บทที่ 188 การจับคู่ที่ไม่เหมือนกัน
ไม่นานกมลก็หลับไปแล้ว
บุริศร์ห่มผ้าให้เธอดีๆ จากนั้นก็ไปจากห้องผู้ป่วยอย่างเงียบๆ พอออกมาก็เห็นกิจจาแอบยืนเช็ดน้ำตาอยู่ที่ริมหน้าต่างตรงริมทางเดิน
เขาถอนหายใจเบาๆทีนึง เดินมาที่ตรงหน้าของกิจจาแล้วอุ้มเขาขึ้นมา
“คิดถึงพี่กานต์อีกแล้วเหรอครับ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้กิจจาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาซบอยู่ที่ไหล่ของบุริศร์และร้องไห้ขึ้นมา
“แด๊ดดี้ครับ แด๊ดดี้ว่าลูกพี่จะกลับมามั้ยครับ? เขาไปไหนแล้วครับ? ทำไมไม่มีข่าวคราวสักนิดเลย? ตระกูลโตเล็กของเรามีช่องทางมากมายขนาดนั้น ทำไมตรวจสอบข่าวคราวว่าเขาอยู่ไหนไม่เจอเลยครับ? ผมกลัวจังเลย แด๊ดดี้ครับ ถ้าเกิดลูกพี่กลับมาไม่ได้จะทำยังไงครับ?”
บุริศร์รู้สึกคัดจมูก
เขากดศีรษะของกิจจาไว้ที่ไหล่ของตัวเองอย่างแน่น เบ้าตาของตัวเองได้เปียกชุ่มแล้ว
“ไม่หรอกครับ กานต์จะไม่เป็นไรแน่นอน สักวันเขาต้องกลับมา”
“แต่ผมคิดถึงเขามากเลยครับ คิดถึงมากๆ น้องกมลก็จะผ่าตัดแล้ว ลูกพี่เป็นห่วงอาการป่วยของเธอตลอด เวลานี้ทำไมเขาถึงไม่กลับมาน๊า?”
กิจจาร้องไห้จนร่างเล็กๆสั่น
ตั้งแต่กานต์หายตัวไป กิจจาก็เหมือนเปลี่ยนไปคนละคนเลย นอกจากอยู่ตรงหน้าของกมลยังพอมีรอยยิ้มบ้าง เวลาอื่นล้วนทำให้คนเห็นแล้วสงสาร
บุริศร์รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก กลับได้แต่พูดปลอบใจเขา: “รอให้อาการป่วยของกมลหายแล้ว เราไปหากานต์ด้วยกัน อย่าร้องนะ ลูกโตเป็นพี่ใหญ่แล้ว ต้องเชื่อว่ากานต์จะกลับมาแน่นอน เชื่อว่าต้องมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแน่นอน สวรรค์ไม่โหดเหี้ยมขนาดนั้นหรอก”
เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดให้กิจจาฟังหรือว่ากำลังปลอบใจตัวเอง ความรู้สึกไร้ความสามารถแบบนี้ของตอนนี้ใกล้จะบีบจนเขาบ้าไปแล้วจริงๆ
หลังจากกิจจาร้องไห้ที่ไหล่ของบุริศร์ได้สักพัก ไม่นึกเลยว่าจะหลับไป
เด็กคนนี้ตั้งแต่มาถึงที่อเมริกาก็ไม่ได้พักผ่อนดีๆ เป็นห่วงกมลอยู่ตลอดเวลา ทำเอาจิตใจตัวเองตึงเครียดมาก ตอนนี้หลังจากระบายออกมาแล้วก็เหนื่อยล้าสุดขีดแล้ว ไม่นานก็ค่อยๆนอนหลับไป
บุริศร์อุ้มเขากลับไปที่ห้องผู้ป่วย วางลงที่ข้างกายของกมลแล้วห่มผ้าให้ทั้งสองดีๆ
ในขณะนี้เอง คุณหมอได้มาแจ้งข่าวให้บุริศร์
“คุณบุริศร์ครับ มีเรื่องนึงผมต้องปรึกษากับคุณหน่อยครับ”
“เกี่ยวกับกมลหรือเปล่าครับ?”
