เผชิญหน้ากับสายตานั่นของลั่วต้าฟู่ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้หวาดกลัวสักนิด เพียงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
ประกอบกับแผลเป็นที่บิดเบี้ยวนั่นบนใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิง รอยยิ้มนั้นทำให้คนหวาดกลัวเล็กน้อย
ลั่วต้าฟู่มองดูลั่วเสี่ยวปิงที่เป็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงเล็กน้อย รู้สึกเพียงลั่วเสี่ยวปิงที่อยู่เบื้องหน้านี้ดูไม่เหมือนเดิม
เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงกลับเคลื่อนสายตาออกไป มองไปทางคนด้านหลังของลั่วต้าฟู่ ขมวดคิ้วอย่างฉับพลัน
ตัดเด็กๆเหล่านั้นของตระกูลลั่วและน้องสาวของนางราวถึงคนที่มีความสามารถเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลลั่วที่ร่ำเรียนอยู่ในเมืองออก--คนที่มีความสามารถเป็นที่สองของหมู่บ้านลั่วเหอซิ่ง เดิมทั้งหมดควรจะอยู่ในกลุ่มคน แต่กลับไม่เห็นป้าสะใภ้ใหญ่และพี่ชายใหญ่ลั่วเจียซิ่ง
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ป้าสะใภ้ใหญ่จากไป แล้วนึกได้ว่าในห้องของป้าสะใภ้ใหญ่มีประตูหลัง ในตาของลั่วเสี่ยวปิงก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลขึ้นเล็กน้อย
ไฟไหม้นี้ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่ป้าสะใภ้ใหญ่และพี่ชายใหญ่อีกทั้งลั่วเสี่ยวเหมยจะซ่อนอยู่ในบ้านได้
คิดความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง ในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ่งเป็นกังวลเพิ่มขึ้น
“เสี่ยวปิง อย่างน้อยเจ้าก็เป็นลูกผู้หญิงของตระกูลลั่ว ก็คือลูกผู้หญิงที่แต่งงานออกไปก็ต้องส่งของกลับมาที่บ้านตัวเองสักหน่อย หลายปีมานี้เจ้าไม่ได้ทำอะไรเพื่อตระกูลลั่ว พวกเรากินของเจ้าเล็กน้อย ก็ไม่เกินไปใช่ไหมล่ะ?”
ลั่วต้าฟู่เปิดปาก วางมาดของผู้อาวุโส พูดอย่างมีน้ำหนักลึกซึ้ง
คำพูดนี้ของลั่วต้าฟู่พูดอย่าง่ายดายเป็นอย่างมาก เหมือนว่าของของลั่วเสี่ยวปิงก็ควรให้คนในตระกูลลั่วกิน ลั่วเสี่ยวปิงต้องทำคุณงามความดีให้กับตระกูลลั่วเช่นนั้น จ้าวซื่อขโมยสิ่งของเรื่องนี้กลับเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว
แต่ลั่วต้าฟู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า เวลาที่ลั่วเสี่ยวปิงสามแม่ลูกจะอดตาย อีกทั้งมีเวลาที่ถูกรังแก ตระกูลลั่วกลับไม่เคยมีสักคนที่ยืนขึ้นมาช่วยเหลือนาง
ถึงกระทั่ง ตอนที่เจ้าของร่างเดิมให้กำเนิดลูกได้ไม่นาน ไม่มีอาหารจะกินอยู่พักหนึ่ง เคยมาขออาหารถึงบ้านของตระกูลลั่วฤดูหนาวที่เหน็บหนาวในเดือนสิบสอง นางไม่เพียงขออาหารไม่ได้ กลับยังถูกสาดด้วยน้ำเย็นถังหนึ่ง
หลังจากที่เจ้าของร่างเดิมกลับไปไม่สบายครั้งใหญ่ แทบจะยืนหยัดต่อไปไม่ได้
คนแบบตระกูลลั่วเช่นนี้ ก็คู่ควรให้ลั่วเสี่ยวปิงทำความดีด้วย? และคู่ควรจะเป็นผู้อาวุโส? สีหน้าลั่วเสี่ยวปิงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
และเวลานี้ ประตูของตระกูลลั่วก็ถูกเคาะดัง
เพราะขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงพวกเขาเข้ามาไม่ได้ปิดประตู ดังนั้นเมื่อทุกคนหันกลับไปก็เห็นจางเฉินซื่อพาผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวั่งเดินเข้ามา
ผู้ใหญ่บ้านจางเต๋อหวั่งสวมชุดคลุมด้านนอกเป็นผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดสีเขียวเทา แม้ผมจะขาวโพลน แต่กลับกระปรี้กระเปร่าแข็งแรง เขาในวันปกติที่ค่อนข้างเป็นกันเอง เวลานี้ทั้งกลับหน้าบึ้ง ทั้งคนดูแล้วจริงจังเป็นที่สุด
ทันทีที่เขาเข้ามา จางเต๋อหวั่งก็มองดูลั่วเสี่ยวปิง จากนั้นก็กวาดมองทุกคนในเหตุการณ์รอบหนึ่ง กล่าวตำหนิ:
“ฟ้ามืดไม่มีแสงไฟ แต่ละคนไม่กลับบ้านไปนอน วิ่งมาดูความสนุกอะไรที่นี่กันหมด?”
คนกลุ่มหนึ่งถูกจางเต๋อหวั่งว่ากล่าวอย่างขุ่นเคือง แต่ก็ไม่มีสักคนที่มีความตั้งใจที่จะจากไป
ในเมื่อพวกนางมาดูละครแล้ว โดยธรรมชาติก็ต้องการดูว่าสุดท้ายแล้วละครเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
อย่างไรเสีย กล้าที่จุดไฟเผาห้องครัวของบ้านตัวเอง ก็คือลั่วเสี่ยวปิงผู้นี้ นี่ไม่ดูก็ไม่ดูโดยเปล่าประโยชน์
จางเต๋อหวั่งมาที่นี่ก็ไม่ได้มาเพื่อตำหนิคนเหล่านี้ หลังจากพูดคำหนึ่งนี้ ก็มองไปทางลั่วเสี่ยวปิง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ลั่วเสี่ยวปิงมองไปทางจางเฉินซื่อที่อยู่ด้านหลังของผู้ใหญ่บ้าน ในใจคิดว่าจางเฉินซื่อคงกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบตระกูลลั่วทางนี้ จึงได้ไปพาผู้ใหญ่บ้านมานี่
สำหรับผู้ใหญ่บ้านผู้นี้ ความประทับใจของลั่วเสี่ยวปิงก็ยังดีมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...