แค้นพิศวาส 42
"คุณเป็นถึงเจ้าพ่อมาเฟียอย่าใจเสาะแบบนี้สิคะ ลูกกำลังรอเรียกพ่ออยู่นะ คุณรีบตื่นขึ้นมาสิ" หญิงสาวพยายามพร่ำเรียกแต่เขา มันเป็นครั้งแรกที่เธออยากให้เขาตื่นขึ้นมาแล้วรังแกเธอเหมือนทุกครั้ง
"ฉันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง เรื่องที่ผ่านมาฉันจะไม่ถือโทษโกรธคุณเลย แต่ถ้าคุณไม่ฟื้นฉันจะโกรธคุณตลอดไป และก็จะสอนให้ลูกเกลียดคุณด้วย คอยดูสิ!!" วันหนึ่งไม่มีความผูกพันกับครุฑเลย เธอไม่รู้ว่าจะปลุกเขายังไงให้ตื่นจากนิทรา
"คุณต้องการอะไรคุณก็บอกฉันมาสิ"
เธอพูดกับเขาอยู่แบบนั้นนานสองนาน แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบเสนอ
"คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะครับ ผมว่าคุณออกไปพักผ่อนดีกว่า" หมอยืนดูอยู่ไม่ห่าง เพราะเผื่อว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น
"ฉันขอคุยกับเขาอีกสักพักได้ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวไม่ยอมวางมือของชายหนุ่ม เธอยังกุมมือเขาไว้แน่น
"คุณก็คุยมาเป็นชั่วโมงแล้ว"
"ฉันจะคุยกับเขา..สองชั่วโมงฉันก็จะคุย..สามชั่วโมงฉันก็จะคุย..ฉันจะคุยกับเขาแบบนี้ตลอดไป"
"ผมว่าต่อจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมแพทย์ดีกว่าครับ" หมอต้องเซฟความรู้สึกของเธอด้วย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่
"ฉันรักคุณ คุณได้ยินไหม ฉันรักคุณ ฉันรักผู้ชายที่รังแกฉันมาโดยตลอด คุณตื่นขึ้นมาไถ่โทษกับสิ่งที่คุณได้ทำไว้กับฉันสิ! คุณทำอะไรกับชีวิตฉันไว้บ้าง! ตื่นขึ้นมานะคนใจร้าย" จากที่ไม่มีน้ำตา แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันหลั่งไหลมาจากไหนบ้าง เพราะเธอกลัวว่าเขาจะไม่ฟื้นขึ้นมา
ติ๊ด~ ติ๊ด~~ ติ๊ด~~~ เสียงชีพจรของครุฑเริ่มตอบสนองต่อเครื่องช่วยชีวิต
"คุณขยับออกมาก่อนครับ"
"มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ" วันหนึ่งตกใจอยู่ดีๆ ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็กรูกันเข้ามา หญิงสาวไม่กล้าปล่อยมือเขาเลย
"คุณออกมาก่อนดีกว่าค่ะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณหมอดีกว่า"
"คุณพยาบาลคะ สามีฉันเป็นอะไร" วันหนึ่งยอมถอยออกมากับพยาบาลแต่ต้องถามให้แน่ใจก่อน
"ตอนนี้ชีพจรของคนไข้เริ่มเต้นปกติต้องให้คุณหมอตรวจดูอาการก่อนค่ะ"
วันหนึ่งจำเป็นต้องได้ออกมารอที่หน้าห้องผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง
"ครุฑเป็นไงบ้างหนูวันหนึ่ง"
ทุกคนรีบตรงเข้ามาถามเอาความจากวันหนึ่ง
"หนึ่งไม่รู้ค่ะ แต่ได้ยินคุณพยาบาลบอกว่าชีพจรของเขากำลังเต้นกลับมาปกติ" พอสิ้นคำพูดเธอก็วูบไป...
"วันหนึ่ง!" ธานินทร์รีบเข้ามารับร่างของเธอไว้โชคดีที่ยังไม่ถึงพื้น
"หมอ!! หมอมาดูลูกสะใภ้ผมหน่อย" อำนาจรีบเดินไปตามหมอ
ส่วนธานินทร์ก็อุ้มร่างเธอไปที่ห้องพักฟื้นที่อยู่ไม่ไกลนัก
ตอนนี้ลูกน้องไม่มีใครกล้าขยับไปไหน เพราะอ่วมกันไปทั่วหน้า
"คนไข้คงจะเหนื่อยและเครียดมาก เดี๋ยวหมอจะให้น้ำเกลือแล้วนอนพักผ่อนก่อนนะครับ" ไม่ใช่แค่ลูกน้อง หมอยังเกร็งกันไปทั้งแผนก
"จะทำยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ลูกสะใภ้กับหลานผมมีอันตรายเด็ดขาด"
หลายชั่วโมงผ่านไป...
"จริงเหรอหมอ!?" พอได้รับข่าวว่าครุฑฟื้นแล้วอำนาจก็ดีใจมาก "ผมเข้าไปหาลูกได้แล้วใช่ไหม"
"ได้ครับ..แต่คุณครุฑต้องการพบภรรยามากครับ"
"ตอนนี้หนูวันหนึ่งยังนอนหลับอยู่เลย อย่าเพิ่งกวนเธอดีกว่า" อำนาจและธานินทร์เข้าไปเยี่ยม ครุฑที่ห้องไอซียู เพราะตอนนี้เขาถูกย้ายออกจากห้องผ่าตัดไปไว้ที่ห้องนั้นแล้ว
"วันหนึ่ง" มันคือเสียงของชายหนุ่มพูดออกมา ตอนที่เห็นหน้าพ่อ
"เมียของแกปลอดภัยดี ตอนนี้อยู่ในห้องกำลังพักผ่อนอยู่"
"ผมจะไปหาเธอ พ่อโกหกผมใช่ไหม" เพราะตอนที่เขาถูกยิง เขาหมดสติไปเลย ไม่รู้ว่าเธอปลอดภัยจริงไหม
"เมียของแกปลอดภัยทำไมไม่เชื่อพ่อล่ะ" ธานินทร์พูดช่วยอีกคน
"ผมไม่เชื่อ ผมได้ยินเสียงของเธอเรียก" ใช่แล้วครุฑได้ยินเสียงเธอเรียกให้เขาตื่น ตอนนี้เขาคิดว่าเธอคงมีอันตราย และพ่อกับพี่ชายช่วยกันปิดบังแน่
"โอ้ย"
"ทำเป็นเก่ง!" ธานินทร์ตำหนิน้องชายที่กำลังพยายามจะลุกออกจากเตียง
"ผมไม่เชื่อ ถ้าไม่เห็นกับตาว่าเธอปลอดภัย" ครุฑที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยยังพยายามลุกขึ้น
"แกอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวพ่อให้คนไปตาม ไม่สิ เดี๋ยวพ่อไปตามเองห้ามขยับนะ"
พออำนาจเดินออกไปจากห้องนั้นธานินทร์ก็มองตามหลังพ่อไป เขามีคำถามมากมายที่จะถามแต่ไม่มีโอกาสได้ถามสักที และเรื่องนี้มันต้องคุยกันต่อหน้าทุกคนเขาถึงเก็บคำถามนั้นไว้
แค้นพิศวาส 43
"หนูพอจะลุกไหวไหมวันหนึ่ง"
"ทำไมคะ! เกิดอะไรขึ้น?" หญิงสาวรีบลุกขึ้น แต่ตอนนี้น้ำเกลือกระปุกนั้นยังไม่หมด
"ครุฑฟื้นแล้วนะ ถามหาหนูใหญ่เลย"
"จริงหรือคะ" วันหนึ่งกำลังจะดึงสายน้ำเกลือออกแต่ถูกห้ามไว้
"ไม่ต้องเอาออกหรอกหนู เดี๋ยวตาจะช่วย"
พยาบาลรีบเอารถเข็นมารับ แล้วพวกเขาก็พาเธอเข้าไปอีกห้องที่ครุฑพักฟื้นอยู่
"คุณหมายความว่ายังไง" วันหนึ่งถึงจะตกใจ เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากผู้ชายคนนี้เลย
"คุณจำเรื่องเรือยอร์ชได้ไหม ที่คุณถามว่าผมตามคุณตั้งแต่เมื่อไร ที่จริงผมตามคุณมาได้หลายปีแล้ว"
"หลายปี? ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ"
"ตั้งแต่ก่อนคุณเข้าเรียนปีหนึ่ง จนจบออกมา"
"เกือบสิบปี!!?" หญิงสาวตกใจไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่ได้ยินเขาสารภาพออกมา
เธอเพิ่งรู้จักเขาแค่ไม่กี่เดือน แต่เขารู้จักเธอมาเกือบ 10 ปีแล้วงั้นเหรอ
"คุณอยู่ตรงไหนของชีวิตฉันบ้าง"
"ทุกตรง.. ถ้าวันไหนผมไม่ว่างตามคุณ พวกลูกน้องของผมก็ถ่ายรูปถ่ายคลิปคุณส่งมาให้ดู" เขารู้ว่าเธอต้องโกรธแน่ แต่เขาอยากจะพูดให้เธอฟัง
"คุณ!!" นี่หมายความว่ายังไง เขาสะกดรอยตามเรามาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีเลยนะ โดยที่เราไม่รู้ตัว
ไม่ใช่ว่าหญิงสาวไม่รู้ตัวเลย มันมีหลายอย่างที่แปลก แต่เธอก็ปล่อยไปเพราะไม่ได้ใส่ใจ เรื่องที่แปลกส่วนมากจะเป็นเรื่องผู้ชายที่เข้ามาหาเธอ เพราะพวกเขาคุยได้แค่ไม่กี่ครั้งก็หายไป
"แล้วคุณจะบอกเรื่องนั้นกับผมได้หรือยัง" ชายหนุ่มหมายถึง เรื่องที่เธอพูดกับเขาตอนที่ยังไม่ฟื้น
"ก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องบอกอะไรฉันมาก่อน"
"บอกเรื่องอะไร"
"คุณแค่สะกดรอยตามฉันใช่ไหม คุณไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นใช่ไหม?" ดวงตางามพยายามเค้นเอาความจริง
ชายหนุ่มหลบสายตาพิฆาตทันที
"มันเป็นฝีมือของคุณใช่ไหม" มือเรียวของหญิงสาว จับคางอีกฝ่ายให้หันหน้ามาสบตาเธออีกครั้ง "คุณครุฑ!!" คิ้วงามขมวดเข้าหากันแบบเอาเรื่อง
"โอ้ยย ผมยังเจ็บอยู่นะ"
"ฉันขอโทษค่ะ" หญิงสาวรีบปล่อยมือ "ฉันถามคุณแค่คำเดียว คุณไม่ได้ฆ่าพวกเขาใช่ไหม" เธอกลัวแค่อย่างเดียวเท่านั้น เพราะมีหลายคนที่หายหน้าไปเลย
"ก็อยากจะฆ่าอยู่หรอกนะ" ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ แต่ส่วนมากเขาจะขู่หนักหน่อย บางคนได้หยอดน้ำข้าวต้มอยู่หลายวันเลยล่ะ
"แล้วคุณทำแบบนั้นทำไม"
"ผมไม่รู้..ก็ผมไม่อยากจะให้พวกมันมาเจ๊าะแจ๊ะกับคุณนี่"
"แต่ตอนนั้นฉันยังไม่รู้จักกับคุณเลยนะ"
"แต่ผมรู้จักคุณแล้ว รู้จักดีด้วย..รู้แม้กระทั่งเวลาคุณเป็นประจําเดือน" เขาพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
"คุณ!!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นนพิศวาส