บทที่ 230 คุณมีผมที่รักคุณ
“ไม่รู้สิ มองเห็นไม่ชัดเจน เห็นคนอยู่แวบๆ จากนั้นคุณก็โผล่มา”
นรมนถอนหายใจเบาๆ
ถ้าไม่มีเรื่องแบบนั้น เธอจะทุบตีเหมือนเขาเป็นโจรได้อย่างไร
บุริศร์ไม่พูดอะไรต่อ เขาเอ่ยเสียงเบา:“รีบนอนเถอะ มีผมอยู่ด้วย ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้น”
“ค่ะ”
วันนี้นรมนเจอกับหลายเรื่อง โดยเฉพาะตอนไล่ตามตุลยา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย วันนี้นอนพลิกไปพลิกตัวมา ได้กลิ่นอายของบุริศร์ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของเขา นรมนค่อยๆหลับตาลงช้าๆ
เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอดังขึ้น นรมนหลับไปแล้ว แต่บุริศร์ไม่รู้สึกง่วงสักนิดเดียว
เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แท้จริงแล้วใครเป็นคนทำลับๆล่อๆ?
อีกฝ่ายปั่นหัวนรมนแบบนี้แท้จริงแล้วเพราะอะไร?
บุริศร์คิดเหมือนนรมน คนๆนี้จะต้องอยู่ในสถานพักฟื้น แต่สามารถแอบซ่อนตัวเข้ามาได้อย่างเงียบๆ แถมยังเฝ้าติดตามนรมน คนๆนี้ไม่ธรรมดา
จะเป็นใครนะ?
บุริศร์คิดไม่ออก
เขาเงยหน้ามองฝ้าเพดาน เพราะปิดไฟเอาไว้ แสงไฟกระพริบทั้งหมดดึงดูดความสนใจของบุริศร์
บุริศร์ขยับร่างของนรมนออกจากอ้อมแขนเบาๆ จากนั้นห่มผ้าให้เธอ ส่วนตนเองกลับลุกขึ้น ตรงไปคว้าแสงไฟที่กระพริบอย่างรวดเร็ว
อาจเป็นเพราะเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แสงไฟกระพริบจึงถูกเขาคว้าไว้ในมือทันที
เมื่อบุริศร์มองเห็นว่าเป็นกล้องวีดีโอ ทันใดนั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่าง
อาจจะไม่ใช่คนที่คอยเฝ้าติดตาม แต่อาศัยกล้องวงจรปิดคอยเฝ้ามองนรมน จงใจทำให้เธอตื่นกลัว
บุริศร์รีบนำกล้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่อีกฝ่ายตื่นตัว ตัดไฟเรียบร้อย บุริศร์จึงหมดหนทาง
แท้จริงแล้วเป็นใครกันนะ?
เขามองกล้องและจมดิ่งอยู่ในความคิด
อันที่จริงเขาไม่มีเป้าหมายที่สงสัย เพียงแต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
จะเป็นรเมศหรือเปล่า?
แต่เขาจะลักพาตัวพ่อแม่ของนรมนไปทำไม?
บุริศร์ไม่เข้าใจ หรือเพื่อให้นรมนกลับไปอยู่ข้างกายเข้า?หรือว่ามีเป้าหมายอื่น?
เวลาผ่านไป บอดี้การ์ดด้านนอกกลับมาแล้ว
บุริศร์ออกไปไถ่ถามสถานการณ์ สรุปว่าไม่ได้อะไรอย่างที่คิดเอาไว้
เนื่องจากคนๆนี้แอบเข้ามาในสถานพักฟื้นอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าจะต้องคุ้นเคยกับที่นี่อย่างมาก บางทีอาจจะซ่อนตัวอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่ตุลยาคนนี้ดึงดูดความสนใจของบุริศร์
บางทีอาจเป็นฝีมือของผู้หญิงคนนี้
“ไปตรวจสอบตุลยามาให้ฉัน”
คำพูดของบุริศร์ทำให้บอดี้การ์ดพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงกระซิบว่า:“ประธานบุริศร์ ใบหน้าของตุลยาได้รับบาดเจ็บ บอกว่าเป็นเพราะการทดลอง ตอนนี้กำลังรักษาบาดแผลในสถานพักฟื้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าแตกต่างจากใบหน้าเดิมมากแค่ไหน”
“บังเอิญจัง?”
บุริศร์ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลาแบบนี้ ช่วงที่อ่อนไหวนี้ ใบหน้าของตุลยาเสียโฉม
บุริศร์โบกมือ ให้บอดี้การ์ดไปได้ ส่วนตนเองเปิดคอมพิวเตอร์เริ่มตรวจสอบตุลยาอย่างละเอียด
ตุลยาคือลูกสาวประธาน แม่เป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง ภูมิหลังครอบครัวเรียบง่ายมาก นอกจากนี้ตุลยามีความสัมพันธ์กับกับไมค์ดีมาก
ดูถึงตรงนี้ บุริศร์จึงโทรหาไมค์
เมื่อไมค์รับโทรศัพท์ของบุริศร์ เขาค่อนข้างหดหู่
“นี่บุริศร์ นายโทรมาตอนกลางวันไม่ได้หรือ? ตอนกลางคืนให้ฉันนอนได้ไหม?นายคิดว่าใครก็เหมือนนายหรือไง?”
ไมค์หาวและพึมพำออกมา
บุริศร์ไม่สนใจคำพูดของเขา ถามเสียงทุ้มต่ำ:“นายรู้จักตุลยา?”
“รู้จักนะ ตุลยาทำไมหรือ?”
ไมค์ได้ยินบุริศร์พูดถึงตุลยา รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เธอเป็นผู้หญิงอย่างไร?”
“ทำไม?นายสนใจเธอหรือไง?ฉันจะบอกให้นะ ตุลยาเป็นผู้หญิงหยาบคาย นายควบคุมไม่ได้หรอก เธอไม่อ่อนโยนเหมือนพี่สะใภ้ เป็นคนที่ร้อนแรงสุดๆ”
ไมค์พูดจาหยอกล้อ เพื่อให้ตนเองหายง่วงสักหน่อย เขาลุกขึ้นมาเทกาแฟแก้วดื่มแก้วหนึ่ง รู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย
บุริศร์มีภูมิคุ้มกันต่อการพูดจาไร้สาระของไมค์
เขากระแอมไอและถามว่า:“ตุลยาเรียนสาขาอะไร?”
“เรียนหมอนะสิ จะเรียนอะไรได้อีก?เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้ชอบทำการทดลอง ระเบิดห้องทดลองไปหลายครั้งแล้ว ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ไม่นานทำห้องทดลองระเบิดไปห้องหนึ่ง แถมยังทำให้ตนเองเสียโฉม ฉันยังไม่มีเวลาไปเจอเธอเลย ทำไมหรือ?เธอสร้างปัญหาอะไรให้นาย?นี่ บุริศร์ ถึงแม้ตุลยาจะเป็นคนร้อนแรงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นคนดีอยู่นะ เธอเติบโตมากับฉัน นายอย่ามุ่งเป้าไปที่เธอเลย”
คำพูดที่ห่วงใยของไมค์ทำให้บุริศร์ชะงักงันเล็กน้อย เขาเอ่ยถามขึ้นมาทันที :“นายชอบเธอ?”
“พูดจาไร้สาระ”
ไมค์มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างมาก เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่กลับแสดงตัวตนอย่างชัดเจน
บุริศร์พิงโซฟา กล่าวด้วยรอยยิ้ม:“เกิดเป็นลูกผู้ชาย ชอบก็บอกเธอสิ ขี้ขลาดแบบนี้ มันไม่เหมือนไมค์ที่ฉันรู้จัก”
“ฉันไม่รู้สิ ตุลยาไม่ได้ชอบคนแบบฉัน”
ไมค์ห่อเหี่ยวเล็กน้อย ถูกคนสังเกตเห็นสิ่งที่คิดอยู่ในใจ กลับระบายออกมาไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้เป็นทุกข์อย่างไม่ธรรมดาจริงๆ
บุริศรพูดปลุกใจเขา:“ไม่ต้องสนว่าชอบแบบไหน เพียงแค่นายชอบก็ไปจีบ นายไม่มีความมั่นใจในตนเองตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“นายยังไม่เคยเจอตุลยาตัวจริง เธอสวยมากๆ ไม่ต่างกับพี่สะใภ้เลย”
“ในสายตาของฉันนรมนสวยที่สุด”
บุริศร์พูดจบ อดมองไปทางนรมนไม่ได้
เธอยังคงหลับสนิท ดูเหมือนจะลืมปัญหาทั้งหมดไปแล้ว เหมือนเด็กคนหนึ่ง ทำให้ผู้คนรู้สึกสงบลงอย่างอธิบายไม่ถูก
ไมค์ถูกยัดอาหารสุนัขเข้าปากทันที
“พวกเราไม่ต้องให้อาหารสุนัขกันกลางดึกดีไหม?”
ไมค์ห่อเหี่ยวเล็กน้อย
บุริศร์ถึงจะออกมาจากความคิดของตนเอง กล่าวเสียงเบาว่า:“ส่งข้อมูลทุกอย่างของตุลยามาให้ฉัน ฉันต้องการทั้งหมด”
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่? ฉันเตือนนายไว้ก่อนนะ บุริศร์ ถ้านายคิดจะทำร้ายตุลยา ฉันไม่ยอมแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...