หัวใจของบุริศร์บีบแน่นขึ้นมากะทันหัน
คุณหมอได้พยักหน้า
บุริศร์ให้บอดี้การ์ดปกป้องเด็กสองคนดีๆ นี่ถึงได้ตามหมอเข้าไปที่ออฟฟิศของเขา
คุณหมอได้ปิดประตูห้อง เอาเอกสารชุดนึงยื่นให้กับบุริศร์
“นี่คืออะไรครับ?”
“นี่คือหนังสือยินยอมบริจาคไตที่หลายวันก่อนทางเราได้รับครับ แถมฝ่ายตรงข้ามได้ส่งการจับคู่ไขสันหลังของตัวเองมาด้วย ฝ่ายตรงข้ามย้ำนักย้ำหนาว่าไม่อนุญาตให้คุณบริจาคไตของคุณ แต่พวกเราตรวจสอบแล้วครับ การจับคู่ของเธอไม่เข้ากันครับ”
คำพูดของคุณหมอ ทำให้บุริศร์อึ้งค้างไว้
“ฝ่ายตรงข้ามคือใครครับ?”
คุณหมอส่ายหัวและพูด: “ฐานะของฝ่ายตรงข้ามลึกลับมาก แต่เหมือนจะมีภูมหลังมาก แข็งแกร่งมาก ทางผมไม่มีสิทธิ์ในการตรวจสอบครับ แต่ฝ่ายตรงข้ามย้ำตลอดว่าห้ามให้คุณผ่าตัด ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเป็นญาติของคุณหรือว่าเพื่อนของคุณหรือเปล่าครับ?”
บุริศร์อึ้งค้างไว้
คนที่ขัดขวางเขาเข้ารับการผ่าตัดจะคือใครกัน?
เขานึกถึงป้าโอในเวลาแรก แต่พอคิดอย่างละเอียดก็ไม่ถูก เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐาน เขาโทรศัพท์หาธรณี ข่าวที่ได้รับคือคำด่าฉอดๆๆของป้าโอว่าทำไมเธอต้องบริจาคไตให้คนแปลกหน้าด้วย?
บุริศร์ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง
ในเมื่อไม่ใช่ป้าโอ แล้วจะเป็นใครไปได้?
เขาเปิดหนังสือยินยอมบริจาคและผ่าตัดออก กลับถูกลายเซ็นต์ของในนั้นทำเอาอึ้งค้างไว้
ไม่นึกเลยว่าจะเป็นแม่ของเขา แม่บุริศร์!
บุริศร์ช็อคสุดขีด
เขารู้สึกมาตลอดว่าแม่บุริศร์ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับเรื่องของเขากับนรมน แม้กระทั่งไม่มีการพูดอะไรเกี่ยวกับการหายตัวไปของนรมน คิดไม่ถึงว่าท่านจะเป็นฝ่ายบริจาคไตของตัวเองเพื่ออาการป่วยของกมล
จู่ๆเบ้าตาของบุริศร์เปียกชุ่ม
ดูท่าแล้วแม่รู้ความเคลื่อนไหวของเขาหมด
“คุณหมอ ผมรู้แล้วครับ ผมขอตัวไปคุยโทรศัพท์แป๊บนึงครับ”
อารมณ์ของบุริศร์ค่อนข้างไม่คงที่
คุณหมอพยักหน้า หลังออกจากออฟฟิศของหมอก็ได้โทรหาแม่บุริศร์
ฝั่งโน้นรับสายไวมาก รอบๆยังมีเสียงรบกวนด้วย เหมือนแม่บุริศร์จะอยู่ข้างนอก
“แม่ครับ”
หลังจากบุริศร์เรียกคำนี้ออกมา จู่ๆค่อนข้างอยากร้องไห้
เขาไม่ใช่คนที่อ่อนแอ อยู่บนเส้นทางความรักกับนรมน เขารู้สึกตัวเองแบกรับภาระอันหนักหน่วงนำอยู่ด้านหน้าตลอด คนข้างกายไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเขา ไม่มีคนเห็นด้วยกับเขา เขารู้สึกเสมอว่าตัวเองเดินอยู่ตัวคนเดียว จู่ๆเขาก็ค่อนข้างเปราะบางเหมือนเด็กแล้ว
เสียงของเขาสั่นอย่างรุนแรง แม้กระทั่งแฝงด้วยเสียงสะอื้นเสี้ยวนึงที่ยากจะสังเกตเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...