บทที่ 474 ทำไมถึงเป็นฉัน
พรรษาโมโหจนก่นด่าไปทั่ว แต่สำหรับเจตต์เขาได้เคยชินไปแล้ว
“แกรองว่ามาสิ ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนในรังของตัวเอง แต่ดันกลับบ้านมาสร้างความเดือดร้อนให้ฉัน เขาตั้งใจใช่ไหม!”
พรรษาโกรธจัด
ตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากที่ช่วยเขากลับมาจากการถูกลักพาตัว เด็กคนนี้ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน อะไรที่ต่อต้านเขาได้เขาจะทำทุกวิถีทาง
เจตต์กลับเบะปากลง “ก็ใช่สิ ห้องของผมเอง ผมไม่กล้าลงมือหรอก หากจุดไฟเผาขึ้นมา ผมต้องตกแต่งใหม่อีก”
ประโยคนี้ทำให้พรรษาทนไม่ได้อีกต่อไปเขาโกรธจนเป็นลมล้มลง
“คุณท่าน! คุณท่าน! เร็วเข้า เรียกหมอมาเร็ว”
คุณนายรัตติกรวรกุล เหงื่อแตกโชก
เจตต์กลับขึ้นไปอาบน้ำอย่างสบายใจ เขาเบื่อหน่ายกับตาแก่ที่โกรธจัดจนเป็นลมไปอยู่บ่อยครั้ง
ยังไงซะหมอประจำบ้านก็คอยเตรียมการในบ้านอยู่ตลอด ตาแก่เองก็ไม่มีทางตายง่ายๆ อยู่แล้ว
เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเห็นหัวที่โล้นเกลี้ยงของตนเอง จึงหยิบหมวกขึ้นสวม ก่อนที่จะออกจากบ้านไป
มุ่งไปยังร้านตัดผม เจตต์สั่งในร้านโกลนหัวตนเองจนโล้น
ทรงผมเช่นนั้นยังจะแก้ไขอะไรได้อีก
เมื่อออกมาด้านนอกเขารู้เย็นวูบบนหัว ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ คนที่สัญจรไปมารอบด้านต่างจ้องมองเขา ด้วยสายตาที่ทำให้เจตต์แทบคลั่ง
“มองอะไร! ไม่เคยเห็นพระหรือไง?”
เจตต์ตะคอกเสียงดัง ผู้คนรอบด้านตกใจจนเร่งฝีเท้าออกจากที่อย่างไว
ในขณะที่เขาใช้ความคิดว่าจะไปหาอะไรลงกระเพาะดีหรือไม่ ทันใดนั้นก็ได้รับสายจากกานต์
เจตต์เลื่อนปุ่มรับสาย “นี่ ฉันได้ข่าวว่าแกเป็นไข้ตัวร้อน? ทำไมถึงได้อ่อนแอนัก? แม่ของแกไม่เป็นอะไรแล้ว สบายใจเถอะ ฉันเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล แม่ของแกสดใสมาก”
เมื่อได้ยินประโยคของเจตต์ กานต์ถึงได้สบายใจขึ้นมาบ้าง แต่กลับตอบเสียงแผ่ว “คุณอาเจตต์ ขอบคุณมากครับ ผมได้ข่าวว่าเมื่อคืนคุณอาช่วยหม่ามี้ของผมเอาไว้ด้วย”
เรื่องนี้แม้แต่คุณนายโตเล็กเองก็ยังไม่รู้เรื่อง แล้วกานต์รู้ได้อย่างไร?
เจตต์นิ่งไป ก่อนที่จะนึกถึงความสามารถระดับเป็นอัจฉริยะของกานต์ ควเป็นเพราะไอ้หมอนี่แอบแฮกเข้าระบบของโรงพยาบาลแหงๆ
“นี่ แกทำแบบนี้ไม่ได้นะ เจาะเข้าระบบความปลอดภัยของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แกกำลังทำผิดกฎหมายนะรู้ไหม?”
