แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 825

การเปลี่ยนถ่ายเลือด จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

แต่ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ยังตัดสินชี้ขาดไม่ได้

หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น ซ่งฉงปิงก็ใช้ยาขี้ผึ้งทาบาดแผลของเยหลินเอาไว้

เดิมทีเป็นบาดแผลขนาดเล็ก หลังจากทายาขี้ผึ้งแล้ว จะฟื้นฟูเร็วยิ่งขึ้น

หลังจากนั้น ซางฉงปิงก็ได้ป้อนน้ำแร่วิญญาณให้แก่เยหลิน ทำให้เยหลินฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น

ฉะนั้น เมื่อรอเยโม่กลับมา เยหลินก็เริ่มลุกขึ้นยืนและขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้แล้ว บนใบหน้าไม่มีอาการอ่อนแรงแม้แต่น้อย ทำให้คนมองไม่ออกเลยว่าเมื่อกี้นี้เขาเพิ่งผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายเลือดมา

เยโม่มองเยหลิน ด้วยใบหน้าเป็นห่วงเป็นใย : "เจ้าดีขึ้นแล้วเหรอ?"

แววตาของเยหลินมองเยโม่ด้วยความซับซ้อน และส่ายหัวทันที

เยโม่กำลังรู้สึกหดหู่ ก็ได้ยินเยหลินกล่าวว่า "ไม่รู้"

เยโม่ : "......" อะไรที่เรียกว่าไม่รู้?

ในชั่วพริบตานั้น เยโม่นึกไม่ออกเลยจริงๆ

แต่ว่าไม่นาน เยโม่ก็ตอบสนองกลับมา

ใช่สิ เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ จะรู้ได้อย่างไรว่าดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น?

"มิเช่นนั้น เจ้าออกไปดูที่หนานเจียงสักหน่อยไหม?" หากออกไปที่หนานเจียงแล้วรู้สึกสบายดี ก็แสดงว่าดีขึ้นแล้วกระมัง?

อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดที่ไม่เข้าท่าของเยโม่ออกมา ก็ได้รับการมองค้อนจากทุกคน

"ดีไม่ดี ถูกชกสักทีก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?" ฉีเทียนเห้ากล่าวอย่างเย็นชา "ข้าทำแทนได้นะ ว่าอย่างไรล่ะ?"

เยโม่ : "......"

เยหลิน : "......"

ท้ายที่สุดแล้ว ยังต้องเลือกการชกต่อยเพื่อเป็นการพิสูจน์

แน่นอนว่า ไม่ฉีเทียนเห้าเป็นคนชก แต่เป็นเยโม่ที่ลงมือด้วยตนเอง

อย่างไรเสีย หมัดของฉีเทียนเห้าไม่เบาเลย ใครจะเชื่อว่าเขาจะไม่แก้แค้นเป็นการส่วนตัว?

เยโม่มองออกอย่างชัดเจน ฉีเทียนเห้าป็นคนจิตใจคับแคบ

แต่เมื่อชกเบาๆ เข้าไปที่เยหลินหนึ่งที คนทั้งคนเห็นได้ชัดว่ากระปรี้กระเปร่าขึ้นมา

เนื่องจาก หมัดครั้งก่อนเรียกได้ว่าทำให้เขาเจ็บปวดจนเกือบตาย แต่เยหลินที่ถูกชกในตอนนี้ กลับเจ็บปวดเล็กน้อย

ส่วนเยหลินพูดได้ว่า ความเจ็บปวดนี้ เหมือนแค่คันๆ จั๊กจี้ๆ ก็มิปาน

สำหรับผลลัพธ์นี้ เยหลินพึงพอใจเป็นอย่างมาก

เยโม่กลับเป็นกังวลว่าเยหลินจะออกไปหนานเจียงได้หรือไม่

เพราะว่า อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเยหลินหรือเยโม่ พวกเขาล้วนอยากออกไปข้างนอกเป็นอย่างมาก

แต่ว่า เยโม่ทำไม่ได้ เขามีความรับผิดชอบของเขา

ฉะนั้น เยโม่จึงหวังว่าเยหลินจะสามารถออกไปได้

และในวันนี้ ข่าวการจับกุมหัวหน้าเผ่าเหมียว เป็นที่ทราบกันของประชาชนทั่วทั้งเมืองหลวง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป

บางคนก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าหัวหน้าเผ่าเหมียวทำผิดกฎหมาย

แต่ว่า ภาพลักษณ์หัวหน้าเผ่าเหมียวในใจของปุถุชน เดิมทีก็เป็นไปไม่ได้ที่จะโค่นล้มทั้งหมดเพราะเรื่องเพียงครั้งเดียว

หลายคนกลับคิดว่า ที่หัวหน้าเผ่าเหมียวกระทำเรื่องในครั้งนี้ออกมา นั่นเป็นเพราะกษัตริย์ที่ทำบางสิ่งบางอย่างที่มากเกินไปจนหัวหน้าเผ่าเหมียวรู้สึกร้อนรนใจ

กระทั่ง วันรุ่งขึ้น ที่หน้าประตูพระราชวังหนานเจียง มีประชาชนหลายคนสมัครใจมาร้องขอชีวิตแทน

เหตุผลนี้เป็นเพราะว่า หัวหน้าเผ่าเหมียวในสายตาของปุถุชน เป็นคนมีคุณธรรมและบารมีสูงส่งคนหนึ่ง

อาจกล่าวได้ว่า หนานเจียงมีวันนี้ได้ ก็หนีไม่พ้นหัวหน้าเผ่าเหมียว บรรดาประชาชนต่างรักใคร่เทิดทูนเขาเป็นธรรมดา

สำหรับผลลัพธ์ดังกล่าว เยโม่ไม่ได้เกินความคาดหมายเลย

ชนเผ่าม้งและชนเผ่าอู อยู่ในหนานเจียงก็รักษาสมดุลเสมอมา และประคับประคองกันและกันเสมอมา

กล่าวได้ว่า นั่นเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้ง ที่ร่วมรักษาความเจริญรุ่งเรืองของหนานเจียงมาด้วยกัน

หากไม่ใช่เช่นนี้ ก็ไม่สามารถสืบทอบัลลังก์กษัตริย์หนานเจียงมาได้ และทั้งสองเผ่าก็มีความสามารถในการเป็นผู้นำด้วย

แต่เช้าตรู่ เยโม่สวมชุดกษัตริย์ของเขา ยืนอยู่บนหอประตูเมืองด้านหน้าพระราชวัง

เมื่อมองไปที่ประชาชนที่อยู่ด้านล่าง เยโม่จึงกล่าวขึ้นว่า "วันนี้ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องพูด ได้โปรดทุกท่านรออีกครึ่งชั่วยาม"

เมื่อกษัตริย์แห่งหนานเจียงเอ่ยปากพูด บรรดาประชาชนจะต้องเชื่อฟังเป็นธรรมดา

เพียงแต่ว่า การสนทนาทางด้านล่างไม่ได้หยุดลงเลย

พวกเขาอยากรู้อย่างมากว่ากษัตริย์แห่งหนานเจียงจะพูดอะไร

หลังจากที่กษัตริย์แห่งหนานเจียงกล่าวประโยคนี้แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย อีกทั้ง เขาไม่เคยออกไปจากหอประตูเมืองด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง