บทที่ 518 ฉันไม่กลัวนายหักหลังฉันหรอก
นี่เป็นรูปถ่ายใบหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน
ในตอนนั้นเขมิกายังคงสวยมาก และยังมีความรักร้อนแรงต่อตรินท์อยู่
ดวงตาของเขาดูลึกล้ำขึ้น ราวกับว่าเข้าสู่ความทรงจำแล้ว
เขมิกาเป็นผู้หญิงยังไงเหรอ?
พอตอนนี้ตรินท์มานึกขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จำได้ชัดเจนที่สุดก็คือแววตาที่เธอมองตัวเอง ที่อ่อนโยนขนาดนั้น ที่ลึกซึ้งขนาดนั้น
ตั้งแต่แรกเขานึกว่านี่ก็คือความรัก จนมาถึงตอนหลังถึงได้รู้ว่า เธอก็แค่เพียงใช้หน้าตาของเขามองผ่านไปเป็นคนอีกคนเท่านั้น
ตั้งแต่เล็กจนโต เป็นเครื่องประดับและตัวเปรียบเทียบให้คนคนหนึ่งมาก็มากพอแล้ว ในเมื่อไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แต่ว่าพอโตมาแล้วก็ยังเป็นตัวแทนของคนคนนั้นอยู่ ความอับอายแบบนี้จะให้ตรินท์ข่มมันลงไปได้ยังไง
เขมิกาเป็นผู้หญิงของเขา!
ระหว่างพวกเขายังมีลูกด้วยกันด้วยซ้ำ!
แต่บุริศร์กลับทำให้เขมิกาตายไปทั้งอย่างนั้น
ถึงจะบอกว่าไม่ใช่เขาลงมือเองกับมือ แต่ว่าก็เป็นเพราะว่าเขา เพราะนรมน และสองคนนี้ก็ยังทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้มีพระคุณมาเลี้ยงลูกของเขา ทำให้เขายังต้องมาสำนึกบุญคุณอีกเหรอ?
นี่มันช่างน่าตลกจริง ๆ !
ตรินท์ปิดนาฬิกาพกลงอย่างแรง แล้วมาวางไว้ในตำแหน่งที่เป็นหัวใจ แววตาเยือกเย็นมองไปข้างนอก แล้วพูดเองเออเองขึ้นว่า “ออกมาหากิน ช้าเร็วก็จะต้องชดใช้คืน สิ่งที่พวกแกสองผัวเมียติดค้างฉันอยู่ ฉันจะต้องทวงคืนแน่ ๆ”
แล้วก็ในเวลานี้ ที่ข้างนอกมีเสียงเคาะประตูลอยเข้ามา
“เข้ามา!”
ตรินท์เอานาฬิกาพกเก็บเข้าไปในกระเป๋าเสื้อที่ติดตัวไว้ แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนกลับไปเป็นเรียบเย็นอีกครั้ง
ผู้ชายที่เข้ามามองซ้ายมองขวาเล็กน้อย พอเห็นว่าข้างในไม่มีคนนอกถึงได้ยิ้มแฉ่งแล้วพูดว่า “ประธานตรินท์ ช่วงนี้ไม่ค่อยคล่องมือเท่าไหร่ คุณดู พอจะสามารถจุนเจือเงินให้สักหน่อยได้ไหมครับ?”
คนที่มาท่าทางประจบสอพลออยู่ รูปร่างผอมแห้งกระดูกราวกับฟืน
ตรินท์มองเขาทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “นาคร ฉันจำได้ว่าเพิ่งให้เงินนายไปเมื่อไม่นานนี่เองนะ ทำไม? ใช้หมดไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ประธานตรินท์ คุณเองก็รู้ว่า ของนั่นมันแพงมาก คราวที่แล้วที่คุณให้ผมไปทำงาน ผมก็ต้องทุ่มเงินของตัวเองไป”
“นายนังมีหน้ามาพูดเรื่องของคราวที่แล้วกับฉันอีกเหรอ?”
สีหน้าของตรินท์เปลี่ยนไปทันทีเลย
นาครตกใจจนตัวสั่น แต่กลับไม่กล้าเปิดปากพูด
ตรินท์หือเสียงเย็นคำหนึ่งแล้วพูดว่า “นายรับประกันกับฉันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าบุริศร์ดื่มเหล้านั้นเข้าไปแล้วก็จะติดกับ แต่ว่านายดูตอนนี้เขากลับมีชีวิตอยู่อย่างมังกรอย่างเสืออยู่ ตรงไหนที่เหมือนกับว่าโดนพิษยาเสพติดติดพันอยู่?”
“แต่ว่าผมให้แก้มใส่เข้าไปแล้วจริง ๆ นี่ครับ ในตอนแรกยัยเด็กนั่นไม่ยอมทำ บอกว่าบุริศร์เป็นผู้มีพระคุณของเธอ เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้ แล้วผมก็ฉีดยาให้เธอ เธอถึงได้ยอมอ่อนข้อลง แล้วอีกอย่าง ถ้าหากว่าบุริศร์ไม่ได้ติดกับ ทำไมถึงได้หายตัวไปตั้งแปดวันละครับ? ผมรู้สึกว่าน่าจะภายในระยะเวลาแปดวันนี้เขาต้องหนีไปเลิกยามาแน่”
พอได้ยินนาครพูดอย่างนี้แล้ว ตรินท์ก็ยิ้มเย็นขึ้นมา
“ไหนนายบอกกับฉันว่าของแบบนั้นถ้าติดแล้วก็เลิกยากมากไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่แค่แปดวันก็เลิกได้แล้วเหรอ? นายนึกว่าสถานบำบัดยาเสพติดนั้นมีไว้ทำอะไร? ในระยะเวลาแปดวันมานี้ ฉันหาทั่วทุกสถานบำบัดแล้ว ไม่เห็นร่องรอยของเขาเลย แล้วนายจะบอกกับฉันว่า เขาพึ่งแต่ตัวเองแค่ระยะเวลาแปดวันก็สามารถเลิกยาได้แล้วงั้นเหรอ? นาคร นายจะต้องรู้ไว้นะว่า การโกหกฉันนั้นจะมีจุดจบยังไง! พูดมา! นายเอาของไปกินเองแล้วใช่ไหม? ส่วนทางด้านบุริศร์แค่ได้ของเกรดต่ำไปใช่ไหม?”
นาครรีบร้อนรนขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่นะครับ ประธานตรินท์ ผมไม่กล้าโกหกคุณแน่นอน หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะคุณคอยดูแลผมอยู่ ผมก็คงจบไปนานแล้ว จะมามีชีวิตอยู่สุขสบายอย่างตอนนี้ได้ยังไง? ผมไม่มีทางหักหลังคุณแน่นอน ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นตรงไหน แต่ว่าผมให้ยัยเด็กแก้มวางกับดักบุริศร์แล้วจริง ๆ แล้วตอนนี้เกิดสถานการณ์อย่างนี้เข้า ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตอนนี้ตังเมก็ยังอยู่ในมือของพวกเขา ถ้าผมจะโกหกคุณ ผมก็ไม่กล้าหรอก คุณก็รู้ว่าระหว่างผมกับตังเมยังมีความรู้สึกต่อกันอยู่”
“ความรู้สึกเหรอ? เหอเหอ แต่ฉันดูไม่ออกเลย ตอนนี้ตังเมน่าจะอยู่ในมือของพฤกษ์ ในส่วนนี้ตัวฉันจะจัดการเอง ช่วงระยะเวลานี้ถ้านายไม่มีเรื่องอะไรก็หลบอยู่แต่ในชมรมยิงปืนไม่ต้องออกมา ตอนนี้บุริศร์กำลังตามหานายทั่วโลกแล้ว ถ้าหากว่านายโดนเขาหาเจอเข้า......”
“ประธานตรินท์วางใจได้ ถึงผมจะโดนบุริศร์จับตัวได้ ผมก็จะไม่มีทางซัดทอดถึงประธานตรินท์แน่ครับ”
นาครรีบแสดงเจตนารมณ์
ตรินท์กลับพูดขึ้นอย่างเรียบ ๆ ว่า “ฉันไม่กลัวนายหักหลังฉันหรอก ถึงนายจะพูดว่าคือฉันออกไปก็ไม่เป็นไร แต่ว่าลูกชายของนายก็คงจะ……”
“ครับ ครับ ครับ ผมอยู่กับประธานตรินท์มาหลายปีขนาดนี้ ลูกชายของผมก็ได้รับการดูแลจากประธานตรินท์อยู่ แน่นอนว่าผมไม่กล้าและไม่มีทางหักหลังประธานตรินท์แน่นอนอยู่แล้วครับ”
บนหน้าผากของนาครมีเหงื่อซึมออกมา แต่กลับไม่กล้าเช็ด
“เป็นอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้ว ลูกชายคนนี้ที่ตังเมคลอดออกมาให้กับนายก็เป็นคนที่ดีมาก ถ้าหากว่ามีโอกาส ฉันก็จะให้พวกนายได้เจอกันสักครั้งแน่ แต่ว่านายจะต้องจัดการเรื่องของฉันให้เรียบร้อยก่อน”
“ได้ครับ ได้ครับ ได้ครับ”
นาครพยักหน้าอย่างกับหมาปั๊กตัวหนึ่ง
มันไม่มีทางแล้ว ชีวิตนี้เขากลายเป็นคนติดยาเสพติดคนหนึ่งไปแล้ว ยังดีที่ก่อนที่ยังไม่ได้ติดพันกับของสิ่งนี้นั้น ได้มีช่วงชีวิตคู่กับตังเมมาก่อนช่วงหนึ่ง แล้วมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่ง มาวันนี้ร่างกายพัง ๆ ของตัวเองนี้ ถ้าอยากจะมีลูกอีกคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ถึงแม้จะมีคนยอมอุ้มท้องให้เขา แต่ก็ไม่สามารถคลอดลูกที่แข็งแรงออกมาได้แล้ว
เขานาครเป็นคนที่มีผู้สืบสกุลแล้ว ก็แน่นอนว่าจะต้องช่วยคิดเผื่อลูกชายเพียงคนเดียวด้วย
“กลับไปเถอะ ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน ก็อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก”
ตรินท์โยนเงินให้นาครส่วนหนึ่ง อย่างกับไล่พวกขอทานยังไงอย่างงั้นแล้วก็ไล่เขาไป
นาครเอาเงินเสร็จแล้วก็จากไป
ตอนที่ออกมานั้น เขาก็มองซ้ายมองขวาทีหนึ่ง เมื่อพบว่าไม่มีใครสังเกตตัวเองแล้ว ถึงได้ขึ้นรถแท็กซี่ไป แล้วก็กลับไปถึงชมรมยิงปืนอย่างรวดเร็ว
อยู่ในชมรม นาครก็มีห้องที่เป็นส่วนตัวอยู่ห้องหนึ่ง
เขากลับมาถึงห้องตัวเอง แล้วก็เอารูปถ่ายของลูกชายออกมา
ถ้าหากว่านับตามเวลาแล้ว ลูกชายก็น่าจะอายุยี่สิบกว่าแล้วมั้ง ก็ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานหรือยัง ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...