“คนที่ไม่สามารถแยกแยะถูกผิดได้คือตัวท่านพี่เองไหม?” ลั่วฝูซิงมองพี่สาวที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้านี้ นัยน์ตามีความสับสนแฉลบผ่าน แต่ทว่ากลับกล่าวด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวขึ้นว่า “หากท่านพี่ส่งข้าร่ำเรียนตำราเพื่อที่จะทำไม่ดีกับพวกอานอาน เช่นนั้นการร่ำเรียนนี้ ข้าไม่เรียนก็ย่อมได้”
ถึงแม้ว่าความจริงแล้วเขาอยากจะศึกษาเล่าเรียนก็ตาม
แต่เขารู้ การร่ำเรียนนี้เพื่อเข้าใจหลักการ ไม่ใช่ไปเปรียบเทียบกับผู้ใด หรือไปทำไม่ดีกับผู้ใด
เขาทำไม่ได้หรอก
และยิ่งเป็นการทำไม่ดีกับพวกอานอานนะเขายิ่งทำไม่ได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มิสู้ไม่ร่ำเรียนตำราไปเลยจะดีกว่า
เมื่อลั่วเสี่ยวจู๋ได้ยินคำนี้ถึงกับหัวเราะด้วยความเดือดดาล
“ดี พวกเจ้าดีเสียจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็เป็นทาส ของลั่วเสี่ยวปิงเถิด หิวโหยจะตายก็อย่าได้มาหาข้า”
พูดจบ ลั่วเสี่ยวจู๋ก็สาวเท้าออกไปด้วยความเดือดดาลโดยที่ไม่ได้สนใจหวางซื่อที่ร้องตะโกนอยู่ด้านหลัง
และเวลานี้ ด้านหน้าเรือนฉี ลั่วต้าฝูกับลั่วต้ากุ้ยทั้งสองพากันมาด้วยความเดือดดาล แต่พอเห็นบานประตูใหญ่ กลับเกิดความรู้สึกลังเลใจขึ้น
ตอนพวกเขาเสียเปรียบให้กับลั่วเสี่ยวปิงนั้นยังตราตรึงอยู่ในใจและจำมันได้อย่างชัดเจน พอมาถึงหน้าประตูเรือนของนางก็เกิดสัญชาตญาณแห่งความหวาดกลัวขึ้นเสียแล้ว
“ท่านพี่ พวกเรากลับกันก่อนดีไหม?” ลั่วต้ากุ้ยกล่าวด้วยนัยน์ตาเลือนราง
ลั่วต้าฝูที่เป็นพี่ชาย แม้ว่าเวลานี้จะรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ เขาทำได้เพียงกล่าวด้วยสีหน้าดุดันขึ้นว่า “กลับหรือ? เหตุใดถึงต้องกลับไปล่ะ? ลั่วเสี่ยวปิงนางทำร้ายครอบครัวของพวกเรายังไม่น่าสมเพชพอหรือ? หากไม่ใช่นาง พวกเราจะได้รับโทษเหล่านี้ได้อย่างไรกัน? หากไม่ใช่เพราะนาง อนาคตวันข้างหน้าเหอซิ่งสอบได้จ้วงหยวน พวกเราทั้งหมดจะได้เป็นสุนัขระกาเยี่ยมวิมานไปด้วย แต่ตอนนี้เหอซิ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราแล้ว เช่นนั้นอนาคตเมื่อมีวันที่ดี ยังจะมีส่วนของเจ้ากับข้าหรือ?”
ลั่วต้าฝูคิดว่าตนเองกล่าวคำพูดนี้ออกมาเยี่ยงคนที่มีความรู้สามารถทางด้านการประพันธ์ลึกซึ้ง แต่ความเป็นจริงแล้วเขากลับไม่รู้ว่ามันแฝงไว้ด้วยความหมายไม่ดี
เมื่อลั่วต้ากุ้ยได้ยิน รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เลยกล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้น ท่านพี่ ท่านไปเคาะประตูไหม?”
เขาไม่อยากเคาะประตู เพราะรู้สึกกลัว
ลั่วต้าฝูได้ยินถึงกับสีหน้าแข็งทื่อถมึงทึง เขาพูดสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่จะให้ลั่วต้ากุ้ยเป็นคนไปเคาะประตูนะ
ลั่วต้ากุ้ยเป็นพี่น้องกันกับลั่วต้าฝูมานานหลายปี ต่อให้โง่เขลาก็รู้ว่าพี่ชายของตนเองเป็นคนอย่างไร เลยกล่าวว่า “ท่านพี่ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเหอซิ่งก็เป็นลูกชายของพี่ ต่อให้ไม่มีเรื่องแยกเรือนตัดขาดความสัมพันธ์กัน อนาคตก็อาจจะไม่ต้องมาเคารพข้าผู้เป็นอาสองผู้นี้หรอก”
ถึงอย่างไร เหตุผลเรื่องปืนยิงนกที่ยื่นหัวออกมานี้ เขายังคงรู้ซึ้งเข้าใจดี
เมื่อลั่วต้าฝูเห็นลั่วต้ากุ้ยใจแข็งไม่ยอมไปเคาะประตู เลยหยุดความคิดกลั้นอารมณ์ไว้
แล้วเขาเดินไปข้างหน้าเอง
ตอนที่ลั่วต้าฝูกำลังจะกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถิด ประตูเรือนฉีก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านในเสียแล้ว
คนที่ออกมาคือพ่อบ้านฮันหลิน
เมื่อฮันหลินเห็นลั่วต้าฝูกับลั่วต้ากุ้ย เลยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกเจ้ามาหาใครหรือ?”
โดยความเป็นจริง พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันเสียงเบา คนด้านในเรือนล้วนได้ยินแล้ว และราวกับว่าเดาได้แล้วว่าบุคคลที่มานั้นเป็นผู้ใด
จากการบอกใบ้ของลั่วเสี่ยวปิง ฮันหลินเลยมาเปิดประตู
ฮันหลินเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางหน้าตาดุดัน ข่มขวัญคนอย่างมาก เลยทำให้ความหยิ่งยโสของลั่วต้าฝูกับลั่วต้ากุ้ยสองพี่น้องนี้ลดลงอยู่บ้าง
“ข้า……ข้ามาหาลั่วเสี่ยวปิง……”
ลั่วต้าฝูกล่าวออกมาด้วยความไม่ค่อยมั่นใจ เพราะว่าเขาไม่รู้เลยว่าฮันหลิน บุคคลที่มองดูแล้วน่าขยาดกลัวผู้นี้เป็นใครกัน
ฮันหลินกล่าวขึ้นว่า “มาหานายหญิงของพวกเรา มีเรื่องอันใดหรือขอรับ?”
พอได้ยินวาจาที่ฮันหลินกล่าวออกมาเช่นนี้ ลั่วต้าฝูเลยรู้ทันทีว่าฮันหลินเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้เท่านั้น ความมั่นใจเลยกลับมาบ้าง “ เรียกนายหญิงของพวกเจ้าออกมาหน่อย บอกนางว่าลุงใหญ่และลุงรองมาหานาง”
ฮันหลิน กล่าวว่า“ต้องขออภัยด้วย นายหญิงของพวกเราไม่มีลุงใหญ่และลุงรองขอรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...