ในเวลานี้ ประตูของห้องหนังสือได้เปิดออก มีคนคนหนึ่งเดินออกมา
คนคนนี้ หากไม่ใช่ซุนมู่หยางแล้วจะเป็นใครไปได้
เห็นหน้าประตูเรือน ซุนมู่หยางจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย "ไปแล้วหรือ?"
"อืม!" น้ำเสียงชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเวลานี้ฉีเทียนเห้ายังคงใจลอย
ตอนนี้เขากำลังคิดว่าการแสดงออกนั้นแววตานั้นของซ่งฉงปิงในที่สุดแล้วหมายความว่าอะไร เพราะเหตุใดการแสดงออกนั้นถึงทำให้เขารู้สึกสับสนอย่างยิ่ง
พอซุนมู่หยางได้ฟัง เดิมทีที่ขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ขมวดแน่นขึ้นไปอีก
บทสนทนาของฉีเทียนเห้าและซ่งฉงปิงไม่มากนัก ซุนมู่หยางที่อยู่ด้านในก็ฟังแล้วไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เมื่อดูจากผู้ที่อยู่ข้างๆ แล้ว เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
ครั้นแล้วก็มองไปยังฉีเทียนเห้า "เจ้าไม่คิดที่จะบอกนางจริงๆ หรือ?"
เวลานี้ หน้าอกของฉีเทียนเห้า ก็มีเลือดไหลซึมออกมา เมื่อเห็นเลือดนั้น ซุนมู่หยางจึงกล่าวว่า "หากเจ้าบอกนาง นางก็ยังสามารถทำให้เจ้าหายได้เร็วขึ้น"
สรุปได้ว่า ซุนมู่หยางรู้สึกว่าการที่ฉีเทียนเห้าได้รับบาดเจ็บแล้วไม่ยอมบอกซ่งฉงปิงมันไม่ใช่ความคิดที่ดีอะไร
ฉีเทียนเห้าได้สติกลับมา มองไปที่บาดแผลฉีกขาดที่หน้าอกของตัวเองอีกครั้ง แสดงสีหน้าเคร่งขรึม "ไม่อยากให้นางต้องเป็นห่วง"
ที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้เป่ยอันได้ขโมยแผนที่จัดวางกองกำลังของต้าชิ่งไป ถ้าหากไม่ไปไล่ตามเอากลับมา ประชาชนของต้าชิ่งก็จะต้องเป็นทุกข์อย่างแน่นอน
ถ้าหากเป่ยอันและแคว้นซีหรงบุกเข้าโจมตีทั้งสองด้าน ต้าชิ่งจะต้องรับไม่ไหวแน่ๆ
ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายมีแหฟ้าตาข่ายดิน เขาก็จะไปแย่งชิงแผนที่มาด้วยตัวเอง
แต่ไม่คาดคิดว่าในขณะซุ่มรอโจมตี
หากเป็นบาดแผลเล็กน้อยทั่วไปก็ช่างเถิด แต่บาดแผลนี้ของเขาน่ากลัวเกินไป เขากลัวว่าปิงเอ๋อร์จะร้องไห้
ฉะนั้น ตลอดทางที่กลับมา คำสั่งแรกที่เขาออกไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาก็คือห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกปิงเอ๋อร์ และให้คนไปตามซุนมู่หยางมา
เมื่อซุนมู่หยางเห็นฉีเทียนเห้าก็ตกตะลึงเล็กน้อย ถึงอย่างไรเวลานี้ฉีเทียนเห้าก็ควรจะอยู่ในสนามรบของแคว้นซีหรง
เพียงแต่ซุนมู่หยางก็ยังไม่พูดไม่ถามอะไรทั้งสิ้น และจัดการบาดแผลให้ฉีเทียนเห้าทันที
เพียงแต่ ท้ายที่สุดแล้วอาการบาดเจ็บก็หนักเกินไป ด้วยเหตุนี้ฉีเทียนเห้าจึงหมดสติไปสองวัน ขณะนี้ถึงแม้จะไม่มีอะไรร้ายแรงมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วซุนมู่หยางก็ไม่มียามหัศจรรย์ซ่งฉงปิง บาดแผลจึงไม่หายภายในชั่วครู่ชั่วยาม
หลังจากได้รู้ใจปิงเอ๋อร์แล้ว ถ้าหากมีอะไรที่เขาหวาดกลัว นั่นก็จะต้องเป็นน้ำตาของปิงเอ๋อร์
แล้วก็เป็นเช่นนี้ สองสามวันมานี้เขาจึงอดทนต่อความคิดถึง ไม่ไปหานาง
บัดนี้นางมาหา แต่ท่าทีของนางที่จากไปกลับทำให้เขาไม่สบายใจเลย
ในเวลานี้ เมื่อครู่หลังจากฉีเทียนเห้าออกมาหนานซิงที่เลือกหลบเลี่ยงก็ได้เดินเข้ามา มองนายท่านของตัวเอง บนใบหน้ามีความลังเลใจเล็กน้อย สีหน้ายุ่งเหยิง
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้แล้ว หนานซิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากว่า
"นายท่าน พระชายานาง........"
หนานซิงเพิ่งจะเอ่ยปาก ก็เห็นนายท่านของตัวเองมองเข้ามา เขาตกใจจนหุบปากด้วยจิตสำนึก
ฉีเทียนเห้าเห็นเช่นนี้ จึงขมวดคิ้ว "นางเป็นอะไร? พูด!"
หนานซิงลังเลใจเล็กน้อย เดิมทีเขาที่ตื่นเต้นอยู่แล้วก็ยิ่งตื่นตระหนกไปกันใหญ่
หนานซิงไม่ลังเลใจอีก "ข้าน้อยรู้สึกว่า พระชายาอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป"
นี่เรียกได้ว่าคนเล่นงง คนดูหูตาสว่าง
หนานซิงรู้สึกว่า ถ้าหากตนเองไม่นำความรู้สึกของตนเองพูดออกมา ถ้าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างท่านอ๋องและพระชายา สุดท้ายคนที่ซวยก็ยังเป็นพวกเขาเหล่านี้ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
ฉีเทียนเห้าฟังแล้วไม่เข้าใจ "เข้าใจผิดอะไร?"
หนานซิงกลืนน้ำลายเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวว่า "ก็คือ......เมื่อครู่นี้คัง......ตอนที่คุณหนูหลิวออกมาจากห้องหนังสือของท่านอ๋อง การแสดงออกของพระชายาค่อนข้างเปลี่ยนไปเล็กน้อย เกรงว่าจะเข้าใจผิดท่านกับคุณหนูหลิว"
หลิวจิ้งเซียน?
นางไม่ใช่.......
แต่ทว่า ในสมองของฉีเทียนเห้านึกถึงคำพูดที่ปิงเอ๋อร์เคยพูดว่า ถ้าหากว่าตนเองกับผู้หญิงคนอื่น เช่นนั้นนางก็.......
จากนั้น ใจของฉีเทียนเห้าก็เคร่งเครียด ทันใดก็เข้าใจว่าการแสดงออกแปลกๆ ของซ่งฉงปิงนั้นคืออะไร
"นายท่าน——"
หนานซิงเห็นนายท่านของตัวเองที่หายวับไปจากสายตาของตนเอง จึงอดไม่ได้ที่จะกระโดดอย่างเร่งรีบ
อาการบาดเจ็บของนานท่านยังไม่หายดีนะ จะใช้วิชาตัวเบาได้อย่างไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...