก้มหน้าลง เอาผมมาบังใบหน้า
ซูเฉินกลับรู้สึกถึงชัยชนะ อยากจะตะโกนเสียงดังเปล่งความสุขออกมา!
เขายื่นมือไปโอบเอวเล็กๆของหลิวอี้อี้ แล้วให้หลิวอี้อี้เอาหัวพิงบนไหล่ของเขา คล้ายกับคู่รัก
.....................................ง
ถึงหมู่บ้านแล้ว หลิวอี้อี้กลับรู้สึกเสียใจ
ตลอดทาง ซูเฉินใจกล้ามาก ถ้ากลับถึงบ้านแล้ว จะสามารถปกป้องร่างกายของตัวเองไว้ได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องนึงแล้ว!
ตอนเช้า เพราะความเย็นชาของสามีทำให้เธอมีความรู้สึกโกรธ แค้น ปนเปรวมกันหมด ก็เลยจูบกับซูเฉินแบบนั้น
แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ถึงแม้เธอยากที่จะต่อต้านความรู้สึกของซูเฉิน แต่ตอนที่เธอโดนคนแปลกหน้าคุกคามบนรถเมล์ ในสมองนอกจากจะรู้สึกอับอายแล้ว ยังรู้สึกผิดต่อสามีเธอเอง!
"ถึงแม้จะสานต่อความสัมพันธ์กับซูเฉิน ก็ต้องหลังจากที่เธอหย่ากับซูเจิ้งแล้ว เธอไม่สามารถเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายได้!" หลิวอี้อี้คิดในใจ
"อี้อี้ ทำไมไม่เดิน?" ซูเฉินถามขึ้นมา
ตอนนี้ ซูเฉินยึดครองหลิวอี้อี้ไปมากพอสมควรแล้ว เพียงแค่ที่ตรงนั้นไม่มีคนอื่น เขาก็จะเรียกชื่อของเธอ
หลิวอี้อี้อยากจะปฏิเสธซูเฉิน แต่ก็กลัวว่าเขาจะทำอะไรวุ่นวาย ทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆ พูดว่า " ไม่มีอะไร กลับบ้านเถอะ"
ถึงแม้จะเห็นว่าหลิวอี้อี้ดูแปลกๆ แต่ซูเฉินก็ไม่คิดอะไรมาก น่าจะเหมือนกับที่พูดกับรูมเมทไว้ ว่าผู้ญิงมักจะขาดความกล้าหาญในครั้งแรก รอให้เธอได้ลิ้มลองความสุขแล้ว เธออาจจะกระตือรือร้นมากกว่าเขาก็ได้!
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินก็คิดถึงภาพที่หลิวอี้อี้นอนขยับขึ้นลงอยู่ภายใต้ร่างกายของพี่ถัง ก็กลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา!
เขาจับมือเล็กๆของหลิวอี้อี้ ขึ้นไปบนตึกแล้ว ก็ให้หลิวอี้อี้เปิดประตู
"ก็อกๆแก็กๆ"
ตอนที่หลิวอี้อี้เอากุญแจสอดเข้าไปที่แม่กุญแจ ก็มีผู้ชายชุดสูทถือช่อกุหลาบเดินขึ้นมาจากบันได
หน้าตาของผู้ชายคนนั้นไม่คุ้น ดูเหมือนจะไม่ได้พักอยู่ที่ตึกนี้
"ขอโทษครับ คุณพักอยู่402ใช่มั้ยครับ?" ชายชุดสูทเดินมาแล้วถามหลิวอี้อี้
หลิวอี้อี้พยักหน้า พูดว่า "ขอโทษค่ะ คุณคือ....."
"ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของพี่ซูเจิ้ง เมื่อเช้าเขาซื้อดอกกุหลาบไว้ เพราะว่ายุางมากจนมาไม่ได้ ก็เลยให้ผมเป็นคนเอามาให้แทน .....ฮ่าๆๆ พี่สะใภ้ สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานสี่ปีครับ" ชายชุดสูทพูดยิ้มๆ
ครอบรอบแต่งงานสี่ปี? หลิวอี้อี้ชะงักไป ถึงได้นึกได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของตัวเอง"
เพราะถูกผู้อำนวยการหลี่คุกคามเมื่อคืน บวกกับซูเฉินที่แสดงความรักไม่หยุด เธอก็ลืมเรื่องนี้สนิทไปเลย ตอนนี้นึกขึ้นได้แล้ว ก็รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาเอ่อขอบตา
ซูเฉินรู้สึกตกใจ รีบปล่อยมือหลิวอี้อี้ ชายชุดสูทคนนี้ดันเป็นเพื่อนร่วมงานของพี่ถัง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก