ในเวลานั้น ก็ไม่มีคนตอบคำพูดของซ่งฉงปิง
ซ่งฉงปิงก็ไม่รีบ รออยู่อย่างเงียบๆ
ชาวนาที่อยู่แถบเมืองหลวง โดยเฉพาะชาวนาเหล่านี้ที่ขายตัวแล้ว ก็จะเกิดความกลัวต่อบุคคลที่มีอำนาจจากใจ และความกลัวแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าหายไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
เห็นว่าซ่งฉงปิงไม่ได้โกรธเพราะความเงียบขรึมของพวกเขา มีคนก็กล้าหาญขึ้นมา มองไปทางซ่งฉงปิง"เจียเล่อจวิ้นจู่ เจ้ามีคำถามอะไรถามพวกบ่าวได้เลยขอรับ"
เนื่องจากได้เซ็นสัญญาขายตัวแล้ว ดังนั้นการเรียกแทนตัวเองว่าบ่าวก็เป็นเรื่องที่สมควร
คนที่พูดเป็นชาวบ้านที่อายุสี่สิบกว่า ร่างกายดูผอมเพรียว แต่สายตาดูฉลาดกว่าชาวบ้านคนอื่นๆ
ซ่งฉงปิงยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้า"เจ้าชื่ออะไร?"
นี่เป็นคำถามแรกของนาง
ได้ยินเช่นนี้ชาวบ้านคนนั้นก็อึ้งไปเลย จากนั้นก็คิดจะคุกเข่าตอบ แต่กลับถูกซ่งฉงปิงห้ามเอาไว้
"ต่อหน้าข้าไม่ต้องถือเคร่ง ยืนตอบก็พอ"
ได้ยินเช่นนี้ ถึงแม้ชาวบ้านคนนั้นระมัดระวังมากเกินสมควร แต่ก็ไม่ได้ยืนกรานที่จะคุกเข่า ตอบกลับว่า"บ่าวชื่อจางกุ้ยขอรับ"
จางกุ้ยไม่ได้พูดมาก ซ่งฉงปิงถามอะไรก็ตอบอะไร
ซ่งฉงปิงพยักหน้า ถามต่อ"ได้ข่าวว่าหมู่บ้านชิงเหอยังมีประวัติบางอย่างด้วย ไม่ทราบว่าเจ้ารู้ลึกเท่าไหร่?"
เรื่องของหมู่บ้านชิงเหอนางรู้อยู่แล้ว ก่อนที่เสด็จพ่อรู้ว่าตัวเองจะมาก็เอาเอกสารของหมู่บ้านชิงเหอให้นางทั้งหมด
แต่นางอยากจะตีสนิทกับชาวบ้านในหมู่บ้านชิงเหอ ก็ต้องพูดคุยเล่นๆกับพวกเขาก่อน
ก็ไม่ใช่ว่าจะตีสนิทเหมือนกับชาวบ้านในหมู่บ้านจ้าซิง เพราะที่นี่อยู่ใกล้เมืองหลวง การแบ่งชนชั้นเห็นได้อย่างชัดเจน
และชาวบ้านที่นี่ก็ต่างจากชาวบ้านของหมู่บ้านต้าซิง บางทีสนิทเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี
แต่ถ้าไกลไปทำอะไรก็จะยุ่งยาก
ดังนั้นเป้าหมายของนางคือ รักษาระหว่างห่างที่ค่อนข้างกลมกลืนกับชาวบ้านที่นี่ ไม่เกินขอบเขตจนเกินไป และก็สามารถได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ก็ดีเลย
จางกุ้ยคิดไม่ถึงว่าซ่งฉงปิงจะถามสิ่งนี้ นิ่งอึ้งเล็กน้อย แต่ก็มีความลังเล"สิ่งนี้ บ่าวไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดจากไหนดี"
ซ่งฉงปิง"งั้นก็เริ่มพูดตั้งแต่แรกเลย"
จากนั้นจางกุ้ยก็เล่าประวัติของหมู่บ้านชิงเหอทุกอย่าง
ที่แท้แล้ว เดิมทีหมู่บ้านชิงเหอเป็นแค่หมู่บ้านที่ธรรมดามากในแถบเมืองหลวง
แต่ว่าหมู่บ้านที่ธรรมดามากขนาดไหน พออยู่ในแถบเมืองหลวงแล้วก็ไม่ได้ธรรมดาแล้ว
ในสิบกว่าปีที่แล้วที่ดินผืนนี้ ก็ถูกมู่กุ้ยผิง ก็คือน้องสาวของฮองเฮาปัจจุบันแย่งไป จนทำให้เหล่าชาวบ้านที่นี่หากินกันไม่ได้ เลยต้องไปทำงานที่หมู่บ้านอื่น เพื่อเลี้ยงชีพ
ต่อจากนั้นเลี้ยงตัวเองไม่ไหวจริงๆ พวกเขาก็มีแต่ต้องกลับหมู่บ้านชิงเหอ ขออยู่ต่อ
ตอนนั้นมู่กุ้ยผิงก็ให้พวกเขาเซ็นสัญญาขายตัว ทำให้พวกเขาไม่เพียงแต่กลายเป็นชาวนา ยังกลายเป็นชาวนาที่ขายตัวไปด้วย
ตอนแรกพวกเขาไม่ยอมขายตัว แต่กระดูกที่ส่งมาให้ มู่กุ้ยผิงจะยอมปล่อยได้อย่างไรล่ะ?
ภายใต้การข่มขู่ ชาวบ้านดั้งเดิมของหมู่บ้านชิงเหอ กลายเป็นทาสระดับต่ำ
ส่วนจางกุ้ย เป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านรุ่นก่อน
แต่หลังจากสูญเสียหมู่บ้านชิงเหอไป ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านชิงเหอก็เศร้าโศกมากจนเสียชีวิต
ต่อมา ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหมู่บ้านชิงเหอไปๆมาๆกลายเป็นทรัพย์สินของจวนอ๋องอี้
หลังจากกลายเป็นคนของจวนอ๋องอี้ ถึงแม้สัญญาขายตัวของพวกเขายังคงเอากลับมาไม่ได้ แต่ผลตอบแทนของพวกเขาเหมือนกับชาวนาธรรมดา แต่อยู่ได้
จางกุ้ยพูดแบบคลุมเครือ น้ำเสียงไม่มีความโกรธแม้แต่นิด ไม่ทราบว่าไม่ได้โกรธ หรือไม่กล้าโกรธกันแน่
แต่ซ่งฉงปิงรู้สึก ขั้นตอนที่แท้จริงนั้น น่าสังเวชกว่าที่จางกุ้ยพูดออกมาอีกเยอะ
ปีนั้นมู่กุ้ยผิงทำความชั่วแบบแรงมาก ไม่ได้ชดเชยให้เหล่าชาวบ้าน ไล่ออกโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...