บทที่ 1053 เป็นดอกไม้กินคนชัดๆ
พริบตาที่ซุนเสวี่นเจินตกเวที ทั่วทั้งสถานที่ก็เซ็งแซ่
“เชี่ย! มารดาเถอะนี่มันกลายพันธุ์แล้วมั้ย!”
“ผู้หญิงคนนี้ ไม่แค่มองทะลุจุดอ่อนคนอื่น แต่ในเวลาสั้นยังถึงกับเคลื่อนไหวท่าซับซ้อนได้…”
“ท่าเมื่อกี้นั่นเป็นท่าไม้ตายของคุณหนูพวกเราเลยนะ!”
…
เห็นซุนเสวี่ยเจินไม่เพียงเอาชนะไม่ได้ แต่กลับยังทำให้เยี่ยหวันหวั่นได้เฉิดฉายอีกครั้ง ใบหน้าที่สุขุมมาตั้งแต่ต้นของฉินรั่วซีก็เริ่มพังทลายลงทีละน้อย กลายเป็นมืดครึ้มโดยสมบูรณ์
เดิมทีเธอไม่มองเยี่ยหวันหวั่นในสายตาแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ เรื่องราวกลับหนีจากแผนการและการควบคุมของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า…
“เสวี่ยเจิน เธอไม่เป็นไรนะ” ฉินรั่วซีฝืนกดความหดหู่บนใบหน้า รีบเดินเข้าไปพยุงซุนเสวี่ยเจินขึ้นมา
“บัดซบ…จะเป็นไปได้ยังไง” ซุนเสวี่ยเจินทุบพื้น
ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อาจเชื่อ ว่าตัวเองกลับแพ้ในมือแจกันดอกไม้ แถมยังถูกอีกฝ่ายเอาชนะด้วยท่าของตัวเอง…
ไม่มีอะไรน่าอับอายไปกว่าการแพ้แบบนี้แล้ว!
ไม่ห่างไปนัก เซนนีเผยสีหน้าคาดหวัง อดถอนใจชื่นชมไม่ได้ “ที่แท้ นี่ก็คือศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงของประเทศจีน การมาจีนครั้งนี้ คุ้มค่ากับการเดินทางแล้ว!”
ตรงข้ามกับกระบวนท่าตระการตาพวกนั้นของซุนเสวี่ยเจิน กระบวนท่าของเยี่ยหวันหวั่นเรียบง่ายดิบเถื่อนอย่างมาก ทว่าคุมแรงและความเร็วได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการระเบิดพลังในระยะห่างระดับนิ้วที่น่าตกใจโดยเฉพาะ
หลังซุนเสวี่ยเจินขึ้นเวที ทุกคนที่ด้านล่างเวทีก็หมดความสงสัยใดๆ ในพลังต่อสู้ของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว
เดิมทีตระกูลซือเป็นตระกูลธุรกิจ งานชุมนุมประลองวันนี้ ตระกูลซือแค่ส่งคนห้าคนมาร่วมงานเพื่อต้อนรับคุณมู่เท่านั้น ย่อมไม่สนใจแพ้ชนะ
กลับกัน พวกเขามองหญิงสาวคนหนึ่งอย่างถืออคติ หาเรื่องไปทั่ว ทำให้ทุกคนสูญเสียความน่านับถืออย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งสู้หน้าไม่ได้คือ คนมากมายขนาดนี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญใรตระกูลศิลปะการต่อสู้ แต่กลับไม่เก่งเท่าหญิงสาวคนหนึ่งที่เรียนเอง…
เยี่ยหวันหวั่นมองซุนเสวี่ยเจินที่ร่วงตกสังเวียนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ฉันไม่ได้เดินสายทางถูกต้องอะไรก็จริง แต่ สำหรับฉัน เรื่องอย่างต่อสู้ ชนะได้ก็พอ”
มู่สุยเฟิงได้ยินแบบนั้น ดวงตาก็วาบประกายแสง เขาเอ่ยเสริมด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ถูกต้อง! ไร้รูปแบบไร้กระบวน หลักสำคัญคือเรียบง่ายที่สุด! ความเข้าใจศิลปะการต่อสู้ของคุณหนูเยี่ยเหนือล้ำจริงๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เอ่อ เธอก็แค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น ไหงเขาจินตนาการเป็นแบบนี้ได้?
“เสวี่ยเจิน กลับมาเถอะ! พลังต่อสู้ของคุณหนูเยี่ยไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้ว” ซุนลี่จ้งเรียกลูกสาวเสียงเข้ม แล้วรีบเดินมาตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น “คุณหนูเยี่ย ถ้าลูกสาวผมมีจุดที่ล่วงเกินคุณ ก็โปรดให้อภัยด้วยนะครับ”
ไม่ว่าอย่างไร ในฐานะนักสู้ ก็ยังต้องเคารพยอดฝีมือผู้ที่มีพลังแท้จริง
“คุณซุนเกรงใจไปแล้วค่ะ! ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้น ฉันก็ขอลานะคะ!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็เอ่ยลามู่สุยเฟิงอีก “คุณมู่ ขอลาค่ะ!”
“โจวเหิน เร็ว ไปส่งแขก!” ซุนลี่จ้งเรียกศิษย์ที่ตัวเองภูมิใจที่สุดมาโดยตรง
“ครับ!” โจวเหินขึ้นหน้ามา นำขบวนของเยี่ยหวันหวั่นเดินไปที่ด้านนอกประตูอย่างนอบน้อมด้วยตัวเอง
บอดี้การ์ดห้าคนของตระกูลซือไม่สลดเหมือนตอนเพิ่งมาแล้ว เวลานี้พวกเขาต่างเลิกคิ้วพ่นลมด้วยความสุขใจ สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นก็เต็มไปด้วยความนับถือ
นึกไม่ถึงเลยว่า คุณหนูเยี่ยจะแกร่งถึงขนาดนี้…
เวลานี้ด้านหลังเยี่ยหวันหวั่น หนึ่งคนในนั้นพึมพำเสียงเบา “รสนิยมของคุณชายเก้า ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะเข้าใจได้จริงๆ …”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี