แอบรัก นิยาย บท 22

สรุปบท บทที่22 เฉินซู่ชิว: แอบรัก

บทที่22 เฉินซู่ชิว – ตอนที่ต้องอ่านของ แอบรัก

ตอนนี้ของ แอบรัก โดย หัวมันลู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการทรยศทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่22 เฉินซู่ชิว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ค่อยฟังน้ำเสียงร้ายๆของซูเฉินแล้ว ใบหน้าของ จ้าวซี แดงใยทันที่นั้น

"ไม่อย่าคุยด้วยแล้ว เจ้าบ้า"จ้าวซีคร่ำครวญและวางสายลง

เดินออกมาจากระเบียง ซูเฉินเห็นหลิวอี้อี้ มองมาที่เธอ เธอจึงแตะจมูกด้วยความรู้สึกผิด แล้วพูดว่า“พี่สะใภ้ ฉันควรกลับไปที่โรงเรียนละ”

“ให้พี่สะใภ้ไปส่งนะ ” หลิวอี้อี้กล่าวด้วยความรู้สึกที่ผิดหวัง

ทั้งสองคนเดินลงไปข้างล่าง แล้วจากนั้นก็กล่าวคำอำลาอย่างไม่เต็มใจ ถึงแม้ ซูเฉินจะไม่ค่อยที่อยากจากลาสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่มากจนเกินไป

"พี่สะใภ้ ฉันไปละนะ ถ้าหากเสี่ยวหยงยังมาหาเรื่องทำให้คุณลำบากอีก โทรหาฉันทันที่เลยนะ "ซูเฉินกล่าว

หลิวอี้อี้พยักหน้าแล้วกล่าวว่า" นั้นเดินทางปลอดภัยนะ"

"รู้แล้วครับ" ซูเฉินยิ้มแล้วเดินจากไป

เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู้ ซูเฉินได้พบกับ เฉินซู่ชิว ยืนนิ่งไปสักพัก แล้วเธอก็เป็นฝ่ายทักทายเขาก่อนโดยกล่าวว่า"มาแล้วเหรอครับ คุณป้า "

"ซูเฉิน?" หลังจากเฉินซู่ชิวเห็นซูเฉินแล้วถามว่า "นายมาอยู่ที่นี้ได้ไง"

" อ๋อ พี่ออกไปทำธุระ ให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้สักวันสองวัน เนี่ยกำลังจะกลับโรงเรียนละ "ซูเฉินอธิบาย

เฉินซู่ชิวเป็นแม่ของซูเจิ้ง แม่ยายของหลิวอี้อี้ ปีนี้อายุห้าสิบสามแล้ว แต่เธอยังสวย และตูดที่อวบอ้วนคู่นั้นดิ้นไปดิ้นมาในขณะเดิน ทำให้ลุงๆแก่ๆในหมู่บ้านนั้นคิดถึงไม่ใช่น้อย

"พี่นายออกไปทำธุระแล้วเหรอ?" เฉินซู่ชิวเลิกคิ้วและกลอกตาไปมาแล้วถาม"ซูเฉิน ฉันถามนายนะ.....ยาที่ฉันฝากอาสะไภ้จางมาให้ พี่สะใภ้นายได้ดื่มไปหรือยัง"

เฉินซู่ชิวนั้นจะฝากคนมาให้ยาในทุกๆเดือน เรื่องนี้ซูเฉินก็รู้อยู่แล้ว

ส่วนฝั่งซูเจิ้งนั้นไม่สามารถมีได้ แต่เพราะเรื่องการงานเลยทำให้ไปหาหมอไม่ได้ แล้วยังปกปิดเรื่องนี้จากพวกเฉินซู่ชิวอีก ในฐานนะที่เป็นแม่ของซูเจิ้งนั้น ที่ทำให้ยังไม่ได้อุ้มหลานสักที และแน่นอนว่าเธอจะเอาความผิดนี้ลงที่ลูกฉันตัวเองไม่ได้ ก็เลยค่อยกระตุ้นให้ หลิวอี้อี้ และหาวิธีแปลกๆใหม่ๆให้ หลิวอี้อี้ ลองอยู่เรื่อยๆ

โดยเหตุนี้ จึงทำให้หลิวอี้อี้กับซูเจิ้งนั้นทะเลาะกันหลายครั้ง.....

"ดื่มไปแล้ว ตอนเช้าฉันเป็นคนที่ต้มยาให้พี่สะใภ้เองด้วย แค่ได้ดมกลิ่นก็ขมละ แต่พี่สะใภ้ก็บีบจมูกและดื่มมันลงไปแล้ว!"ซูเฉินพูดด้วยคำพูดที่ดูโหดร้ายและน่ากลัว

เขารู้อยู่แก่ใจว่า ตั้งแต่วันแรกที่ เฉินซู่ชิวส่งยามาให้นั้น หลิวอี้อี้ก็ยังคงคาดหวังอยู่ชั่วคราวนึง หลังจากที่ไม่ได้ผลอะไรก็เลยไม่ลองอีกเลย จากนั้นทุกๆครั้งที่ เฉินซู่ชิวเอายามาส่ง หลิวอี้อี้ก็จะแอบไปเททิ้ง

"ดื่มไปแล้ว?" เฉินซู่ชิวมองซูเฉินด้วยความสงสัยอยู่สักพัก แล้วพูดต่ออย่างไม่ลังเลว่า"ฉันยังคงจะทำต่อเรื่อยๆ ดื่มแล้วยังไม่ได้ผล...... หรือว่าท้องเธอจะทำให้ฉันผิดหวัง?"

เมื่อได้ยิน เฉินซู่ชิวพูดแบบนี้ถึงหลิวอี้อี้ ซูเฉินไม่พอใจทันที หายใจเข้าลึกๆแล้วก็พูดว่า"ป้าครับ ผมมีเรื่องที่อยากบอกกับป้า.....เป็นเรื่องที่ผมบังเอิญได้ยินมาเมื่อเดือนก่อน!"

"เรื่องอะไร?"เดิมที่ เฉินซู่ชิวเป็นพวกขี้นินทาอยู่แล้ว เมื่อได้ยินซูเฉินพูดแบบนี้ยิ่งทำให้เธอสนใจทันทีเลย

"คุณภาพของพี่ชาย.....เหมือนจะไม่ได้ผลนะครับ" ซูเฉินแสร้งทำเป็นลึกลับ

หลังจากพูดจบเขาไม่รอให้ เฉินซู่ชิวได้มีเวลาโกรธแล้วรีบพูดเสริมต่อว่า" คุณไม่รู้เหรอว่าบริษัทพี่นั้นบ้าคลั่งแค่ไหน เขาทำงานโอทีจนถึงเที่ยงคืนพอทำเสร็จถึงจะได้กลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นทานข้าวเช้าเสร็จก็ไปทำงานเลย....ถึงแม้จะหาเงินได้แล้วแต่ร่างกายที่ไหนจะพยุ่งไหวละ คุณว่าใช่มั้ยละ คุณป้า''

เมื่อเฉินซู่ชิวได้ยินว่าลูกชายของเขาดูเหมือนจะไม่ไหวนั้น จริงๆแล้วจะดุและด่า ซูเฉิน ละ แต่พอได้ยินคำพูดต่อจากนั้น พบว่ามันก็ไม่ได้หยาบและไม่น่าฟังถึงขั้นนั้น แล้วพูดว่า

"ซูเฉิน เรื่องนี้ใครเป็นคนพูดเหรอ?" เฉินซู่ชิวซักถาม

"พี่ชายเป็นคนพูดออกมาเอง คุณไม่รู้เหรอ เนี่ยพี่ชายยังอายุไม่ถึงสามสิบเลยนะ หัวก็เริ่มล้านแล้วด้วย"

ในขณะที่กำลังพูดนั้นเหลีอบตาไปมอง เฉินซู่ชิว เห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี เลยรีบหุบปากแล้วหัวเราะและพูดต่อว่า"คุณป้าครับ นั้นผมขอกลับโรงเรียนก่อนนะครับ"

"อืม....." เฉินซู่ชิวมอง ซูเฉิน ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ รอซูเฉินเดินไปไกลแล้ว เขาก็ด่าลับหลังซูเฉินว่า"เด็กนี้ พูดอะไรดีๆไม่เป็นหรือไง"

อารมณ์ของ เฉินซู่ชิว ซี่งเดิมไม่ค่อยดีอยู่แล้ว มาเจอคำพูดของ ซูเฉิน ยิ่งแย่เข้าไปอีก

" ตูม!ตูม!ตูม! "

หลิวอี้อี้ที่พึ่งจะส่งซูเฉินออกไป แล้วกลับมาทำความสะอาดบ้าน พึ่งจะได้นั่งลงที่โซฟาก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู แล้วพูดว่า"ค่ะ มาละค่ะ"

เธอคิดว่าอาจจะเป็น ซูเฉิน ที่ลืมของไว้ก็ได้........

