หลินซวงเปิดฝักบัวอาบน้ำได้ไม่ทันไร จู่ๆ ก็มีฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนยื่นเข้ามาจากทางด้านหลัง
เธอถูกปิดปากและกดร่างเอาไว้
จากนั้นก็ตามด้วยการรุกรานที่รุกล้ำเข้ามาอย่างหนักหน่วงรุนแรง…
อ๊ะ! หลินซวงอยากร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับกลายเป็นเสียงร้องครวญครางแทน
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังรุนแรงและดุดันมากเกินไป เขาไม่ให้โอกาสเธอได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย
ในชั่วเวลาเพียงพริบตาเดียว ภายใต้การรุกรานของเขาก็ทำให้ขาทั้งคู่ของหลินซวงอ่อนยวบลง และสมองของเธอก็มึนเบลอไปหมดทันที
ฝักบัวอาบน้ำยังคงปล่อยสายน้ำออกมาอย่างไม่ขาดสาย ผิวของเธอนุ่มลื่นราวกับแพรไหมอยู่ในความเปียกปอนนั้น
“กล้าวางแผนเล่นงานฉันเหรอ รนหาที่จริงๆ!”
“ต่อต้านทำไม! เธออยากให้ฉันทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้!”
แรงกระแทกกระทั้นที่รุนแรงของชายหนุ่มมาพร้อมกับถ้อยคำผรุสวาทอันแสนอำมหิต และมันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลยแม้แต่น้อย
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังพลิกร่างของหลินซวงให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองและรับการจู่โจมของเขาแทน
ผ้าขนหนูผืนหนึ่งถูกโยนเข้ามาและปิดใบหน้าของหลินซวงเอาไว้จนมิด
หลินซวงปล่อยให้ชายหนุ่มโถมกายเข้าหาเธอได้ตามอำเภอใจ ทว่าในท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่เห็นเลยว่าเขาคนนั้นคือใคร?
ในที่สุดเขาก็ยุติการกระทำทุกอย่างลงพร้อมกับโยนบัตรธนาคารใบหนึ่งลงบนพื้น ‘ฟึ่บ’
“ถึงเธอจะวางยาฉัน แต่ฉันจะไม่เอาเปรียบเธอหรอก สิบล้าน สำหรับครั้งแรกของเธอ!”
‘ปึง!’ ประตูถูกปิดลงพร้อมกับชายหนุ่มคนนั้นที่เดินออกไป
หลินซวงแน่นิ่งไร้เรี่ยวแรงอยู่ในอ่างอาบน้ำ
เขาเป็นใครกันแน่ เขาถูกคนอื่นวางยามา แต่กลับมาเอาคืนกับเธองั้นเหรอ?
ฝ่ายเคาน์เตอร์บริการเองก็หาชายคนนี้ให้ไม่ได้ เนื่องจากโรงแรมได้ลบบันทึกภาพจากวงจรปิดไปหมดแล้ว
มีเพียงบัตรธนาคารเท่านั้นที่แสดงให้ทราบว่าผู้ที่ถือบัตรใบนี้ชื่อว่าจ้านอวี่หาน!
เมื่อหลินซวงสืบสาวราวเรื่องไปถึงจ้านซื่อกรุ๊ป พนักงานหน้าเคาน์เตอร์บริการก็บอกเธอว่า ‘คุณจ้านไปต่างประเทศนานแล้วนะคะ ไม่มีใครติดต่อเขาได้เลยสักคน’
หลินซวงกุมบัตรธนาคารที่มีเงินสิบล้านอยู่ในนั้นอย่างเหม่อลอย
เธอไม่สามารถยืนยันให้แน่ใจได้เลยว่าผู้ที่ถือบัตรคนนั้นจะใช่คนเดียวกับคนที่ล่วงล้ำต่อเธอหรือไม่
หาข้อมูลของเขาในอินเทอร์เน็ตก็ไม่เจอเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มคนนั้นช่วงชิงครั้งแรกของเธอไปทั้งอย่างนั้น จากนั้นก็หายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ทุกสิ่งเหมือนดั่งความฝันที่มันลวงตาและไม่มีจริง
แต่ความจริงก็เข้ามาตบหน้าหลินซวงอย่างรวดเร็วเมื่อเธอพบว่าตัวเอง…กำ! ลัง! ท้อง!
