แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 584

ซ่งฉงปิงไม่ได้กลับจวนอ๋องทันทีแต่ว่าตรงไปยังศาลต้าหลี่ และกลองร้องทุกข์ของศาลต้าหลี่ก็ดังขึ้น

ศาลต้าหลี่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ทันทีที่เสียงกลองดังขึ้นจึงดึงดูดความสนใจของผู้คนให้หยุดมองได้ทันที

เมื่อเห็นว่ามีหญิงสาวหน้าตาสะสวยกลุ่มหนึ่งอยู่ตรงหน้ากลองร้องทุกข์ ผู้คนจำนวนมากจึงหยุดมองอย่างสงสัยใคร่รู้

หลังจากเสียงกลองดังขึ้น ในไม่ช้ามือปราบก็วิ่งออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

บังเอิญว่ามือปราบที่วิ่งออกมาเคยพบซ่งฉงปิงมาก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าคนที่มาตีกลองร้องทุกข์คือซ่งฉงปิง มือปราบผู้นั้นจึงตกใจมาก

จากนั้นเขาจึงยกมือคำนับซ่งฉงปิง “ข้าน้อยคารวะเจียเล่อจวิ้นจู่”

ทุกคนที่พากันมามุงดูนึกประหลาดใจทันทีที่ได้ยินชื่อของเจียเล่อจวิ้นจู่

บางคนไม่เคยได้ยินข่าวลือและพากันสงสัยว่าเพราะเหตุใดเจียเล่อจวิ้นจู่จึงมาตีกลองร้องทุกข์ บางคนที่รู้เรื่องข่าวลือพอจะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ทว่าก็ยังไม่แน่ใจ

กล่าวก็คือทุกคนไม่เคยพบไม่เคยเห็นจวิ้นจู่มาตีกลองร้องทุกข์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นในชั่วครู่เดียวคนจึงมารวมตัวกันมากยิ่งกว่าเดิม

ในไม่ช้าซ่งฉงปิงก็ทำไปตามขั้นตอนและถูกนำตัวเข้าไปในศาลต้าหลี่

ตอนที่ซ่งฉงปิงเข้าไป หลางซิงเหอก็อยู่ที่นั่นด้วย

จ้งฉางกับหลางซิงเหอประหลาดใจมากเมื่อเห็นซ่งฉงปิงเดินเข้ามา

แต่ว่าทั้งสองคนก็ประหลาดใจได้เพียงแค่ครู่หนึ่ง

“ในเมื่อเจียเล่อจวิ้นจู่ลั่นกลองร้องทุกข์ ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดจะร้องทุกข์หรือ” จ้งฉางสอบถามตามขั้นตอนปกติ

“วันนี้ออกมาข้างนอก ทันทีที่เดินไปตามถนนก็ได้ยินข่าวลือหนาหู ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ขอใต้เท้าตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วย...” ซ่งฉงปิงเล่าถึงต้นสายปลายเหตุทั้งหมดอย่างกระชับ

......

ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนที่หน้าอยู่หน้าจวนอ๋องยังไม่รู้ว่าซ่งฉงปิงไปลั่นกลองร้องทุกข์มาแล้ว

ทุกคนต่างรอให้ประตูจวนอ๋องเปิดออก รอให้คนข้างในออกมาพิสูจน์ว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ตามปกติคนธรรมดาไม่มีทางกล้ามารบกวนคนของราชวงศ์

ทว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่มีคนมากมาย แต่ยังมีคนที่เป็นผู้นำโดดเด่นด้วย ดังนั้นคนพวกนี้จึงไม่นึกกลัวเลย

แต่ท้ายที่สุดแล้วมือปราบของศาลต้าหลี่ก็มาถึงก่อนที่จะมีใครเปิดประตูออกมา

“ผู้ใดที่อ้างตัวว่าเป็นคู่หมั้นของเจียเล่อจวิ้นจู่ จงออกมา” มือปราบถามเสียงดังทันทีที่มาถึง