แต่พอเดินไปที่หน้าประตู เธอเหลือบไปมองที่ตาแมว จากนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย และหายใจเข้าลึกๆ

และปรับการหายใจให้ปกติ หลิวอี้อี้ก็เปิดประตูและพูดว่า"คุณแม่ คุณมาที่นี้ได้อย่างไงเหรอคะ?"

"ฉันจะมาอยู่ที่นี้สักสองสามวัน"เฉินซู่ชิวเดินเข้าบ้านแล้วแกล้งถามว่า"อาเจิ้งละ?"

"อาเจิ้งออกไปทำธุระที่ข้างนอก อีกไม่กี่วันถึงจะกลับมา "หลิวอี้อี้ตอบ

ในขณะที่กำลังพูดนั้น หลิวอี้อี้ก็รีบเอื้อมมือไปรับสัมภาระของ เฉินซู่ชิว มา แล้วได้สังเกตเห็นว่าไม่มีพวกวัสดุยาต่างๆอยู่ในนั้น เลยวางสัมภาระอย่างโล่งใจ

ยาพวกนั้นรุมแรงมาก ทุกครั้งที่ เฉินซู่ชิวส่งยาอะไรไม่รู้มาให้เธอก็รับไว้โดยไม่ได้ต่อต้านอะไร เพราะ เพื่อให้ทั้งบ้านไม่ต้องมีการทะเลาะกันเกิดขึ้น เธอเลยไม่ได้ว่าอะไร

"อี้อี้ เมื่อกี้ตอนที่ฉันมา ฉันเห็นซูเฉินบ้านคุณลุงของเธอด้วย"เฉินซู่ชิวกล่าว

เมื่อหลิวอี้อี้ได้ยินเธอพูดถึง ซูเฉิน ในใจเธอตึงเครียดมาทันที แต่เธอก็พูดด้วยหน้าแบบปกติ ว่า"อ๋อ ในช่วงวันหยุดเขาก็จะมาเที่ยวหาเป็นบางครั้ง"

"อ๋อ "เฉินซู่ชิวพยักหน้า แต่สายตาเธอมองไปที่ หลิวอี้อี้ ราวกับว่ามองอะไรออก

"คุณแม่คะ คุณแม่กินอะไรก่อนที่จะมาที่นี้แล้วยังคะ?เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้กิน! " หลิวอี้อี้กล่าว

ในอีกฝั่งนึง ซูเฉินกลับถึงโรงเรียนก็รีบไปหาจ้าวซีเลย

ตอนนี้ทั้งสองนั้นกำลังอยู่ในสถานะความรักที่เร่าร้อนอยู่ พูดได้เลยว่าไม่เจอวันเดียวเหมือนไม่เจอกันมาเป็นปี พอได้เจอกับจ้าวซี ซูเฉินยังไม่ได้รีบเข้าไปกอดจ้าวซีเลยแต่กลับเป็นจ้าวซีเองที่วิ่งเข้ามากอด ซูเฉินก่อน

"หึๆ คราวนี้กลับรุกก่อนนะ "ซุเฉินรู้สึกถึงความนุ่มนวลของจ้าวซี และยื่นมือไปตบตูดของเธอ ทั้งนุ่มทั้งเด้งสัมผัสถึงความยืดหยุ่น......

จ้าวซีหน้าแดงและมองไปดูรอบๆเพื่อสังเกตว่าไม่มีใครมองมาที่เธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เขินๆอายๆว่า "นิสัยไม่ดี เจอครั้งแรกก็ตีตูดเค้าเลย"

"ใครให้บั้นท้ายเด้งแบบนี้ละ" ซูเฉินมองไปที่ฝ่ามือของเขาแล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า "แต่ว่ายิ่งตียิ่งเด้ง "

ในขณะที่กำลังพูดอยู่ ซูเฉินก็จะยกมือไปตีครั้งที่สอง

"ไอ่บ้า"จ้าวซีหน้าแดงและรีบถอยตัวออกจากซูเฉิน

ทั้งสองกำลังวิ่งไล่จับกันอยู่ สักพักจ้าวซีก็โดนซูเฉินจับได้ แล้วมองไปรอบๆสังเกตเห็นไม่มีใคร เดินไปที่กำแพงแล้วเริ่มจูบกันและสัมผัส........