“ผมแค่เป็นห่วงหม่ามี้ของผมเท่านั้น”
น้ำเสียงของกานต์แหบพร่า ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกระแอมไอ ทำให้เจตต์เจ็บปวดใจขึ้นมา
เธอเป็นลูกของนรมน ตอนนี้นรมนไม่อาจดูแลเขาได้ จึงเอ่ยขึ้น “ฉันจะซื้อจองอร่อยไปฝาก”
“ดีจังเลย! ผมอยากทานทุเรียนกรอบฮะ”
กานต์ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
เจตต์หัวใจออกมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเอ่ยตอบ “รอก่อน ผมจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ครับ”
“ครับ คุณอาเจตต์”
หลังวางสาย กานต์ดีดตัวลุกขึ้นหวังเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ได้พบกับคุณนายโตเล็ก
“คุณย่า”
“ดีขึ้นบ้างไหม?”
คุณนายโตเล็กเป็นห่วงและกังวลในหลานคนนี้มาก
“ดีขึ้นมากเลยครับ อีกเดี๋ยวคุณอาเจตต์จะมาเยี่ยมผมครับ”
ประโยคของกานต์ทำให้คุณนายโตเล็กนิ่งไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โอเค แต่หลานก็ต้องพักผ่อนด้วย รู้ไหม?”
“ขอบคุณครับคุณย่า”
คุณนายโตเล็กยกมือขึ้นแตะหน้าผากของกานต์ เมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อนแล้ว จึงสั่งให้สาวใช้ไปเตรียมน้ำอุ่น ถึงได้ปล่อยกานต์ไปตามอิสระ
เมื่อเจตต์มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลโตเล็ก ทำให้คุณนายโตเล็กสะดุ้งโหยง “คุณชายเจตต์ ทรงผมคุณเก๋ดีจังเลยนะ?”
คงไม่ดีนักหากคุณนายโตเล็กพูดเป็นอื่น อุตส่าห์คิดหาศัพท์ที่เหมาะสมได้
เจตต์ลูปไล้ศีรษะที่เกลี้ยงเกลาของตนเอง พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณนายโตเล็กไม่รู้อะไรซะแล้ว อย่างผมเรียกว่าทันสมัยครับ”
“อืม ทันสมัย”
คุณนายโตเล็กเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น แต่ในใจกลับคิดว่า หากลูกชายทั้งสองของเธอทำผมทรงนี้ละก็ เธอจะสั่งสอนทั้งคู่ให้ตายไปเลย
“กานต์อยู่ชั้นบน ขึ้นไปเถอะ”
เจตต์ยักไหล่กับประโยคของคุณนายโตเล็ก ก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องของกานต์
“ไอ้หนู นี่ทุเรียนกรอบของนาย”
เจตต์ยื่นถุงทุเรียนกรอบไปตรงของกานต์
กานต์จ้องมองไปที่เจตต์ด้วยความตะลึง นานกว่าจะได้สติกลับคืนมา
“เป็นอะไรไป? เท่มากเลยใช่ไหม?”
เจตต์เอ่ยด้วยรอยยิ้มกวนประสาท
กานต์พยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “เท่ ดูก็รู้เลยครับว่าออกมาจากด้านใน”
“ไอ้นี่ พูดจายังไงกัน?”
เจตต์ที่เบื่อหน่ายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินกานต์เอ่ยออกมาแบบนั้นสร้างความเบื่อหน่ายให้กับเขามากกว่าเดิม
“น่าเกลียดขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ก็ใช้ได้ แค่ยังไม่ชินเท่านั้นเอง”
กานต์ไว้หน้าเจตต์
เจตต์นั่งลงข้างๆ เขาอย่างหม่นหมอง “รู้แต่แรกก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวแล้ว”
“หาเรื่องใส่ตัวอะไร?”
“ยุ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...