หลังจากสิ้นเสียง สถานที่แห่งนั้นก็เงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง

และคนที่พอจะกล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นคู่หมั้นของซ่งฉงปิงได้ก็คือเหยียนขวน

ดังนั้นสองแม่ลูกที่อยู่หน้าจวนอ๋องอี้วก็คือสองแม่ลูกเหยียนขวนนั่นเอง

สองแม่ลูกหายตัวไปหลายเดือนและไม่รู้เลยว่าเข้ามาที่เมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไร นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าพวกเขารู้ตั้งแต่ตอนไหน ว่าซ่งฉงปิงคือจวิ้นจู่แห่งจวนอ๋องอี้ว

กล่าวก็คือ สองแม่ลูกฉวยโอกาสเข้าหาซ่งฉงปิงโดยใช้โอกาสจากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้

เดิมทีสองแม่ลูกคิดจะฉวยโอกาสตอนที่ผู้คนมาวุ่นวายเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์ แต่ใครจะรู้ว่ามือปราบจะมาถึงที่นี่

สองแม่ลูกเคยเห็นอะไรแบบนี้เสียที่ไหน

มือปราบในเมืองหลวงแห่งนี้ไม่ได้เหมือนกับมือปราบในเมืองเมืองหลินอาน

ดังนั้นเมื่อมือปราบเอ่ยขึ้นมา สองแม่ลูกจึงไม่กล้าขยับเขยื้อน ไหนเลยจะกล้ายอมรับว่าพวกเขาคือคนที่มือปราบตามหา

แต่ถึงเหยียนขวนจะไม่ยอม คนอื่นก็ต้องช่วยชี้ตัวเขาอยู่แล้ว

ในไม่ช้ามือปราบก็เข้ามากักตัวสองแม่ลูกเอาไว้

ในที่สุดสายตาของหัวหน้ามือปราบก็จับจ้องมาที่เหยียนขวน “เจ้าคือชายที่อ้างตัวว่าเป็นคู่หมั้นของเจียเล่อจวิ้นจู่งั้นรึ”

สีหน้าของมือปราบทั้งเคร่งขรึมและจริงจัง ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

เหยียนขวนกลืนน้ำลายเงียบๆ “ปะ... เป็นข้าน้อยเอง ที่ข้าน้อยพูดไปเป็นเรื่องจริงทั้งหมด...”

“ที่เจ้าพูดมาจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น เราค่อยไปพูดกันเมื่อไปถึงหยาเหมิน” มือปราบขัดขึ้นอย่างเย็นชา

เขามีหน้าที่ตามหาคน ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินคดี

การตัดสินคดีเป็นกิจธุระของใต้เท้า

ว่าแล้วมือปราบจึงเตรียมจะจับกุมตัว

เมื่อเห็นดังนั้น หลี่ชนเหมยจึงเอะอะโวยวายทันทีว่า “ ท่านจับบุตรชายข้าทำไม บุตรชายของข้าเป็นถึงท่านซิ่วฉาย ทุกสิ่งที่เราพูดล้วนเป็นความจริง พวกท่านจะจับกุมเขาเพียงเพราะอีกฝ่ายเป็นจวิ้นจู่ไม่ได้ ช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก!”

เสียงที่แหลมแสบแก้วหูของหลี่ชนเหมยดังผ่านฝูงชนออกมา

มือปราบปวดหัวเพราะเสียงตะโกนของหลี่ชนเหมยและตวาดออกไปอย่างอดไม่ได้ว่า “พอได้แล้ว จะตะโกนหาอะไร? ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นซิ่วฉายหรือขุนนาง หากมีคนมาลั่นกลองร้องทุกข์ที่ศาลต้าหลี่ของพวกข้า พวกข้าก็ต้องมาพาตัวคู่กรณีไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง