สวี่รั่วฉิงเข็นกระเป๋าของตัวเอง “งั้นฉันไปก่อน อี้ฝานอี้หาน เชื่อฟังคุณมี๊เขาล่ะ เข้าใจไหม?”
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “คุณแม่ วางใจได้เลย!”
“แกไม่ต้องห่วงหรอก คืนนี้ฉันพาลูกรักของแกไปส่งถึงที่อย่างปลอดภัยแน่นอน แต่มีข้อแม้ว่าแกห้ามออกไปเถลไถลที่ไหนกับประธานลี่ของแกเด็ดขาดเชียวนะ” ซูจิ่วเอ๋อร์มองมาที่สวี่รั่วฉิงอย่างแซวๆ มุมปากเผยรอยยิ้มมีลับลมคมในออกมา
สวี่รั่วฉิงโน้มตัวลงไปลูบผมนิ่มๆของสวี้อี้ฝานกับสวี่อี้หาน “งั้นแม่ไปแล้วนะ”
เธอเข็นกระเป๋าเดินทาง ตรงไปยังทางออก
ผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้มีไม่เยอะ คนมารับจึงมีน้อย
ตอนแรกสวี่รั่วฉิงคิดว่า คนนิสัยและฐานะอย่างลี่ถิงเซิ่งคงไม่มารอตรงทางออกแน่ๆ อย่างน้อยเขาน่าจะรออยู่ในห้องรับรอง
แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็พลันหยุดชะงักฝีเท้า จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ห่างจากเธอแค่ราวกั้น
ลี่ถิงเซิ่งยังคงเหมือนเดิม เขาสวมใส่ชุดสูทสีดำที่สั่งทำกับมือ เนกไทสีเข้มผูกเอาไว้กับลำคออย่างเรียบร้อย มือข้างหนึ่งสอดเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง เผยให้เห็นผิวขาวๆที่โผล่พ้นออกมาเพียงเล็กน้อย
นัยน์ตาสีเข้มคมปลาบกวาดมองใบหน้าของเธอ ริมฝีปากบางขยับเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ยังไม่เดินมาอีก?”
วันนี้สวี่รั่วฉิงไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูง
เวลานั่งเครื่องบิน เพื่อความสบายตัว เธอมักจะไม่ใส่รองเท้าส้นสูง
ด้วยเหตุนี้เธอจึงเข็นกระเป๋าไปหยุดอยู่ตรงหน้าลี่ถิงเซิ่งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว จากนั้นก็เงยหน้าจ้องมองดวงตาลึกล้ำของเขา
ขอบตาของเขาดูคล้ำๆ ต้องเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอแน่ๆ
สวี่รั่วฉิงเก็บสายตากลับมา เธอมองสำรวจรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนคุ้นเคย
“หลี่อานไม่ได้มาด้วยเหรอ?” สวี่รั่วฉิงค่อนข้างแปลกใจ ปกติแล้ว หลี่อานน่าจะติดตามลี่ถิงเซิ่งทุกที่ทุกเวลานี่นา
น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งเป็นปกติมาก “ผมให้เขากลับไปแล้ว”
สวี่รั่วฉิงไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากที่ชายหนุ่มออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่สนามบินเสร็จ ก็หันมาพูดกับเธอว่า “เอาที่อยู่ของคุณให้เขา”
สวี่รั่วฉิงตอบอืม จากนั้นก็เขียนที่อยู่ลงบนกระดาษโน๊ต ส่งให้เจ้าหน้าที่
เมื่อเจ้าหน้าที่รับมา ก็ยิ้มให้อย่างสุภาพ “ประธานลี่ คุณแอน โปรดวางใจ ทางเราจะส่งกระเป๋าของคุณแอนไปถึงที่หมายให้ตรงเวลา”
เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้ลูกน้องเข็นกระเป๋าของสวี่รั่วฉิงออกไป จากนั้นก็หันมาพูดกับลี่ถิงเซิ่งอย่างอ่อนน้อมว่า “ประธานลี่ งั้นผมไม่รบกวนเวลาของคุณทั้งสองแล้วครับ”
สวี่รั่วฉิงกะพริบตาปริบๆ แล้วเงยหน้ามองผู้ชายข้างกาย
“ประธานลี่ จริงๆแล้วฉันขนกระเป๋ากลับเองก็ได้นะ” ไม่เห็นต้องให้เจ้าหน้าที่สนามบินเอาไปส่งให้เลย สวี่รั่วฉิงยังไม่ทันได้พูดประโยคหลังออกมา
ลี่ถิงเซิ่งทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของสวี่รั่วฉิง ทอดสายตามองผมที่มัดไว้หลังท้ายทอยของเธอแล้วพูดว่า “ไปได้แล้ว”
เดิมทีขาของชายหนุ่มก็ยาวอยู่แล้ว ก้าวทีนึงก็เท่าสองก้าวของสวี่รั่วฉิงแแล้ว
ยังดีที่วันนี้สวี่รั่วฉิงไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูง ไม่อย่างนั้นเธอคงเดินหอบไปแล้ว
สวี่รั่วฉิงแอบคิดในใจว่า คู่ควงคนก่อนๆของลี่ถิงเซิ่งรับมือกับเขาได้ยังไงกันนะ?
นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตัวเองเดินเร็วขนาดไหน!
ขายาวเกินไปแล้ว!
ราวกับลี่ถิงเซิ่งรับรู้ว่าผู้หญิงที่ตามมาข้างหลังกำลังสาปส่งตัวเองในใจ จู่ๆเขาก็หยุดเดิน
สวี่รั่วฉิงเบรกไม่ทัน หน้าผากกับจมูกจึงชนเข้ากับแผ่นหลังของลี่ถิงเซิ่งเข้าอย่างจัง
เจ็บ เจ็บมากๆ ตอนนี้จมูกของเธออาจจะเบี้ยวไปแล้วก็ได้! สวี่รั่วฉิงกุมจมูกที่ขึ้นสีแดงของตัวเองพร้อมกับพร่ำบ่นในใจ
ทว่ากลิ่นบนสูทของชายหนุ่ม กลับลอยอบอวลอยู่ในจมูกของเธอ
กลิ่นบุหรี่จางๆ ผสมปนเปไปกับกลิ่นสมุนไพรหอมๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