สรุปเนื้อหา บทที่ 86 ครุ่นคิด – แอบรัก โดย หัวมันลู
บท บทที่ 86 ครุ่นคิด ของ แอบรัก ในหมวดนิยายการทรยศ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หัวมันลู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เมื่อซูเฉินแกล้ง จู่ๆจ้าวซีก็นึกขึ้นได้ว่า เธอและซุเฉิไม่ได้แกล้งหยอกล้อกันแบบนี้นานมากแล้ว หรือแม้แต่จูบ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จ้าวซีก็เลยหลับตาลง และหอมไปที่แก้มของซูเฉินหนึ่งที" ม๊วฟ" และรีบพูดด้วยใบหน้าแดงๆว่า "ไปได้แล้ว พวกเราไปกินข้าวกัน"
ซูเฉินได้ยินจ้าวซีพูดแบบนี้ ก็รู้สึกหิวขึ้นมา เขาก็เอามือโอบเอวเล็กๆของจ้าวซ๊และเดินไปกินข้าว
ระหว่างทาง จ้าวซีถามเรื่องครอบครัวของซูเฉิน " ซูเฉิน ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นพี่ชายของนายจริงๆหรอ ทำไมรู้สึกว่าพวกนายสองคนดูท่าทางไม่ค่อยเข้ากันเลย?
"เขาเป็นลูกชายของลุงคนโต กินดื่มเล่นการพนันตั้งแต่เด็ก เมื่อไม่กี่ปีก่อนก็ติดคุกสี่ปีเพราะคดีอาชญากรรม และยังบอกว่าจะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลซู.....ตอนนี้มาหาฉัน ก็เพราะอยากจะแย่งบ้านมาจากพี่สะใภ้ แน่นอนว่าไม่มีทางเข้ากันได้กับฉัน" ซูเฉินพูด
มีหลายๆเรื่องที่จ้าวซีไม่รู้ เธอไม่รู้ว่าซูเจิ้งและซูเฉินไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน และไม่รู้ว่าซูเจิ้งและหลิวอี้อี้หย่ากันแล้ว และ....ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างซูเฉินและหลิวอี้อี้
ในทางกลับกัน เธอรู้สึกว่าสถานการณ์ที่หลิวอี้อี้เป็นในตอนนี้ มันทำให้เธอสงสารมากๆ การที่ซูเฉินไปช่วยหลิวอี้อี้ เธอสนับสนุนเต็มที่
ฟังซูเฉินเล่าเรื่องของซูเอ้อหู จ้าวซีรู้สึกกลัวมาก เธอพูดว่า "งั้น....ถ้าเขาไปหาพี่สะใภ้ แล้วพี่สะใภ้จะไม่ตกอยู่ในอันตรายหรอ?"
"น่าจะไปหาไม่เจอ พี่สะใภ้พักอยู่บ้านพี่ถิงถิง ไม่ว่าจะเป็นซูเอ้อหูหรือว่าเฉินซู่ชิว พวกเขาไม่รู้ว่าบ้านพี่ถิงถิงอยู่ที่ไหน " พูดจบ ซูเฉินก็ขมวดคิ้ว และพูดว่า " แต่....ช่วงน้ฉันเองก็ไม่สามารถไปที่นั่นได้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้ซูเอ้อหูแอบสะกดรอยตามฉันไป"
"เขาจะทำหรอ?" จ้าวซีพูดด้วยความกังวล
"ไม่แน่"ซูเฉินคิดถึงซูเอ้อหูในสมัยก่อน ก็เลยรู้สึกว่าต้องระวังมากขึ้น
"งั้น....เขาจะทำอะไรไม่ดีกับพวกเรามั้ย?" จ้าวซีได้ยินซูเฉินพูดแบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น
"คงจะไม่ เขามาครั้งนี้เพื่อต้องการทรัพย์สิน ถ้าเขาทำเรื่องไม่ดีก็จะส่งผลเสียต่อเขาเอง....อีกอย่าง ยังมีฉันอยู่ข้างๆเธอ เธอจะกลัวอะไร?" ซูเฉินพูดจบ ก็ชี้ไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง และพูดว่า "บะหมี่ กินมั้ย?"
"ได้" จ้าวซีตอบตกลง
หลังจากเข้าไปในร้านแล้ว ทั้งสองคนก็สั่งบะหมี่หมูตุ๋นและบะหมี่ซุปมะเขือเทศไข่ดาว และยังสั่งอย่างอื่นอีกนิดหน่อย บังเอิญซูเฉินอารฒณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยสั่งเบียร์ไปอีกสองขวด
ตอนกินข้าว จ้าวซ๊มองซูเฉินตลอด และพูดว่า " เออใช่ ฉันมีอีกเรื่องที่อยากจะคุยกับนาย"
"เรื่องอะไร?" ซูเฉินแปลกใจ
"เสาร์อาทิตย์นี้ เพื่อนๆรูมเมทของฉันจะไปทำปิ้งย่างกินกันบนเขา ทำอาหารกินกัน.......ทุกคนพาแฟนกันไปหมดเลย" จ้าวซีพูด และมองมาที่ซูเฉินด้วยความหวัง
ถ้าเป็นปกติล่ะก็ จ้าวซีจะไม่กลัวเลย แต่เมื่อซูเอ้อหูโผล่มา ทำให้จ้าวซีรู้ว่า เรื่องนี้มันร้ายแรงเพียงใด
"ได้สิ"ซูเฉินตอบรับโดยไม่คิด
เพราะยังไงช่วงนี้ไปหาหลิวอี้อี้น้อยจะเป็นการดีที่สุด เกิดโดนซูเอ้อหูสะกดรอยตามขึ้นมาจะทำอย่างไร
"อิอิ นายดีที่สุดเลย"จ้าวซีเห็นซูเฉินตอบตกลง ก็เลยหอมแก้วเขาไปสองฟอดด้วยความดีใจ
แต่ซูเฉินก็รู้สึกว่าไม่เป็นอะไร สำหรับผู้หญิงที่แตกต่างกัน ลำดับชั้นก็แตกต่างกัน เช่น หลิวอี้อี้ ซูเฉินและเธอคลอเคลียกัน มีแตะต้องบ้างในบางครั้ง ได้จับหน้าอกบ้างนิดหน่อย จูบบ้าง นี่ก็ถือว่ามีความสุขมากแล้ว
ส่วนหยางถิง นั่นได้ทำเต็มที่จริงๆ และยังมีหลายๆท่าทางได้ลองทำ มันสวยงามมากจริงๆ
ส่วนเด็กน้อยจ้าวซี สิ่งที่ซูเฉินเพลิดเพลินก็คือ กระบวนการพัฒนา จากที่ซูเฉินรู้มา จ้าวซีไม่เคยมีแฟนมาก่อน อาจจะเพราะว่าเป็นเด็กเรียนดี ตั้งแต่เด็กจนโตก็เอาแต่เรียนและทำกิจกรรม ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าผู้หญิงแบบนี้จีบยาก ก็เลยมีคนจีบเธอน้อย
อีกอย่าง ซูเฉินรู้ว่าตอนเรียนมัธยมจ้าวซีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่นั่งติดกันกับเธอ แต่อายที่จะแสดงออก ในที่สุดก็เก็บอยู่อย่างนั้นตลอดไป..........
ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ว่าจ้าวซีเป็นคนมีนิสัยขี้ขลาด ความรู้สึกยืนยาว อีกทั้งในด้านความรู้สึกเธอเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ
หลังจากที่ซูเฉินเข้าใจดีแล้ว ซูเฉินก็เลยเริ่มค่อยๆสนใจจ้าวซีมากขึ้น แต่ในใจรู้ดีว่า ผู้หญิงอย่างจ้าวซี ถ้าเขาดึงดันไม่ยอมแพ้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้มา............
เพียงแค่ถ้าเป็นแบบนั้น จ้าวซีก็จะติดพันเขามากขึ้น ดังนั้น ซูเฉินก็เลยห้ามใจไว้
ถ้าหลิวอี้อี้ยอมรับในตัวเขา งั้นซูเฉินก็ไม่มีทางมีความสัมพันธ์กับจ้าวซีไปถึงขั้นนั้น แต่ในทางกลับกัน จริงๆจ้าวซีเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมจะเอามาเป็นแฟนมากๆ
ถึงแม้การจับปลาสองมือจะดูโลภมาก แต่ในความเป็นจริง ผู้ชายก็โลกกันทุกคน
สมองก็คิดไป แต่ซูเฉินก็ไม่หยุดขยับทางร่างกาย เขากอดจ้าวซีเบาๆ หลังจากนั้นก็เริ่มจูบกัน นานแล้วที่จ้าวซีไม่ได้จูบกับคนรัก ก็เลยไม่ได้ต่อต้านแม้แต่น้อย เธอโดนซูเฉินกอด และหลังจากที่ประกบปากกันแล้ว มือทั้งสองข้างของเธอก็คล้องที่คอของซูเฉิน หลังจากนั้นก็เริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างจริงจัง
ซูเฉินจูบจ้าวซี ดูดน้ำลายของเธอ มือใหญ่ๆของเขาก็สอดเข้าไปใต้เสื้อของเธอ......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก