ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นปลายฤดูใบไม้ร่วง แต่อุณหภูมิก็ยังประมาณสิบองศา แต่จางฉุยจูกลับห่อตัวเองเหมือนอย่างกับบ๊ะจ่างอันใหญ่
มองดูแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่าจางฉุยจูคงสวมเสื้อกันหนาวสองตัว ตรงหน้าผากมีเหงื่อซึม เห็นแล้วก็รู้สึกร้อนแทน
นับจากที่นางเข้าประตูมา จางฉุยจูยังคงก้มหน้าก้มตา ต่อให้เงยหน้ามามองนางแวบเดียว สายตานั่นก็หลบไปอย่างรวดเร็ว ดูแล้วก็เหมือนคนต่ำต้อยอย่างมาก
ความรู้สึกบอกลั่วเสี่ยวปิงว่า จางฉุยจูอาจจะไม่ได้ป่วยเป็นโรคทางนารีเวช อาจจะเป็นโรคติดต่ออย่างอื่น
“ฉุยจู แม่พาพี่เสี่ยวปิงมาแล้ว เจ้าให้พี่เสี่ยวปิงดุให้เจ้าดูสิ” หยินเสี่ยวหงพูดกับจางฉุยจู
จางฉุยจูได้ยิน สีหน้าก็วิตกกังวลขึ้นมา พร้อมพูดอย่างอ้ำอึ้งว่า “แม่ ไม่….ไม่ต้อง ข้า….”
“ไม่ต้องอะไร ในบ้านนี้เจ้าเป็นใหญ่หรือแม่เป็นใหญ่ แม่สั่งให้เจ้าตรวจ เจ้าก็ต้องตรวจ” หยินเสี่ยวหงโกรธโมโหขึ้นมา ไม่สนใจว่ายังมีลั่วเสี่ยวปิงอยู่ด้วย
สีหน้าจางฉุยจูแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า ไม่กล้าขัดใจแม่ของตน แต่สายตาที่มองลั่วเสี่ยวปิงเต็มไปด้วยความคัดค้าน
ลั่วเสี่ยวปิง “…..” นางไม่น่ากลัว จริงๆ
เผชิญหน้ากับภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี หยินเสี่ยวหงก็เดินตรงไปแก้เสื้อผ้าจางฉุยจู
ลั่วเสี่ยวปิง “….” นี่เป็นการทำอะไร?
“แม่ ข้าถอดเอง แม่ไม่ต้องดึงแล้ว….”ในที่สุดจางฉุยจูก็ทนไม่ไหว ร้องไห้พร้อมพูดขึ้น
หยินเสี่ยวหงได้ยินเช่นนี้ ก็หยุดการกระทำ แต่กลับจ้องมองจางฉุยจูท่าทีราวกับหากเจ้าไม่ลงมือข้าจะช่วยลงมือ
ลั่วเสี่ยวปิง “….” ทำไมรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้เป็นโสเภณีไปรับแขก?
ภายใต้การบังคับของหยินเสี่ยวหง จางฉุยจูจำต้องเริ่มถอดเสื้อผ้า แต่สายตาที่มองลั่วเสี่ยวปิงนั้นตัดเพ้ออย่างมาก
ลั่วเสี่ยวปิง “….” นางมาเพื่อช่วยตรวจรักษา ไม่ได้มาบีบบังคับให้เป็นโสเภณีนะ
ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดอะไรไม่ออก ตามด้วยการที่จางฉุยจูถอดเสื้อผ้าออก ลั่วเสี่ยวปิงได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
กลิ่นนั้นค่อยๆโชยออกมา และยังเป็นกลิ่นที่โชยมาจากตัวจางฉุยจู
และในตอนนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ค่อยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าเรียบเฉย หัวสมองเริ่มค้นหาสูตรยา
“เสี่ยวปิง ปีหน้าฉุยจูก็จะแต่งงานแล้ว กลิ่นบนตัวนี้จะทำยังไง? หากมีกลิ่นนี้ติดตัวไปบ้านสามี เกรงว่า….” หยินเสี่ยวหงพูดขึ้นด้วยสีหน้าวิตกกังวล
สมัยนี้เป็นยุคที่ผู้หญิงลำบากมาก หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง ปีหน้าลูกสาวแต่งงานออกไปอยู่บ้านสามีแล้วจะเป็นที่รังเกียจ หยินเสี่ยวหงก็คงไม่ไปตามลั่วเสี่ยวปิงมา
ใช่ว่าหยินเสี่ยวหงไม่เคยไปตามหมอคนอื่นมาตรวจ แต่หมอละแวกใกล้นี้นางไม่กล้าไปหา ดังนั้นก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการพานางไปรักษาในเมืองใกล้
แต่สองปีมานี้กลิ่นตัวบนกายจางฉุยจูยิ่งรุนแรง จางฉุยจูจึงไม่ยอมออกจากบ้านอีก คนทั้งคนก็ดูต่ำต้อย
เดิมหยินเสี่ยวหงก็แทบจะปล่อยวางไม่ตั้งแต่ด้นแล้ว แต่บังเอิญตอนนี้ลั่วเสี่ยวปิงไม่เพียงรักษาขาของจางต้าหลางจนหาย ยังรักษาจางเอ้อเก่าที่หมอสูบอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว ดังนั้นหยินเสี่ยวหงจึงฝากความหวังไว้ที่ลั่วเสี่ยวปิง หวังว่าฝีมือการต่อสู้ของลั่วเสี่ยวปิงจะอัศจรรย์จริงๆ
คิดอยู่เช่นนี้ สายตาหยินเสี่ยวหงที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงยิ่งเร่าร้อน
“คุณป้า เจ้ากับลุงต้าหลินมีกลิ่นกายแบบนี้ไหม?”
จางฉุยจูเป็นโรคกลิ่นตัวเหม็น ไม่ถือว่าเป็นโรคแปลกพิสดารอะไร
แต่ดูสีท่าป้าหยิน หมอยุคสมัยนี้น่าจะไม่รู้จักโรคกลิ่นตัวเหม็น
หยินเสี่ยวหงฟังแล้วก็ส่ายหัวทันที
“เราสองผัวเมียไม่มี แต่ได้ยินสามีข้าพูดว่า ปู่ทวดของเขาก็เคยเป็นโรคแบบนี้”
ลั่วเสี่ยวปิงได้ฟังแล้วก็พยักหัว โรคกลิ่นตัวเหม็นสามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ และการรักษาโรคกลิ่นตัวเหม็นที่จริงก็ไม่ยาก ที่สำคัญคือขจัดความร้อนชื้น ปรับสมดุลเลือดลมในร่างกาย
ส่วนการรักษาโรคกลิ่นตัวเหม็นเป็นการรักษาภายนอกเป็นหลัก สามารถใช้ร่วมกับอาหารและยาทาภายนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...