แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 434

ซุนมู่หยางส่ายหน้า"ไม่เป็นไร แค่ว่าเรื่องในนี้จัดการเสร็จแล้ว"

ลั่วเสี่ยวปิงโล่งใจลง จากนั้นก็รู้สึกน่าขำ

เรื่องในช่วงนี้ทำให้การแสดงออกของตัวเองเป็นเหมือนกระต่ายตื่นตูม อยู่ๆก็รู้สึกว่าเกิดเหตุขึ้นหรือเปล่า

แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบซูนมู่หยางว่าจะกลับด้วยกันหรือเปล่า ฉีเทียนเห้าก็ขึ้นไปกอดลั่วเสี่ยวปิงเข้าอ้อมอก"ถ้าจะกลับเจ้าก็กลับเอง ข้าส่งนางกลับไปได้"

ตอนมาไม่มีวิธีอื่น ตอนกลับเป็นไปได้อย่างไรที่จะให้ลั่วเสี่ยวปิงกลับกับผู้ชายคนอื่นอีกล่ะ นี่ก็ราวกับว่าเอาเนื้อให้หมาป่าดูแล อันตรายมากๆ

ซุนมู่หยางเห็นกาาเตือนในสายตาของฉีเทียนเห้า ก็ไม่ได้บังคับ ทำความเคารพต่อสองคน"ไว้เจอกันใหม่ขอรับ"

พูดเสร็จ ก็หันตัวไป

ตอนที่หันตัวไป ความรู้สึกที่เศร้าโศกถูกเขาซ่อนอยู่นั้นก็เผยออกมา

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปทางฉีเทียนเห้า รู้สึกน่าขำ"เจ้าไม่ยุ่งหรือ?"

แต่ฉีเทียนเห้ากลับปรากฏสีหน้าที่มีเหตุมีผล"ตลกแล้ว จีซิงยี่ก็หายดีแล้ว เขายังคิดจะนอนอยู่บนเตียงให้ข้าทำงานแทนเขาหรือ?"

ไม่มีเรื่องดีๆแบบนี้หรอก

กว่าเสี่ยวปิงจะมา เขาก็ต้องเสียสละเวลาอยู่กับเสี่ยวปิงสิ

ดังนั้น ฉีเทียนเห้าเพิ่งจากไป ก็มีทหารในค่ายทหารเชิญจีซิงยี่กลับไปจัดการเรื่อง

ในฐานะที่เป็นแม่ทัพหลัก กลับไปจัดการก็เป็นเรื่องปกติ จีซิงยี่เลยไม่ได้คิดมาก

แต่พอกลับไปถึงค่ายทหารพบว่าค่ายทหารถูกแบ่งเป็นสองส่วน จีซิงยี่เลยถามสถานการณ์ หลังจากรู้ความจริงแล้ว จีซิงยี่ก็ให้คงสภาพเดิม

ไม่มีการประลองยุทธก็ไม่มีความก้าวหน้า มีแต่ประลองยุทธถึงรู้จุดอ่อนของตัวเอง

แต่หลังจากรู้ว่าในค่ายทหารมีจวิ้นจู่คยหนึ่งแล้ว จีซิงยี่กลับขมวดคิ้ว ในที่สุดก็โบกมือ ไม่ได้คิดจะยุ่ง

และอีกฝั่งนี้ ฉีเทียนเห้าที่ไม่มีเรื่องต้องยุ่งนั้น ก็พาลั่วเสี่ยวปิงไปเที่ยวจริงๆ

วันนี้ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นบ้าน พรุ่งนี้ไปรวบรวมสมุนไพรและพืชเฉพาะชายแดน มะรืนนี้ไปค้นหาโอกาสทางธุรกิจ

โดยรวมแล้วก็คือไม่ได้พักสักครู่หนึ่งเลย มีความสุขมาก

"จวิ้นจู่ คนนั้นเป็นอ๋องเซ่อเจิ้งหรือเปล่า?"ชุ่ยอวี้ชี้สองคนที่เดินเที่ยวอยู่ในที่ไม่ไกล

สาเหตุที่ชุ่ยอวี้ไม่แน่ใจ ก็เป็นเพราะว่าฉีเทียนเห้าในตอนนี้ติดรอยแผลชิ้นนั้นขึ้นไปอีก

ก่อนหน้านี้ชุ่ยอวี้ไม่ได้ตามซ่งหลิงหลางไปที่ค่ายทหาร แต่ก็รู้ว่าผู้ชายในตอนนั้นก็คืออ๋องเซ่อเจิ้ง เพราะหลังจากเมื่อวานที่จวิ้นจู่กลับไปที่เมืองเยว่แล้ว ก็ลงโทษนาง ว่านางมีตาหาแววไม่ แม้กระทั่งอ๋องเซ่อเจิ้งยังจำไม่ได้

ชุ่ยอวี้รู้ว่าจวิ้นจู่จะระบายความโกรธ ดังนั้นถึงแม้ไม่สบายใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร มีแต่ต้องปล่อยให้จวิ้นจู่ตบตีจนหายโกรธ

ซ่งหลิงหลางได้ยินเช่นนี้ ก็มองไปทางที่ชุ่ยอวี้ชี้ เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงกับฉีเทียนเห้าอยู่ฝั่งนู้นกันจริงๆ สองคนได้กินซุบเนื้อแกะในชามเดียวกัน ลักษณะใกล้ชิดสนิทสนมมาก ดูก็รู้ว่าสองคนนี้เป็นสามีภรรยากัน

เมื่อเห็นรอยแผลบนใบหน้าของฉีเทียนเห้า ซ่งหลิงหลางก็ตะลึง หากไม่ใช่เป็นเพราะรอยแผลนั้น นางจะจำพี่เทียนเห้าไม่ออกได้อย่างไรล่ะ?

เมื่อนึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของฉีเทียนเห้า เมื่อเทียบกับชายขี้เหร่ที่อยู่ตรงข้ามแล้ว ซ่งหลิงหลางก็รู้สึกโกรธ

สายตามองไปที่ใบหน้าของลั่วเสี่ยวปิง ในสายตาของซ่งหลิงหลางนอกจากความอิจฉากับไม่ยอมแล้ว ยังมีความพิฆาตพาดผ่าน

ลั่วเสี่ยวปิง!

ซ่งหลิงหลางคดเคี้ยวฟัน

ถึงแม้นางซ่งหลิงหลางแต่งงานกับอ๋องเซ่อเจิ้งไม่ได้ แต่คนที่แต่งงานกับอ๋องเซ่อเจิ้ง ก็ห้ามเป็นลั่วเสี่ยวปิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง