“ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว”
เล่อเล่อกับอานอานวิ่งไปหาลั่วเสี่ยวปิง
ลั่วเสี่ยวปิงวางของที่อยู่ในมือลง แล้วอ้าแขนทั้งสองข้างโอบกอดลูกทั้งสองคนเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
“ทำให้พวกเจ้าต้องเป็นห่วงแล้ว” ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกผิดเล็กน้อย
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน นางก็ทำได้แค่จำเป็นต้องทิ้งลูกทั้งสองคนไว้ข้างหลังก่อน
อานอานเพียงแค่ปล่อยให้ลั่วเสี่ยวปิงกอดนางเอาไว้สักครู่หนึ่งแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว และหูก็แดงเล็กน้อย
“พวกเราไม่ได้เป็นห่วงเลย พวกเราเชื่อในตัวท่านแม่ขอรับ” อานอานเอ่ยปากพูด
เล่อเล่อที่อยู่ในอ้อมแขนของลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ไม่ผิดไม่ผิด ข้ากับท่านพี่เชื่อในตัวท่านแม่ เป็นท่านพ่อต่างหากที่เป็นห่วงท่านแม่เจ้าค่ะ”
ฉีเทียนเห้า “......”
ลูกทั้งสองคนล้วนเชื่อในตัวนางและไม่ได้เป็นห่วงนางเลย แต่เขาต่างหากที่เป็นห่วง นั่นไม่ได้จะบอกว่าแม้แต่เด็กสองคนเขาก็สู้ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้นฉีเทียนเห้าก็รู้สึกเสียหน้าขึ้นมาและคิดที่จะเบือนหน้าหนี แต่เมื่อเขาเห็นลั่วเสี่ยวปิงมองมาที่เขา เขาก็นั่งอยู่ตรงนั่นโดยแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอลั่วเสี่ยวปิงเงยหน้าขึ้นก็เผชิญกับดวงตาที่สงบเยือกเย็นทั้งสองข้างของฉีเทียนเห้า นางก็รู้สึกได้ในทันทีว่า......
เอ่อ มีความรู้สึกแบบว่าตัวเองได้ยินคำพูดของเล่อเล่อแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาทันทีเหมือนกับกำลังคาดหวังว่าจะถูกเขาเป็นห่วงเป็นใยอย่างนั้นแหน่ะ
อะแฮ่มๆ คิดอะไรอยู่เนี่ย?
ลั่วเสี่ยวปิงเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แล้วจึงลุกขึ้นยืน และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พวกเจ้าย้ายข้าวของเข้ามากันหมดแล้วหรือ? แม่จะไปเก็บของเดี๋ยวนี้”
“ท่านแม่ไม่ต้องทำแล้ว ย่าเฉินช่วยเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเจ้าคะ” เล่อเล่อพูด
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็มองไปที่อานอานกับเล่อเล่อ แล้วพูดว่า “อานอานเล่อเล่อไม่ใช่ว่าพวกเจ้าคิดอยากจะมีห้องเป็นของตัวเองมาโดยตลอดหรอกหรือ? เลือกได้แล้วหรือยัง?”
อานอานพยักหน้า “อืม”
เล่อเล่อทำสีหน้าตื่นเต้นดีใจ แล้วพูดว่า “เลือกได้แล้ว เลือกได้แล้ว ท่านแม่เจ้าคะข้ากับท่านพี่เลือกเรียบร้อยแล้ว”
หลังจากพูดจบ เล่อเล่อก็จูงมือลั่วเสี่ยวปิงเดินเข้าไปในห้องอย่างตื่นเต้นดีใจ
ลั่วเสี่ยวปิงจึงถือโอกาสจูงมือ อานอานไปด้วย แล้วสามคนแม่ลูกก็เดินเข้าไปในห้องโถงด้วยกัน
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ในเวลานั้นเองฉีเทียนเห้าก็ลุกขึ้นและเดินตามเข้าไปเช่นเดียวกัน
หลังจากที่สามคนแม่ลูกเข้าไปในห้องโถงแล้ว เล่อเล่อก็ชี้ไปที่ห้องสองห้องด้านหลังและพูดว่า “ท่านแม่ ห้องด้านซ้ายนั่นเป็นห้องของท่านพี่ และห้องด้านขวานั่นเป็นห้องของเล่อเล่อเจ้าค่ะ”
ทั้งสองห้องนั้นค่อนข้างจะมีขนาดเล็กอยู่บ้าง แต่มีพื้นที่กว้างขาวงมากพอสมควร และเค้าโครงภายในห้องก็คล้ายๆกัน ทุกห้องล้วนมีตู้หนังสือแถวหนึ่ง ยังมีโต๊ะหนังสือ และชั้นหนังสือ ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำขึ้นมาซึ่งลั่วเสี่ยวปิงได้ให้ช่างไม้สร้างตามห้องเด็กสมัยใหม่
สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ โต๊ะหนังสือและชั้นหนังสือที่อยู่ทางด้านซ้ายจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ในขณะโต๊ะหนังสือและชั้นหนังสือที่อยู่ทางด้านขวาจะมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย แต่กลับมีโต๊ะเครื่องแป้งตัวหนึ่งเสริมเข้ามาด้วย
ซึ่งทั้งสองห้องนี้ แรกเริ่มเดิมทีก็คือห้องที่ลั่วเสี่ยวปิงได้ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อลูกๆทั้งสองคน
หลังจากที่แนะนำห้องของตัวเองเสร็จแล้ว เล่อเล่อก็กระพริบตาปริบๆและมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง แล้วถามว่า “ท่านแม่ ห้องของท่านล่ะ? ท่านจะอยู่ห้องไหนหรือ?”
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้น นางกลับไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่นัก “เรื่องนี้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับพ่อของพวกเจ้าน่ะ......”
ส่วนอีกสองห้องก็มีลักษณะคล้ายๆกัน ซึ่งทุกห้องล้วนแต่มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หนึ่งหลัง เตียงหนึ่งหลัง และยังมีโต๊ะข้างเตียงอีกด้วย รอให้ฉีเทียนเห้าเลือกเสร็จแล้วนางค่อยเลือกก็ยังไม่สาย
อย่างไรเสียฉีเทียนเห้าก็ช่วยเหลือตัวเองมาไม่น้อยเลย ดังนั้นการที่เขาได้เลือกห้องก่อนจึงเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว
“ข้าอย่างไรก็ได้ เจ้าเลือกเลยก็แล้วกัน”
และในขณะนั้นเอง เสียงของฉีเทียนเห้าก็ดังขึ้นจากด้านหลังของลั่วเสี่ยวปิง
“อุ๊ย......” ลั่วเสี่ยวปิงตื่นตระหนกตกใจ
เมื่อกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ลั่วเสี่ยวปิงก็ชายตาไปจ้องฉีเทียนเห้าตาเขม็ง
ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรของเขาเนี่ย? เดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย ตกอกตกใจหมด
เพียงแต่ตอนที่ ลั่วเสี่ยวปิงจ้องมอง ฉีเทียนเห้า นางก็ได้เห็นว่าสายตาที่ฉีเทียนเห้ากำลังมองมาที่ตัวเองมีความแปลกประหลาดอยู่เล็กน้อย
ซึ่งลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้คิดมากอะไร และไม่กล้าที่จะมองเขามากเช่นกัน นางเพียงแค่กำลังคิดว่าในเมื่อฉีเทียนเห้าให้ตัวเองเลือกก่อน เช่นนั้นนางก็จะเลือกเองให้เรียบร้อยไปเลยก็แล้วกัน
ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงชี้ไปที่ห้องทางด้านซ้ายห้องนั้น “ข้าเลือกห้องนี้ก็แล้วกัน”
“ข้าไม่มีความคิดเห็นใดๆ” ฉีเทียนเห้าพูด
ลั่วเสี่ยวปิง “......” ดูเหมือนนางจะไม่ได้ถามเขาว่าเขามีความคิดเห็นอะไรไหมนะ?
ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มแบบฝืนใจยิ้มและชี้ไปยังห้องที่อยู่ทางขวาห้องนั้น แล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเจ้าก็ไปนอนในห้องนั้นเถอะ”
หลังจากพูดคำนี้จบ ทั้งร่างกายของลั่วเสี่ยวปิงก็ผ่อนคลายลง
ก่อนหน้านี้ทั้งสี่คนเบียดเสียดกันอยู่ในห้องเดียว แต่ตอนนี้ได้อยู่คนละห้องแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่จำเป็นต้องเบียดเสียดอยู่ในห้องเดียวกันกับฉีเทียนเห้าแล้ว นางก็รู้สึกว่าเซลล์ทั้งหมดในร่างกายของนางผ่อนคลายลงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...