แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 157

“เจ้าลองแตะลูกชายข้าดูสิ!”

ในตอนที่จ้าวซื่อกำลังจะลงมือ ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

เมื่อมองดูความยุ่งเหยิงในห้อง ใจในของลั่วเสี่ยวปิงก็เต็มไปด้วยความโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะความหนกแน่นของนางดี นางอยากจะโยนคนไร้ยางอายพวกนี้ออกไปตอนนี้เลย

คำพูดของลั่วเสี่ยวปิงทรงพลังมาก และเยือกเย็นมาก บวกกับก่อนหน้านี้จ้าวซื่อก็เคยโดนจากลั่วเสี่ยวปิงมามาก ในใจของจ้าวซื่อจึงกลัวลั่วเสี่ยวปิง ดังนั้นนางจึงหยุดการเคลื่อนไหวในมือโดยไม่รู้ตัว

หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ลั่วเสี่ยวปิงก็เข้ามาอยู่ใกล้แล้ว ถึงแม้ว่าจ้าวซื่อต้องการจะลงมืออีกครั้ง นางก็ไม่มีโอกาสอีก

แต่ว่าลูกชายของนางถูกตีไปแล้ว จะให้ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้นางไม่ยอม นางจึงพูด

อย่างก้าวร้าวว่า “ลั่วเสี่ยวปิง เจ้าสอนลูกชายเจ้าอย่างไรกัน เป็นเด็กเป็นเล็กไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา จะโตมาจะขนาดไหน?”

ถึงแม้ว่าลั่วว่างซิ่งจะแก่กว่าอานอานแค่หนึ่งปี แต่ก็ถือว่าอาวุโสกว่าอานอานหนึ่งรุ่น

หากเปลี่ยนเป็นตระกูลอื่น อาวุโสกว่าหนึ่งรุ่นย่อมข่มอยู่บนหัว ถึงแม้ว่าอานอานจะรู้สึกเปรียบก็ได้แต่ทน

แต่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เป็นแบบนั้น นางไม่สนใจเรื่องอาวุโสหรือไม่ สนใจแค่ถูกหรือผิด

คิดอยากรังแกลูกชายนาง ไม่ได้แน่นอน ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น

“ป้าจ้าวสอนลูกเป็น ก็สอนลูกท่านบุกรุกเข้าห้องคนอื่นตามใจชอบงั้นหรือ? หรือสอนให้เขาลักขโมย?”

ลั่วเสี่ยวปิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ขโมยอะไร?เจ้าพูดมั่วอะไร?” จ้าวซื่อโกรธ

ขโมยของนี่คงจะต้องเข้าคุก

และเมื่อมีราคีนี้ ลูกชายของนางจะก้าวไปสู่เส้นทางขุนนางได้อย่างไร ยังไงนางก็หวังจะพึ่งพาลูกชายของนางคนนี้ทั้งหมด

“เอาไปโดยไม่ถาม ไม่เรียกว่าขโมยหรือ”

ลั่วเสี่ยวปิงกล่าวต่อว่า ดวงตาของนางจ้องมองไปที่จ้าวซื่ออย่างเย็นชา “ยังมีอีก ป้าจ้าวอยากตีลูกชายข้าด้วย หรือว่าเจ้าก็อยากให้มือนี้เน่าไปด้วย?”

เดิมทีจ้าวซื่อยังคิดจะถกเถียงกับลั่วเสี่ยวปิง แต่เมื่อได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดว่ามือเน่า ก็ถอยออกมาโดยไม่รู้ตัว

ในตอนนั้นเอง นางนึกถึงสิ่งที่ชาวบ้านพูดลับหลังนาง ทุกคนบอกว่าพวกเขาพูดไม่ได้เพราะนางด่าทอนังเด็กเล่อเล่อคนนั้น

แม้ว่านางจะเป็นใบ้เพียงสองวัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าในสองวันนี้นางสิ้นหวังแค่ไหน

ยิ่งไปกว่านั้น แผลที่ศีรษะและหนองที่ฝ่าเท้าก็ยังไม่หายดี นางจึงไม่กล้าที่จะให้มือเน่าอีก

ถ้าเล่อเล่อโดนด่าก็จะกลายเป็นใบ้ แล้วใครจะรับประกันว่าถ้าตีอานอานแล้วจะไม่เสียมือไป?

อีกอย่างสองคนนี้ก็เป็นฝาแฝดกัน หากจะร้ายก็ต้องร้ายเหมือนกัน

เมื่อเห็นว่าจ้าวซือตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของฟ่านซื่อก็ฉายแววดูถูก และเมื่อนางมองดูลั่วเสี่ยวปิงอีกครั้ง ดวงตาของนางก็ดูโหดเหี้ยมขึ้นเล็กน้อย

“เสี่ยวฟิงเมื่อกี้ที่เจ้าพูด หรือว่าที่ป้าสะใภ้รองเจ้ารับเคราะห์เมื่อหลายวันก่อนเป็นเพราะเจ้าทำขึ้น? ป้าสะใภ้ใหญ่ได้ยินว่าเจ้ารู้วิชาการแพทย์”

ขณะที่ฟ่านซื่อพูด ชาวบ้านบ้านที่ได้ยินก็เข้ามา

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฟ่านซื่อพูด ทุกคนก็มองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาที่งงงวย

ใช่ ลั่วเสี่ยวปิงมีฝีมือรักษาโรค และดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ถ้านางต้องการจะแกล้งคนๆ หนึ่ง

โดยเฉพาะวันนั้นที่จ้าวซื่อเกิดเรื่อง ก็บังเอิญล่วงเกินเสี่ยวปิงเข้าพอดี

ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทุกคนที่จ้องมองลั่วเสี่ยวปิงดูมีความผิดเล็กน้อย

ไม่เพียงแต่ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ แต่จ้าวซื่อเองก็ได้สติกลับมาเช่นกัน ราวกับถูกทำให้ตื่น จ้าวซื่อมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างโกรธเคือง “เจ้าทำร้ายข้าหรือ?”

“ป้าจ้าวมีหลักฐานหรือไม่?” บนใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิงไม่มีแววตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เพียงมองจ้าวซื่อเรียบๆ

“ข้า...” จ้าวซื่อพึมพำ นางจะเอาหลักฐานที่ไหนมา?

จ้าวซื่อมองไปที่ฟ่านลี่ฮัวเพื่อขอความช่วยเหลือโดยไม่รู้ตัว

ฟานลี่ฮัวบ่นในใจ แต่ในเวลานี้นางก็ได้พบกับดวงตาที่เย็นชาของลั่วเสี่ยวปิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง