แค่เมียคนใช้ นิยาย บท 70

ฟิว.....

ผมแอบเดินตามใบบัวกับลูกโดยที่ไม่ให้ทั้งสองคนรู้ตัวจนมาที่บ้านหลังเล็กๆ หลังนึงที่ภายในรั้วบ้านปลูกผักผลไม้เอาไว้จนเต็มพื้นที่ บ้านหลังนี้คนของผมรายงานว่าใบบัวซื้อบ้านหลังนี้อยู่กับลูกเพียงลำพังสองคนส่วนไอ้ศิวานานๆ มันถึงจะมาที่นี่สักครั้งหนึ่งแต่มันไม่เคยนอนค้างที่นี่เลยสักครั้งเพราะมันจะไปนอนที่โรงแรมนั่นทำให้ผมรู้ว่าจนถึงตอนนี้ใบบัวยังไม่มีใครและไม่ได้ตกลงปลงใจกับไอ้ศิวาเพราะฉะนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะง้อขอคืนดีและขอโทษกับสิ่งที่ผมเคยทำ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมมันร้ายแรงจนเกินกว่าจะให้อภัย แต่ผมก็ได้ให้สัญญากับพ่อกับป๊ารวมถึงแม่เฟื่องว่าผมจะพาใบบัวกับลูกกลับมาให้ได้แม้ความหวังมันจะริบหรี่มากจนมองไม่เห็นหนทางเลยก็ตาม

หลังจากเห็นว่าทั้งสองคนเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้วผมก็เดินกลับย้อนกลับมายังบ้านพักของผม ผมลืมบอกไปว่าผมได้ซื้อบ้านหลังนี้ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากบ้านของใบบัวมากนักเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงที่ผมตัดสินใจซื้อที่นี่เพราะเจ้าของเค้าประกาศขายพอดีแต่ตอนนั้นผมยังไมไ่ด้เดินทางมาคนของผมก็เลยโทรถามผมว่าอยากจะซื้อไหมจะได้ไม่ต้องเช่าโรงแรมนอนเพราะโรงแรมที่คนของผมหาให้มันค่อนข้างไกล ผมตัดสินใจทันทีโดยที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสภาพบ้านมันจะเป็นยังไงเจ้าของขายราคาแพงไหมผมไม่ต่อรองเลย

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสามของบ้านแล้วใช้กล้องส่องทางไกลส่องไปยังบ้านของใบบัว ผมเห็นเธอกำลังขะมักเขม้นทำอะไรสักอย่างอยู่ที่โรงเรือนเล็กๆหลังบ้านโดยมีลูกชายของผมนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ ผมมองดูสองคนแม่ลูกที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขโดยที่ความสุขนั้นไม่มีผมอยู่ด้วย มันจะดีมากแค่ไหนถ้าเราได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกหัวเราะมีความสุขด้วยกัน ผมไม่รู้ว่ามันจะมีวันนั้นไหม ถ้าผมเดินเข้าไปหาเธอแล้วบอกขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำเธอจะให้อภัยผมไหม 

ใบบัว....

"ครามครับลูกลุงศิวาโทรมาบอกแม่ว่าลุงเดินทางมาไม่ทันนะครับ"

"ว๊าาา แล้วลุงศิวาจะมามะไหร่เหรอค๊าบ"

"พรุ่งนี่ค่ำๆจ๊ะลูก"

"เอ้อ...พรุ่งนี้แม่ต้องเอาของไปขายที่ตลาดนี่นาใช่มั้ยค๊าบ"

"ใช่ครับเพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เช้าครามต้องตื่นแต่เช้าแล้วไปอยู่ที่บ้านอามิ้งนะครับไว้แม่ขายของเสร็จแล้วแม่จะไปรับแล้วเราค่อยไปหาลุงศิวากันโอเคมั้ยครับ^^"

"โอเคค๊าบ"

"ปะท่าอย่างนั้นตอนนี้ครามไปอาบน้ำแล้วก็เตรียมตัวเข้านอนได้แล้วนะครับ"

"แล้วแม่ล่ะค๊าบ"

"แม่ขอทำงานอีกแป๊บนึงนะครับ"

"แม่ห้ามนอนดึกน๊าค๊าบครามเป็นห่วงแม่"

"ขอบคุณครับลูกที่เป็นห่วงแม่แม่สัญญาว่าจะไม่นอนดึก"

"ถ้างั้นครามไปอาบน้ำนอนละนะค๊าบ จุ๊บๆ รักแม่นะค๊าบ"

"จุ๊บ จุ๊บ แม่ก็รักครามนะครับคนดีของแม่"

หลังจากฟ้าครามขึ้นไปนอนฉันก็นั่งระบายสีตุ๊กตาต่อ แม้จะง่วงมากแค่ไหนก็ต้องทำเพราะไม่งั้นพรุ่งนี้อาจจะไม่มีของไปวางขาย ถึงแม้ว่าช่วงนี้ของจะขายไม่ค่อยได้เพราะปัญหาของโรคระบาดทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากเหมือนแต่ก่อนทำให้รายได้จากการขายตุ๊กตาเซรามิกลดน้อยลงไปมากจนบางครั้งฉันก็ท้อแต่ก็ต้องอดทนกัดฟันสู้คิดว่าวันนี้ขายไม่ไ่ด้แต่พรุ่งนี้ก็อาจจะขายได้ ฉันยังโชคดีที่ได้ทำงานบ้านป้าแมรี่ไม่อย่างนั้นลำพังแค่ขายตุ๊กตาคงไม่พอ

วันต่อมาฉันตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ฟ้าครามพร้อมกับอาหารกลางวันและของว่างเพื่อให้แกเอาไปทานที่บ้านของมิ้งเพราะฟ้าครามถึงแกจะเป็นเด็กดีมากแค่ไหนแต่เรื่องอาหารการกินแกจะกินยากมาก นิสัยคงไม่ต้องพูดว่าได้ใครมา แต่ฉันขอภาวนาให้เอาแค่นิสัยกินยากมาก็พอนิสัยอย่างอื่นขออย่าได้เอามาเลย

หลังจากที่จัดการอะไรเสร็จสรรพฉันก็พาฟ้าครามไปฝากไว้กับมิ้งที่บ้านก่อนจะลากของที่อยู่ในล้อเข็นเดินไปตามทางเพื่อที่จะนำของไปตั้งขายใกล้สวนสาธารณะที่ฉันมักจะนำมาวางขายในวันหยุดที่ฉันไม่ต้องทำงาน อาทิตย์นึงฉันจะเอามาขายแค่สองวันเท่านั้น อีกสามวันก็ไปทำงานบ้านให้ป้าแม่รี่ส่วนสองวันที่เหลือก็ให้เวลากับลูกทำกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการปลูกผัก ปลูกผลไม้ที่พอจะมีเนื้อที่เอื้ออำนวยซึ่งมันทำให้เราประหยัดในการซื้อไปมากหรือไม่บางวันก็พาแกไปปั่นจักรยานเล่น แค่นี้ชีวิตฉันก็มีความสุขมากพออยู่แล้ว ไม่ต้องมีเงินเยอะก็มีความสุขได้

ฟิว....

ผมแอบเดินตามใบบัวมาโดยที่ผมไม่ให้เธอไม่รู้ตัวอีกตามเคยจนมาถึงลานกว้างข้างสวนสาธารณะซึ่งน่่าจะเป็นจุดที่เธอมาตั้งร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว เธอจัดการขนของออกจากล้อลากตั้งโต๊ะจัดร้านเล็กๆของเธอด้วยท่าทางเหนื่อยล้าเพราะระยะทางที่เธอเดินมามันไกล เพราะก่อนหน้านี้เธอเดินไปส่งฟ้าครามที่บ้านเพื่อนของเธอจากนั้นเธอก็เดินมาที่นี่ซ้ำถนนหนทางยังเป็นเนินเป็นเขาอีกเธอคงลากเจ้าล้อนั้นมาอย่างยากลำบากผมอดสงสารเธอไม่ได้แต่ผมไม่สามารถเข้าไปหาเธอได้เพราะกลัวเธอจะหนีผมไปกว่าผมจะตามหาเธอเจอและรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ผมใช้เวลานานเป็นปี ผมยืนมองใบบัวที่กำลังเรียกนักท่องเที่ยวให้เลือกซื้อสินค้าของเธอแต่ก็ไม่มีใครสนใจซึ่งเธอก็พูดคุยยิ้มแย้มให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินผ่านไปมา นักท่องเที่ยวบางคนก็เดินมาจับมาดูแต่ไม่มีใครซื้อ ผมยืนอยู่ตรงนี้เกือบครึ่งค่อนวันก็ยังไม่เห็นเธอขายได้เลยสักชิ้นเดียวตอนนี้แดดแรงมากแล้วตรงที่เธอนั่งขายของก็ไม่มีร่มไม้ให้หลบแดด เหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าของเธอทำให้ผมน้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้ 

"แม่ค๊าบบบ แม่" สักพักลูกชายของผมก็วิ่งมาหาใบบัวซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามาได้ยังไงคนเดียว

"ฟ้าครามลูกมาที่นี่ได้ยังไงครับอามิ้งมาส่งเหรอ"

"เปล่าค๊าบลุงศิวาไปรับผมที่บ้านอามิ้งค๊าบ" ผมมองไปทางด้านหลังก็เห็นไอ้ศิวากำลังเดินตามหลังลูกชายของผมมา ลูกผมเรียกมันว่าลุงศิวาอย่างสนิทสนมซึ่งมันก็คงไม่แปลกเพราะอย่างที่รู้ว่ามันดูแลใบบัวมานานมากแล้วในขณะที่ผมไม่เคยทำดีกับเธอเลยสักครั้ง

"น้องบัว^^"

"พี่ศิวาไหนบอกลงเครื่องตอนค่ำๆไงคะที่เพิ่งจะบ่ายเอง"

"ก็คิดถึงหลานไงก็เลยรีบมาหา^^" 

"ลุงศิวาคิดถึงครามจริงๆเหรอค๊าบ"

"จริงสิครับลุงเคยโกหกเรารึไง หื้มม"

"ไม่เคยค๊าบ แล้วไหนล่ะค๊าบของขวัญของครามล่ะค๊าบ"

"ลุงเอาไว้ที่โรงแรมนะ่ถุงมันใหญ่มากหิ้วมาไม่ไหวครามต้องพาแม่ไปเอาเองนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค่เมียคนใช้