ครอบครัวนักธุรกิจผู้มีความมั่งคั่งอยู่ในระดับกลางอย่างตระกูลหลินเดือดพล่านขึ้นมาทันที
หลินซวงถูกพ่อของเธอด่าทอใส่หน้าปาวๆ ทั้งยังถูกแม่เลี้ยงสาดไล่ด้วยน้ำสกปรก
จากคุณหนูผู้สูงศักดิ์มั่งมี ต้องตกไปเป็นผู้หญิงสำส่อนที่ถูกผู้คนตราหน้าเหยียดหยามและกลายเป็นที่โจษจันไปทั่ว
~
กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปห้าปีแล้ว
“ฉบับพิเศษ!”
หลินซวงได้รับข่าวคราว “ประธานคณะกรรมการบริหารจ้านซื่อกรุ๊ปป่วยหนักรอมร่ออยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้จ้านอวี่หานจึงกลับมาจากต่างประเทศเพื่อไปเยี่ยมเยือน”
ใต้ข่าวยังแนบรูปภาพที่แอบถ่ายไว้ด้วยรูปหนึ่ง ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทและเนกไทสีขาว รูปร่างสูงใหญ่ ทั้งยังหล่อเหลาดูดีอีกด้วย
เครื่องหน้าบนใบหน้าของเขาดูลึกซึ้ง สายตาที่ดูมืดมนลึกล้ำในภาพเบลอๆ นั้นฉายแววเฉียบขาดเย็นชา
หลินซวงลอบสูดหายใจเข้าลึกๆ ครั้งหนึ่ง
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการขนาดนี้ จะใช่คนเดียวกับคนที่บุกมามีอะไรกับเธอเพราะเข้าใจผิดเมื่อห้าปีก่อนคนนั้นไหมนะ?
เมื่อมองเค้าโครงหน้าตาของลูกชาย ก็พบว่ามันมีส่วนคล้ายคลึงอยู่เล็กน้อย
เธอรีบแกะผ้ากันเปื้อนคาดเอวและโยนไปบนเคาน์เตอร์กาแฟทันที จากนั้นก็อุ้มตัวลูกชายวัยสี่ขวบของเธอขึ้น
“ในเมื่อหนูไม่ไปโรงเรียน งั้นก็ออกไปกับหม่ามี้หน่อยนะ”
“ไปทำอะไรเหรอครับหม่ามี้?” หลินซิงกะพริบตาที่ดูราวกับหินออบซิเดียนปริบๆ และวางรูบิคในมือลง
“หาพ่อ!”
ตอนนั้นเธอถูกไล่ออกมาจากตระกูล แต่เธอกลับมาตั้งตัวและยืนหยัดอย่างยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วยความสามารถของเธอเอง
ด้วยฐานะที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ ต่อให้ไม่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้าง ลูกๆ ของเธอก็สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีได้
“ฮ่าๆๆๆ ตลกจริงๆ!”
“หม่ามี้ บรรยากาศที่นี่มันเหม็นจัง!” หลินซิงยกมือจ้ำม่ำของตัวเองมาอุดจมูกไว้ “สามหาวกันจริงๆ!”
“ไอ้เด็กเวร นี่แกด่าใครฮะ!” เหล่าหญิงสูงศักดิ์ทั้งหลายรู้สึกโมโหมาก “สมเป็นเด็กไม่มีพ่อที่ไม่มีใครสั่งใครสอนจริงๆ!”