อีกฝั่งนึงขอซูเจิ้ง ระหว่างเวลาที่เขาออกไปทำธุระที่ข้างนอกนั้น ถูกสายเรียกเข้าจาก เฉินซู่ชิวโทรมาถล่มอย่างต่อเนื่อง กว่าจะทำงานเสร็จก็ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อบินกลับบ้านเลย

พอถึงบ้านยังไม่ทันได้พักผ่อน เฉินซู่ชิวก็พาทั้งคู่ไปที่โรงพยาบาลเลย ภายใต้ความกดดันของเธอ ทั้งสองก็เลยต้องเข้ารับการตรวจ

หลังจากผลตรวจออกมาแล้ว หลิวอี้อี้ไม่มีปัญหาใดๆเลย แต่ซูเฉินนั้นมีอัตราการรอดชีวิตของสเปิร์มต่ำมาก แทบจะไม่สามารถมีบุตรได้

แล้วนอกจากนี้ซูเฉินยังมีความกดดันที่ได้มาจากการทำงานหนักและการนอนดึกในเป็นระยะเวลานานๆแล้วก็ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา ให้มารักษาในตอนนี้ ก็ไม่น่ามีโอกาสละ......

เมื่อเห็นผลตรวจของทั้งสอง เฉินซู่ชิวแทบทรุดลงไป ร้องไห้ออกมาในตรงนั้นเลย แล้วพูดว่า"บาปกรรมอะไรของฉันเนี่ย จะให้ฉันเอาหน้าที่ไหนไปเจอพ่อที่เสียแล้วของเธอเนี่ย.......ถ้าอนาคตฉันตายแล้วพ่อของเธอถามถึงทายาทตระกูลซูละ ฉันจะตอบเขาว่ายังไง.....ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ที่แล้ว!"

หลิวอี้อี้รู้นิสัยของเฉินซู่ชิวอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเอะอะโวยวายในโรงพยาบาล เขาจึงผลักซูเจิ้งแรงๆและพูดว่า"รีบไปพยุงเธอขึ้นแล้วกลับบ้านสิ"

ซูเจิ้งก็อายจนหน้าแดง และรีบไปดึงเฉินซู่ชิวขึ้นมาแล้วพูดเอาใจเธอจนเธอยอมกลับบ้านไปด้วยกัน

ในไม่กี่วันต่อจากนี้ครอบครัวของหลิวอี้อี้นั้นอยู่ด้วยกันอย่างอึดอัดใจ....ยังดีที่อาทิตย์หน้าหลิวอี้อี้ ก็จะได้กลับไปทำงานที่หน่วยงานแล้วแต่ซูเจิ้งนั้นพึ่งไปทำธุระกลับมาบริษัทเลยหยุดให้เขาพักผ่อนสามวัน

ตลอดสามวันนี้ ซูเจิ้งได้ฟังคำบ่นและเสียงร้องไห้ของเฉินซู่ชิวอยู่ตลอดสามวันนี้ เขาแทบจะเป็นบ้า

แป๊ปเดี๋ยว ก็ถึงคืนวันศุกร์แล้ว ซูเจิ้งนึกได้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้เจอซูเฉินมานานละ เขาจึงถามหลิวอี้อี้ว่า"อาทิตย์นี้ยังจะไปรับซูเฉินมาอีกมั้ย"

"อย่าเลยดีกว่า....."หลิวอี้อี้หันไปมองเฉินซู่ชิว แล้วพูด

ในตอนนี้เฉินซู่ชิวก็เอาแต่ร้องไห้อยู่ทุกวัน ให้ซูเฉินมาเห็นเข้าก็น่าอับอายเข้าไปอีก แม้ว่าพวกเขาจะมองซูเฉินเป็นน้องชายก็เถอะ แต่ความอัปลักษณ์ของครอบครัวก็ไม่ควรเปิดเผยออกไป เรื่องแบบนี้ไว้เป็นความลับยังดีกว่า!

ใครจะรู้ พอเฉินซู่ชิวได้ยินชื่อซูเฉินเข้า ร่างกายสะดุ้งไปเล็กน้อยและพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า"ให้ซูเฉินมา ถ้าเธอไม่ไหว ให้ซูเฉินมามีบุตรกับอี้อี้เอง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก