เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเดิมๆนั่นก็คือเวียนหัวและอาเจียนฉันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนเต็มๆมันทรมานมากจนฉันแทบไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลยมันอยากนอนทั้งวันแต่ฉันไม่สามารถทำได้เพราะฉันอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้จะให้นอนอยู่เฉยๆโดยไม่ทำงานคงเป็นไปไม่ได้ ฉันหวังว่าอาการแพ้ท้องมันจะหายไปตามที่คุณหมอเคยบอกว่าอาการเหล่านี้มันจะหายไปเองถ้าอายุครรภ์เราเยอะขึ้นฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น
หลังจากที่ฉันอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปช่วยงานที่ครัวเหมือนเช่นทุกวันแต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะชงนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มก่อนไปทำงานแม้ว่าฉันจะไม่ชอบดื่มนมแต่ฉันก็ต้องกินเพื่อบำรุงลูกในท้องฉันอยากให้แกแข็งแรง
"เราไปทำงานกันนะคะลูก" ฉันพูดพร้อมกับเอามือลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบจนมองไม่ออกว่าท้องได้สองเดือน ฉันไม่รู้หรอกว่าลูกในท้องเป็นเพศอะไรเพราะฉันเพิ่งท้องได้แค่สองเดือนเท่านั้นแต่ไม่ว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายฉันก็จะรักแกให้มากที่สุดเพื่อชดเชยความรักของพ่อที่แกคงจะไม่ได้รับ
ฉันคิดเอาไว้ว่าถ้าคุณฟิวเดินทางไปอเมริกาเมื่อไหร่ฉันอาจจะขอคุณเฟื่องออกไปพักอยู่ข้างนอกแม้ว่าตอนนี้ฉันยังหาข้ออ้างไม่ได้ว่าจะบอกกับท่านถึงเหตุผลที่จะออกไปอยู่ข้างนอกยังไงเพื่อไม่ให้ท่านสงสัยเพราะถ้าฉันยังอยู่ที่นี่สักวันทุกคนก็คงจะรู้ว่าฉันท้อง แม้ว่าก่อนหน้านี้คุณฟิวสั่งให้ฉันอยู่ที่นี่ห้ามไปไหนแต่ฉันคงไม่สามารถอยู่ได้ฉันขอไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกันอะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิด
ในครัว..
"นังบัววันนี้คุณลูกศรจะมาทานอาหารเช้าที่บ้านยังไงก็จัดโต๊ะเพิ่มด้วยนะ" พอฉันเดินเข้ามาในครัวป้าแม่ครัวก็หันมาสั่งฉันทันทีเพราะหน้าที่จัดโต๊ะและดูแลเจ้านายเป็นหน้าที่ของฉัน
"ค่ะ" ฉันรับคำก่อนจะเดินไปหยิบจานชามในตู้โดยมีป้าคำปันมาคอยช่วย
"เอ็งไหวนะนังบัวหน้าเอ็งซีดๆช้ากลัวเอ็งจะเป็นลมเป็นแล้ง" ป้าคำปันถามฉันด้วยความเป็นห่วง
"ไหวค่ะ" ฉันฝืนตอบออกไปทั้งที่จริงแล้วฉันแทบจะไม่มีแรงแต่ฉันก็ต้องอดทนเพราะมันคือหน้าที่
"ถ้าไม่ไหวก็บอกอย่าฝืน เอ็งอย่าลืมว่าตอนนี้เอ็งไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วเองยังมีลูกในท้องที่เอ็งต้องดูแลเอ็งห้ามยกหนักเข้าใจไหมถ้าไม่ไหวบอกป้า" ป้าคำปันพูดกับฉันเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินฉันยิ้มรับก่อนจะเดินไปจัดโต๊ะที่ห้องรับประทานอาหาร พอฉันเดินเข้ามาก็เจอคุณลูกศรนั่งคุยอยุ่กับคุณเฟื่องโดยที่บนตักของเธอมีเจ้าโอโม่นั่งอยู่ ฉันมองมันด้วยความคิดถึงเพราะหลายวันมานี้ฉันไม่ได้จับไม่ได้อุ้มมันเลย แต่พอเจ้าโอโม่เห็นฉันมันก็ร้องเรียกแล้วกระโดดลงจากตักคุณลูกศรทันทีแล้ววิ่งมาคลอเคลียฉันเหมือนกับว่ามันเองก็คิดถึงฉันเหมือนกัน
"เมี๊ยวววว เมี๊ยววววว" ฉันก้มลงเอามือลูบหัวมันอย่างเอ็นดู
"พอบัวมาก็ไม่สนใจคนอื่นเลยนะเจ้าโอโม่" คุณเฟื่องแซวเจ้าโอโม่เพราะรู้ว่ามันติดฉันมาก แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องฉันก็ไม่ค่อยได้มาเล่นกับมันสักเท่าไหร่
"ไม่เจอกันตั้งหลายวันคิดถึงกันบ้างมั้ย หื้มม" ฉันกอดมันด้วยความรักพอได้อุ้มได้เล่นกับมันก็ทำให้ฉันลืมเรื่องเศร้าๆไปได้ชั่วขณะหนึ่งถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตามเพราะมันทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นที่ทะเลคิดถึงความสุขคิดถึงเรื่องระหว่างฉันกับคุณฟิวแต่เหตุการณ์แบบนั้นมันคงไม่กลับมาอีกแต่ฉันก็จะเก็บเอาไว้ในความทรงจำตลอดไปว่าครั้งนึงฉันกับเขาเราเคยมีความสุขกันมากแค่ไหนเขาดีกับฉันอ่อนโยนกับฉันมากแค่ไหน แค่คิดถึงก็ทำให้ฉันน้ำตาคลอ
"ฟิวลงมาแล้วค่ะคุณแม่" พอรู้ว่าคุณฟิวกำลังเดินมาฉันก็รีบเช็ดน้ำตาแล้ววางเจ้าโอโม่ลงที่พื้นทันทีเพราะกลัวว่าเขาอาจจะไม่พอใจที่ฉันไปอุ้มแมวของเขา
"บัวเป็นอะไรไปทำไมตาแดงๆหน้าซีดๆไม่สบายหรือเปล่า"
"นังบัวมัน..."
"บัวไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" ฉันปฏิเสธก่อนที่ป้าคำปันจะบอกอาการของฉันให้คุณเฟื่องรู้
"แน่ใจนะ"
"ค่ะบัวไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะ"
จัดโต๊ะเสร็จฉันก็เดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อนำอาหารไปวางที่โต๊ะ แต่พอฉันเดินเข้ามาในครัวจู่ๆฉันก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาฉันเอามือข้างนึงกุมท้องอีกข้างนึงจับขอบประตูแล้วเดินหาที่นั่งที่ใกล้ที่สุดเพราะตอนนี้ฉันยืนไม่ไหวมันหน่วงๆท้องอย่างไม่เคยเป็น
"บัวเอ็งเป็นอะไร" ป้าแม่ครัวถามฉันอย่างตกใจ
"บัวปวดท้องค่ะขอนั่งพักหน่อยนะคะ"
"หน้าเอ็งก็ซีดมากเลยนะนังบัวเอ็งจะเป็นลมหรือเปล่าข้าว่าเอ็งกลับไปนอนพักก่อนที่ห้องดีกว่าไหมเดี๋ยวให้คนอื่นยกอาหารไปเสิร์ฟคุณๆแทน"
"บัวขอไปพักสักแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวถ้าดีขึ้นบัวจะกลับมาช่วย"
"ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องมาข้าให้เอ็งพักวันนึง" ฉันขอบคุณป้าแม่ครัวที่อนุญาตให้ฉันไปพักแม้ว่าฉันจะเกรงใจคนอื่นๆแต่ตอนนี้ฉันไม่ไหวจริงๆฉันฝืนตัวเองเดินกลับมาที่ห้องด้วยความยากลำบากเพราะตอนนี้ฉันปวดท้องมากปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นตอนนี้สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดก็คือความปลอดภัยของลูกเพราะก่อนหน้านี้คุณหมอก็เพิ่งเตือนเรื่องที่น้ำหนักลูกน้อยเกินไปซึ่งมันอันตรายมาก
"หนูต้องอยู่กับแม่นะลูกเราจะต้องสู้ไปด้วยกันนะแม่รักหนูนะคะ" ฉันบอกกับลูกที่แม้ว่าตอนนี้แกยังเป็นเพียงก้อนเนื้อเล็กๆฉันเอามือลูบหน้าท้องเบาๆส่งผ่านความรักและความรู้สึกไปให้ถึงแกเพื่อให้แกรับรู้ว่าฉันรักแกมากแค่ไหนและขอให้แกอยู่กับฉัน
วันต่อมา....
"ปวดท้องดีขึ้นแล้วเหรอบัว" คุณเฟื่องถามฉันด้วยความเป็นห่วงขณะที่ฉันกำลังช่วยแม่บ้านอีกคนทำความสะอาดบ้าน
"ค่ะ" ถึงคุณฟิวไม่สั่งฉันก็ต้องย้ายไปนั่งข้างหลังอยู่แล้วเพราะที่ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ของฉันตั้งแต่แรก
"ทำไมฟิวพาใบบัวมาด้วยล่ะ"
"ก็จะให้มาดูให้เห็นกับตาไงว่าผลของการทำชั่วบทสรุปมันเป็นยังไง" ฉันรู้ว่าเขาคงอยากให้ฉันเจ็บปวดที่เห็นแม่ของตัวเองถูกตัดสินโทษ ฉันนั่งเงียบมาตลอดทางมีเพียงเสียงพูดคุยของคุณลูกศรกับคุณฟิวเท่านั้นที่พูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขมันเหมือนกับว่าตอนนี้ฉันคล้ายเป็นส่วนเกินของเขาทั้งคู่
"นี่ก็จะเที่ยงแล้วเธอหิวหรือเปล่าเราแวะหาอะไรกินก่อนไหมเวลายังพอมี"
"ตอนแรกยังไม่หิวหรอกแต่ตอนนี้เริ่มหิวแล้วล่ะ"
"งั้นเดี๋ยวเราแวะหาอะไรกินกันก่อนไปศาลละกัน ว่าแต่เธออยากกินอะไร"
"อะไรก็ได้นายกินอะไรเราก็กินอันนั้นแล่ะ^^"
"งั้นแวะร้านอาหารญี่ปุ่นละกันข้างหน้ามีอยู่ร้านนึง"
"อื้มมม^^"
ตอนนี้ฉันนั่งรออยู่ตรงเก้าอี้นั่งรอหน้าร้านอาหารส่วนคุณฟิวกับคุณลูกศรก็เดินเข้าไปทานอาหารในร้านกันสองคน ด้วยความบังเอิญที่ฉันมองเข้าไปภายในร้านก็เห็นภาพคุณลูกศรกำลังป้อนอาหารให้คุณฟิวใบหน้าของเธอมีความสุขมาก มันทำให้ฉันอดคิดถึงตอนที่อยู่ทะเลไม่ได้ตอนนั้นคุณฟิวจะคอยบังคับให้ฉันกินอาหารที่เขาทำเขาป้อนฉันหนึ่งคำเขากินหนึ่งคำซึ่งมันคงไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ฉันก็เลยรีบหันกลับมาเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ
"เข้าไปนั่งรอในร้านมั้ยครับคุณตรงนี้แดดมันแรงเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ" พนักงานคนนึงเดินมาถามฉันคงเห็นว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้วแล้วตรงนี้ก็แดดแรงมาก
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวเจ้านายของฉันก็คงจะออกมาแล้ว" ฉันตอบพนักงานใจดีคนนั้นที่ถามฉันด้วยความเป็นห่วง
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงทั้งสองคนก็เดินควงกันออกมาจากร้านโดยที่ทั้งคู่เดินผ่านหน้าฉันไปเหมือนไม่เห็นหรือลืมว่าฉันนั่งรอพวกเขาอยู่ตรงนี้ ฉันรีบลุกจากเก้าอี้เดินตามพวกเขาไปทันทีเพราะเกรงว่าจะทำให้เขาเสียเวลาถ้าฉันเดินช้า แต่ด้วยความที่ลุกจากเก้าอี้เร็วเกินไปทำให้ฉันหน้ามืดสติของฉันดับวูบไป
"บัว!!!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค่เมียคนใช้