“เธอด่าใครฮะ! ด่าใครว่าไม่มีคนสั่งสอน!” หลินซวงรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอพับแขนเสื้อขึ้นและตั้งท่าให้ท้ายลูกตัวเองด้วยท่าทางแข็งกร้าวทันที
“เงียบ!” เยี่ยชิงชิงกลัวว่าเสียงจะดังเข้าไปรบกวนคนตระกูลจ้านที่อยู่ในห้องผู้ป่วย และทำให้ว่าที่หลานสะใภ้อย่างตัวเองดูไม่มีความถี่ถ้วนรอบด้าน
เธอจ้องมองหลินซวง หลังคลอดลูกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ดูสวยหยาดเยิ้มมากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
ผิวพรรณที่ขาวราวกับหิมะ นัยน์ตาที่สว่างสุกใส รอบตัวเปี่ยมล้นไปด้วยออร่าและเสน่ห์ชวนหลงใหล
เธอต้องรีบไล่หลินซวงกลับไปให้เร็วที่สุด!
เครื่องบินที่จ้านอวี่หานนั่งมากำลังจะลงจอดแล้ว เธอจะให้จ้านอวี่หาน…เจอกับหลินซวงไม่ได้!
“หลินซวง” เยี่ยชิงชิงพยายามใจเย็น “ฉันรู้ว่าเธอมาเยี่ยมคุณปู่จ้าน แต่เธอมันไม่มีสิทธิ์จริงๆ เธอดูผลไม้ในมือที่เธอเอามาสิ ขายขี้หน้าไหมเนี่ย? ไหนๆ คุณนายจ้านก็ยังไม่ออกมา เธอรีบกลับไปซะเถอะ ฉันกลัวจะอายแทนจริงๆ!”
“นั่นสิ คนที่มาเยี่ยมคุณท่านจ้านที่นี่ มีของขวัญชิ้นไหนบ้างที่ไม่ได้มีค่ามีราคาหลายหมื่นหลายแสน แถมก็ยังไม่แน่เลยว่าจะได้เจอไหม กะอีแค่ผลไม้เน่าๆ ของเธอแค่ถุงเดียว ยังจะกล้ามาเยี่ยมคุณท่านจ้านอีก!”
“ไม่รู้จักละอายใจบ้างเลยจริงๆ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
“ฟึ่บ!” หลินซวงทิ้งผลไม้ลงในถังขยะที่อยู่ข้างๆ ทันที “พวกเธอคิดว่าคุณท่านจ้านชอบของขวัญแบบไหนเหรอ?”
“ก็เยอะแยะไปหมดแหละ แต่เธอจะมีปัญญาซื้อเหรอ?”
“นั่นสิ อวดดีจริงๆ ปากเก่งใช่ย่อยเลยนะ!”
“ฉันไม่มีปัญญาซื้อของขวัญราคาเป็นหมื่นเป็นแสนจริงๆ นั่นแหละ” หลินซวงยิ้มบางๆ “งั้นถ้าฉันมอบเหลนให้คุณท่านจ้านสักคน เขาก็น่าจะชอบไหม? คนแก่ชอบให้มีลูกหลานเยอะๆ เพื่อสืบสกุลไม่ใช่เหรอ?”
เหลนเหรอ?
บรรยากาศหน้าห้องผู้ป่วยเงียบลงทันที จากนั้นสายตาของทุกคนก็มาหยุดลงที่หลินซิงโดยพร้อมเพรียงกัน
เด็กชายตัวน้อยที่ตัวขาวจั๊วะแถมยังหน้าตาน่ารักชวนหลงคนนี้เป็น…
โอ๊ะ! พอดูรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาแล้ว ก็แอบมีเค้าคนตระกูลจ้านอยู่เหมือนกันแฮะ!
หรือว่าเขา…?
จะเป็นลูกของคุณชายตระกูลจ้านคนใดสักคนหนึ่งจริงๆ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดสี่บันดาลรัก
สนุกมากค่ะ...
ยังรออยู่นะคะ จุ้บๆ...
รออ่านตอนต่อไปนะคะ...