แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ นิยาย บท 213

หญิงวัยกลางคนยังพูดต่ออีก "ถ้าเธอไม่เชื่อก็สามารถไปตรวจสอบได้ ปลายเดือนสิบของฤดูใบไม้ร่วงเมื่อหกปีก่อน มีเที่ยวบินออกเดินทางจากเมืองหลินชวนมาที่สเปน นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเราเจอกันเป็นการส่วนตัว"

ซูจิ่วเอ๋อร์ฟังอย่างตั้งใจ จดจำคำพูดทั้งหมดของหญิงตรงหน้า "ถ้างั้นคุณรู้ไหมว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนแล้ว?"

"ตอนนี้ไม่มีใครรู้แล้ว ครั้งสุดท้ายที่ฉันติดต่อกับเธอ ก็คือเดือนสิบของเมื่อหกปีที่แล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลย บางทีเธออาจจะตายไปแล้วก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะกลับเข้าป่าเขาไปแล้ว คงไม่อยากเป็นนักปรุงน้ำหอมอีกต่อไปแล้วแหละมั้ง"

ซูจิ่วเอ๋อร์พูด "ไม่อยากปรุงน้ำหอมให้คนอื่นๆ คุณรู้ได้ยังไง? แล้วก็ คุณมีรูปถ่ายของเธอหรือเปล่า? ฉันต้องการแน่ใจว่าเธอใช่คนที่ฉันกำลังต้องการตามหาจริงๆหรือเปล่า"

หญิงวัยกลางคนส่ายหน้า เธอพูดอย่างเสียดาย "ฉันไม่มีรูปภาพของเธอหรอก คนที่มีรูปถ่ายของเธอบนโลกนี้มีไม่มากนักหรอก เธอมีนิสัยสันโดษ ไม่ชอบให้คนอื่นมีรูปถ่ายของเธอเก็บไว้ ส่วนอีกคำถามที่เธอถาม ฉันเพียงแค่รู้ว่าเธอนั้นไม่อยากเป็นคนปรุงน้ำหอมอีกต่อไป ดูเหมือนเหตุผลจะเกี่ยวข้องกับญาติพี่น้องของเธอนะ"

ญาติพี่น้องเหรอ? หรือว่าป้าหวังยังมีญาติคนอื่นๆอีก? ซูจิ๋วเอ๋อร์รีบจดจำข้อมูลจุดนี้ เตรียมกลับไปบอกสวี่รั่วฉิง

ซูจิ่วเอ๋อร์คิด พร้อมกับเงยหน้ามองผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้า เธอถามอย่างจริงจัง "งั้นคุณมีอะไรที่พิสูจน์ตัวคนที่คุณพูดถึงได้บ้าง ว่านั่นคือคนที่พวกเราต้องการตามหาจริงไหม?"

หญิงวัยกลางคนนั้นปิดปากแน่นพร้อมคิดหนัก

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็เปิดกระเป๋าของตนเอง หยิบขวดน้ำหอมในกระเป๋าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ผลักขวดน้ำหอมขวดนั้นมาหยุดตรงหน้าเธอเบาๆ

"นี่คือของขวัญที่เธอเคยให้ฉันไว้ ถ้าคนคนนั้นที่พวกคุณต้องการตามหาเคยปรุงน้ำหอมให้พวกคุณเช่นกันล่ะก็ ฉันคนนี้แนะนำนะคุณซู ให้คุณเชิญนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆให้มาตรวจสอบยืนยันได้เลย น้ำหอมของพวกนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ปรุงออกมาจะมีส่วนประกอบหลักสำคัญที่เป็นจุดเด่นของพวกเขาใส่ไว้ในนั้น ฉันพูดเท่านี้ คุณก็คงจะเข้าใจได้แล้วนะ"

หลังพูดจบ หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็ยกกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็ลุกขึ้น มุ่งเดินออกจากร้านกาแฟไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

ซูจิ่วเอ๋อร์หยิบขวดน้ำหอมที่หญิงวัยกลางคนคนนั้นทิ้งไว้ให้ขึ้นมา แล้วก็จมดิ่งกับความคิด

เลขาของซูจิ่วเอ๋อร์เดินมาข้างๆตัวเธอ "ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วนะคุณผู้หญิง ข้อมูลที่เธอพูดนั้นถูกต้องแม่นยำใช่หรือเปล่า…"

ซูจิ่วเอ๋อร์พยักหน้า น้ำเสียงนั้นฟังดูจริงจัง "พวกเราต้องเตรียมกลับไปเมืองหลินชวน เรื่องนี้ต้องบอกต่อหน้าสวี่รั่วฉิงเท่านั้น ตอนนี้เธอช่วยรีบของตั๋วเครื่องบินกลับเมืองหลินชวนให้ฉันด่วน ยิ่งเร็วยิ่งดี ต่อให้ไม่ใช่ชั้นเฟิร์สคลาสก็ไม่เป็นไร!"

ซูจิ่วเอ๋อร์พูดจบ ก็เก็บขวดน้ำหอมเข้ากระเป๋าตัวเองทันที

แม้จะไม่ได้รับข่าวของป้าหวังโดยตรง แต่มีน้ำหอมขวดนี้ต้องช่วยสวี่รั่วฉิงได้แน่

ตอนที่สวี่รั่วฉิงได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทอย่างซูจิ่วเอ๋อร์ หลังจากเพิ่งประชุมเสร็จ

โทรศัพท์สีดำของเธอนั้นเหมือนกับของผู้ชายใช้เลย

ตอนที่ลูกน้องถามว่าโทรศัพท์ใครดัง สวี่รั่วฉิงก็หยิบโทรศัพท์สีดำของเธอขึ้นมาดู แล้วพูดนิ่งๆ "โทรศัพท์ของฉันเอง"

ลูกน้องของสวี่รั่วฉิงก็ทำหน้าตกตะลึงขึ้นมาไม่หยุด

ไอ้ควาย โทรศัพท์นี้มันเหมือนของผู้ชายใช้ซะเหลือเกิน ลูกน้องพูดสบถเงียบๆ

หลังจากสวี่รั่วฉิงพูดจบ ก็หันไปมองบนหน้าจอโทรศัพท์

ทำไมถึงเป็นจิ่วเอ๋อร์? ตอนนี้ทางฝั่งทวีปยุโรปควรจะเป็นเวลากลางคืนแล้วนี่ สวี่รั่วฉิงคิดในใจ ค่อยๆคิดว่าก่อนหน้านี้ ซูจิ่วเอ๋อร์บอกกับเธอว่าจะไปเที่ยวสเปน

หรือบางทีจิ่วเอ๋อร์อาจจะรู้ข่าวแล้วว่าป้าหวังไปหลบอยู่ที่ไหน? หรือจะโทรมาเกี่ยวกับเรื่องของป้าหวัง?

สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้ว แล้วสั่งกำชับฝากฝังงานให้กับลูกน้อง จากนั้นก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือรีบออกไปจากห้องประชุมอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินมาตรงถึงจุดที่เงียบสงบไม่มีคน เธอก็รับโทรศัพท์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