แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 71

คนสองคนที่อยู่ด้านนอกมองใบหน้าของฉีเทียนเห้าที่ถูกพันด้วยผ้าอย่างตกตะลึง

“นายท่าน หน้าของท่าน…”

หนึ่งในนั้นกำลังจะถาม แต่ถูกสายตาเตือนของฉีเทียนเห้าห้ามไว้ จากนั้นฉีเทียนเห้าก็ยกมือขึ้นและชี้ไปไม่ไกล ทั้งสองคนก็เข้าใจทันที

ดังนั้นทั้งสามคนจึงออกจากกระท่อม ไปอย่างเงียบๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเสียงจากไปของฉีเทียนเห้าจะเงียบมาก แต่ลั่วเสี่ยวปิง ก็ยังตื่นขึ้นมาราวกับรับรู้ได้

เมื่อเห็นว่าผ้านวมบนเตียงว่างเปล่า ลั่วเสี่ยวปิงก็เหม่อไปพักหนึ่ง

ฉีเทียนเห้าจากไปแล้วหรือ?

แต่ในอีกความคิดหนึ่ง พิษในร่างกายของฉีเทียนเห้าก็หายไปเกือบหมดแล้วจากไปก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว เขาจะอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจนแบบนี้ไปทำไมกัน?

เพียแต่ว่า เมื่อคิดว่าฉีเทียนเห้ารับปากว่าจะเป็นอาจารย์คนแรกของอานอานแล้ว นี่พึ่งจะเริ่มได้ไม่เท่าไหร่กลับจากไปโดยไม่ร่ำลา ในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แต่ว่าส่วนไม่พอใจก็ส่วนไม่พอใจ ลั่วเสี่ยวปิงเองก็เหนื่อยหลังจากทำงานมาทั้งวัน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งนางก็ผล็อยหลับไป

ในเวลานั้นเอง ฉีเทียนเห้าก็ได้นำผู้คนไปที่ตีนเขา

“ข้าน้อยคารวะนายท่าน” คนทั้งสองคุกเข่าลงตรงหน้าของฉีเทียนเห้า “ข้าน้อยมาช้า ขอนายท่านโปรดลงโทษ”

ฉีเทียนเห้าไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา

เจ้าสองคนนี้มาช้าจริงๆ หากเขาไม่ได้พบกับลั่วเสี่ยวปิงสตรีนางนั้น เกรงว่าเขาคงจะตายไปนานแล้ว

แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่ตนเองประสบพบเจอมา ฉีเทียนเห้าก็ไม่ได้พูดอะไร

เพราะเขาก็ไม่สามารถตำหนิผู้อื่นสำหรับสิ่งที่ตัวเองคาดไม่ถึงได้

เพียงแต่ว่า ลูกน้องสองคนนี้ใช้เวลาค้นหานานขนาดนี้ ความสามารถของพวกเขาต้องปรับปรุงจริงๆ

หนานซิงและหนานเฉินถูกสายตาของนายตัวเองจ้องมองจนขนหัวลุกไปหมด ร่างกายก็เย็นเยียบ

เมื่อพวกเขากำลังคิดว่าจะได้รับโทษอย่างรุนแรงจากนายท่าน จู่ๆฉีเทียนเห้าก็พูดขึ้นมา “ในช่วงที่ข้าหายตัวไป เมืองหลวงมีความเคลื่อนไหวหรือไม่?”

เมื่อได้ยินการไต่ถามของนายท่าน หนานซิงที่พูดเก่งกว่าก็รายงาน “หลังจากนายท่านหายตัวไป ฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้ท่านทูตส่งหนังสือประนีประนอมไปยังแคว้นซีหรง”

ฉีเทียนเห้าไม่มีท่าทีแปลกใจ ราวกับว่าเรื่องนี้เขาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว “เขายอมทำข้อตกลงอะไร”

“นี่…”หนานซิงลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของฉีเทียนเห้า เขาก็รีบพูดทันที “ฮ่องเต้ทรงรับปากว่าจะส่งองค์หญิงหกไปเกี่ยวดอง”

“โง่เง่า!” ฉีเทียนเห้ายิ้มเย็น

หนานซิงและหนานเฉินหดหัว ไม่กล้าออกความเห็น

ถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็เป็นถึงฮ่องเต้ นายท่านของพวกเขาจะด่าว่าพวกเขาอย่างไรก้ได้ แต่พวกเขาเป็นลูกน้องไม่อาจทำเช่นนั้น

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หนานซิงก็ลืมตาขึ้นแอบมองท่าทีของนายท่าน เมื่อเห็นว่านายท่านไม่มีท่าทีอะไร ก็ถามขึ้นมาอย่างเกรงๆว่า “นายท่าน พวกข้าน้อยต้องขัดขวางเรื่องนี้หรือไม่ ถึงอย่างไรองค์หญิงหก…”

“ขัดขวาง?” ฉีเทียนเห้ามองไปยังหนานซิงด้วยสายตาเย็นเฉียบ “ทำไมต้องขัดขวาง?”

หนานซิง“……”

ทำไม?ก็ไม่ใช่เพราะองค์หญิงหกเป็นคอยเป็นแมลงเกาะติดท่านหรือ?

แต่ว่าประโยคนี้หนานซิงไม่กล้าพูด ได้แต่เงียบไว้

หนานเฉินเหลือบมองหนานซิง แล้วถามว่า “อาการบาดเจ็บของนายท่านก็ไม่ร้ายแรงแล้ว หรือว่านายท่านอยากกลับเมืองหลวงก่อนไหม?”

ฉีเทียนเห้าหันหลังให้กับทั้งสองคน สายตาเหลือบมองไปยังกระท่อมที่อยู่ไม่ไกลนัก แล้วพูดเบาๆว่า “ตอนนี้ยังไม่กลับ”

อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว จะกลับไปทำไมกัน?

เมื่อหนานเฉินและหนานซิงได้ยินดังนั้น ดวงตาของพวกเขาก็ฉายแววประหลาดใจ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่กล้าถามมาก จึงพูดแค่ว่า “เช่นนั้นข้าน้อยจัดการบ้านให้นายท่านสักหลังดีหรือไม่”

“ไม่ต้อง!” ฉีเทียนเห้าปฏิเสธทันที

หนานเฉิน“……”

หนานซิง “เช่นนั้นนายท่านนอนที่ไหน…หรือว่านายท่านจะยอมลำบากอยู่ในกระท่อมนั้นหรือ?”

หนานซิงทำหน้าไม่อยากเชื่อ กระท่อมโกโรโกโสแบบนั้น ฤดูหนาวลมรั่ว ฤดูใบไม้ผลิฝนก็รั่ว แถมฤดูร้อนก็ไม่กั้นความร้อน แม้แต่ขอทานยังรังเกียจ นายท่านอยากนอนที่นั่นเพียงนั้นเชียว?

อีกทั้ง ยังนอนห้องเดียวกับหญิงขี้เหร่และเด็กอีกสองคนด้วย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง