บทที่ 1051 ไหนๆ ก็ความแตกแล้ว
ที่ด้านล่างเวที ซุนลี่จ้งมีสีหนักอักอ่วนอย่างมาก
พวกเขาตระกูลซุนถูกคนมาทำลายงาน ผลลัพธ์คือแพ้ราบคาบ สุดท้ายยังถูกหญิงสาวคนหนึ่งช่วยกู้หน้าอีก
ซุนลี่จ้งกระแอมอย่างกระอักกระอ่วน “สมกับเป็นรุ่นใหม่ก้าวข้ามรุ่นเก่า…”
มู่สุยเฟิงไม่ได้เอ่ยปาก ดวงตาจับจ้องหญิงสาวบนเวที ตั้งแต่เมื่อครู่นี้ สีหน้าเขาซับซ้อนมาตลอด
เวลานี้ ท่าทีดูถูกเหยียดหยามของซุนเสวี่ยเจินแข็งค้างอยู่บนใบหน้าโดยสมบูรณ์แล้ว ฉินรั่วซีก็มีสีหน้าซีดเผือด ทั้งสองนึกไม่ถึงสักนิดเดียว ว่าผลสุดท้ายจะเป็นแบบนี้ได้
โดยเฉพาะฉินรั่วซี ฝีมือของเยี่ยหวันหวั่น เธอเคยเห็นกับตาตัวเองมาก่อน ทั้งที่พลังต่อสู้ด้อยกว่าเธอแท้ๆ ทำไมถึงก้าวหน้าพรวดพราดในระยะเวลาสั้นๆ ได้
หรือว่า เธอเก็บงำพลังต่อสู้มาตลอด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอวางแผนมาอย่างดีวันนี้ สูญเปล่าโดยสิ้นเชิง…
หลังยามาโมโตะจากไป เยี่ยหวันหวั่นก็เดินลงเวทีตาม
ทันทีที่ลงไป บอดี้การ์ดห้าคนของตระกูลซือก็เข้ามาทันควัน ตามติดซ้ายขวาเธออย่างสุดแสนเคารพนอบน้อม
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเดินลงมา มู่สุยเฟิงก็ก้าวเข้ามาหา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแฝงความร้อนรน “คุณหนูเยี่ย ขอถามเสียมารยาทหน่อยนะ ไม่ทราบว่าคุณมาจากสำนักไหนเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแบบนั้นก็ตอบตามตรง “ไม่มีสำนักหรอกค่ะ ฝึกฝนขัดเกล่ามั่วๆ เอง”
“ไม่มีสำนัก?” มู่สุยเฟิงได้ยินดวงตาก็ยิ่งทวีความสงสัย “งั้น…ใครคืออาจารย์คุณเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “อาจารย์ก็ไม่มีค่ะ…”
มู่สุยเฟิงได้ยินเดิมทียังคิดอยากถามอีก แต่เวลานี้มากคนก็มากปาก เขาจึงกดความสงสัยไว้แล้วเอ่ยทอดถอนใจชื่นชม “ที่แท้คุณหนูเยี่ยก็เป็นอัจฉริยะด้วยตัวเอง ดูท่าว่าจะมีความสามารถในการเข้าใจเส้นทางวิทยายุทธมาก”
ซุนลี่จ้งที่อยู่ด้านข้างถึงแม้จะมีสีหน้าปั้นยากอยู่บ้าง แต่ก็จำต้องเห็นด้วย “คุณหนูเยี่ยฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ…”
เวลานี้ ซุนเสวี่ยเจินพลันก้าวเดินออกมาจากกลุ่มคน มองตรงไปที่เยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยปาก “คุณหนูเยี่ย ในเมื่อคุณเป็นศิลปะการต่อสู้ เมื่อกี้ที่จงใจสละสิทธิ์มันหมายความว่ายังไง หรือว่าคุณดูถูกตระกูลซุนของพวกเรา”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้วน้อยๆ “งานชุมนุมประลองครั้งนี้มีกฎห้ามสละสิทธิ์เหรอ สละสิทธิ์ก็เท่ากับดูถูกอีกฝ่าย? ”
“คุณ…” ซุนเสวี่ยเจินที่เมื่อครู่นี้พูดเรื่องกฎตลอดถูกดักทางจนพูดไม่ออก เธอเอ่ยอย่างอดกลั้นความโกรธอย่างหนัก “งั้นก็ได้! ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อกี้ชั่วคราว! ตอนนี้ ขอความกรุณาคุณหนูเยี่ยช่วยเปิดหูเปิดตาฉันสักครั้ง!”
ไม่ได้ประมือกับผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวเอง ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เชื่อว่าตัวเองเทียบแจกันดอกไม้นี่ไม่ได้
ฉินรั่วซีรีบเดินเข้ามาโน้มน้าวข้างๆ “เสวี่ยเจิน เธออย่าหุนหัน…”
ซุนเสวี่ยเจินสีหน้าจริงจัง “รั่วซี เธออย่ามาโน้มน้าวฉัน ฉันต้องตัดสินที่นี่วันนี้!”
ซุนเสวี่ยเจินพูดจบก็หันมองเยี่ยหวันหวั่น “”ทำไม ไม่กล้าเหรอ หรือว่าไปเรียนวิชานอกรีตมา ชนะครั้งเดียวเป็นแค่เรื่องบังเอิญเหรอ”
ซุนลี่จ้งขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีคิดจะให้ลูกสาวกลับมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปาก ฉินรั่วซีก็มองเยี่ยหวันหวั่นโดยไม่รู้ตัว ก็เหมือนกับซุนลี่จ้ง เธอก็หวังว่าจะมีโชคช่วย
ฝีมือของเยี่ยหวันหวั่น ทำคนยากจะเชื่อจริงๆ …
เยี่ยหวันหวั่นช้อนสายตามองซุนเสวี่ยเจิน พวกเธอมาเข้าร่วมงานชุมนุมประลอง ตอนนี้งานชุมนุมประลองจบแล้ว เธอก็ไม่มีหน้าที่ต้องประลองกับซุนเสวี่ยเจิน
แต่เรื่องอย่างการต่อสู้ ไหนๆ ก็ความแตกแล้ว จะครั้งหรือสองครั้งก็ไม่ต่างกันหรอก…
————————————————————————-
บทที่ 1052 ขอให้ฉันชี้แนะไม่ใช่เหรอ
ดวงตาเย็นเยียบของซุนเสวี่ยเจินทอประกาย เธอกระโดดพลิกตัวขึ้นสังเวียนอย่างว่องไว
เยี่ยหวันหวั่นขึ้นบันไดกลับเข้าสังเวียนใหม่อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี