ซูจิ่วเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกหมดแรง
จู่ๆเธอก็รู้สึกเห็นใจลี่ถิงเซิ่งขึ้นมา
ถ้าเธอเดาไม่ผิด อย่างน้อยในใจของลี่ถิงเซิ่งก็น่าจะมีสวี่รั่วฉิงแล้ว
และเพื่อนสนิทของเธอก็มีความรู้สึกดีๆให้ลี่ถิงเซิ่งเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าพูดว่าอยากเลี้ยงต้อยเขาตอนเมาหรอก
แต่ว่า…...
เมื่อซูจิ่วเอ๋อร์เหลือบตามองสายตาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของสวี่รั่วฉิง ก็ใช้มือคล้ำหน้าผาก
ใครจะไปคิดว่าสวี่รั่วฉิงจะซื่อบื้อเรื่องความรักขนาดนี้ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าลี่ถิงเซิ่งปฏิบัติต่อเธอพิเศษขนาดไหน
ซูจิ่วเอ๋อร์ตบไหล่สวี่รั่วฉิงเบาๆ “เด็กดีของฉัน เตรียมขึ้นเครื่องเถอะ”
สวี่รั่วฉิงเหลือบมองซูจิ่วเอ๋อร์อย่างแปลกใจ หรือว่าที่เธอเพิ่งตอบไปเมื่อกี้ไม่ถูกเหรอ
เธอพูดถ้อยคำที่ทำให้ขัดเคือง แต่ว่าก็ยังไม่ถูกไล่ออก…….
นอกจากเรื่องที่เธอยังมีประโยชน์กับลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ยังมีเหตุผลอื่นอีกเหรอ?
หลังจากขึ้นมาบนเครื่อง สวี่รั่วฉิงก็เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนเหมือนที่ทำประจำ เมื่อแกะผ้าปิดตาส่งให้สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานเสร็จ เธอก็แกะใส่เองบ้าง แล้วจึงนอนหลับพักผ่อน
จนกระทั่งถอดผ้าปิดตาออก ถึงได้พบว่ากำลังจะถึงเมืองหลินชวนในเช้าอีกวัน
สวี่รัวฉิงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา
ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเครื่องถึงจะลงจอด
อากาศนอกหน้าต่างไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะมีหมอกปกคลุมเล็กน้อย
สวี่รั่วฉิงเปิดประตูไปยังห้องข้างๆ แล้วเคาะประตูเบาๆ “จิ่วเอ๋อร์ ตื่นหรือยัง? อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงเมืองหลินชวนแล้วนะ”
เสียงของซูจิ่วเอ๋อร์ดังมาจากในห้อง “ตื่นแล้วๆ แกรีบไปแต่งตัวเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมารับไม่ใช่เหรอ?”
สวี่รั่วฉิงทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดแซวๆของเพื่อนสนิท แล้วเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง เปลี่ยนมาใส่ชุดลำลองสบายๆ
วันนี้อากาศข้างนอกไม่ได้อบอุ่นเท่าไหร่ สวี่รั่วฉิงคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ใส่เสื้อไหมพรมเข้าไปเพิ่มอีกตัวหนึ่ง
หลังจากแต่งหน้าเสร็จ เธอก็รวบผมดำสลวยมามัดไว้ที่ท้ายทอย พร้อมเก็บปอยผมให้เรียบร้อย
เมื่อมองตัวเองในกระจกก็เม้มริมฝีปาก
ไม่ได้ไปงานสังคมอะไรสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้มั้ง
แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าการแต่งหน้าบางๆไม่สามารถปกปิดความเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องได้เลยล่ะ?
สวี่รั่วฉิงพลันนิ่งอยู่ชั่วครู่
นี่เธอกำลังแคร์ว่าลี่ถิงเซิ่งจะคิดยังไงเหรอ?
เธอเคยคิดอะไรแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นสักครั้งไหม?
มือที่ถือลิปสติกอยู่ของสวี่รั่วฉิงหยุดชะงัก เธอคิดอยู่สักพักสุดท้ายก็ไม่ได้เช็ดลิปสติกที่ทาบางๆอยู่บนริมฝีปากออก
เมื่อแต่งหน้าเสร็จก็เก็บกระเป๋าเครื่องสำอางลงในกระเป๋าเดินทาง จากนั้นสวี่รั่วฉิงก็ปลุกเด็กน้อยทั้งสองคนที่ยังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมา
“ตื่นได้แล้ว กลับบ้านเรากัน”
เสียงของหญิงสาวนุ่มนวล ราวกับกำลังบอกลูกๆ พร้อมกับบอกตัวเองไปในตัว
ณ สนามบินนานาชาติหลินชวน
วันนี้อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เริ่มมีลมหนาวพัดหวิวๆบ้างแล้ว
ภายในห้องรับแขกVIP ลี่ถิงเซิ่งนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่บนโซฟา
หลี่อานที่อยู่ข้างๆนิ่งเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงดังออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