บทที่ 1105 ฉันเชื่อฟังเธอทุกอย่าง
ผู้ผลิตคนนั้นได้ยินก็ตะลึงงัน นึกว่าเพราะเจียงเยียนหรานไม่มีต้นสังกัดและไม่มีผู้จัดการ จึงลากเพื่อนมาช่วยคุยเรื่องสัญญาด้วย
เพราะในวงการบันเทิง ค่อนข้างไม่สนับสนุนให้ศิลปินเป็นคนเจรจาเรื่องทรัพยากรกับสัญญาเอง
แต่ว่า การหาหญิงสาวที่อายุเท่ากันมาช่วยเจรจาอย่างนี้ จะไม่เป็นการประมาทเกินไปหน่อยเหรอ?
ฉะนั้น เขาจึงไม่อยากได้นักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาทำงานด้วย เพราะพอถึงเวลาเจรจากันเรื่องสำคัญจะยุ่งยากมาก
จนใจที่ผู้กำกับเผิงอุตส่าห์ใจอ่อน เลือกผู้หญิงที่ถูกใจได้คนหนึ่ง ทำให้เริ่มถ่ายทำได้ในที่สุดหลังจากรอมาถึงครึ่งปี ทุกคนดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา ถึงแม้จะยุ่งยากอีกแค่ไหน เขาก็จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับมันแล้วล่ะ
ผู้ผลิตอดแนะนำไม่ได้ “คุณเจียง ผมแนะนำว่าคุณควรตัดสินใจเองนะครับ จะได้รวดเร็วกว่า”
เลือกคนที่ไม่มีประสบการณ์มาเจรจากับเขา สู้เจรจากับเจียงเยียนหรานโดยตรงดีกว่า ยิ่งมากคนยิ่งมากความ
เจียงเยียนหรานส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหนักแน่น “เรื่องพวกนี้ฉันไม่รู้เรื่อง คุณคุยกับเพื่อนฉันได้เลยค่ะ ฉันเชื่อฟังเธอทุกอย่างเลยค่ะ!”
เยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินก็หลุดขำ ยัยเด็กนี่ซื่อเกินไปแล้ว ไม่กลัวว่าจะถูกเธอหักหลังบ้างหรือไงนะ?
เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจความกังวลของผู้ผลิตหนังคนนี้ดี เขาคิดว่าเธอเด็กเกินไป ไม่ประสีประสาอะไร
แต่ประเด็นคือเธอนึกไม่ถึงว่ากลุ่มผู้กำกับจะยืนยันผลเร็วขนาดนี้ แล้วยังจะเจรจาสัญญากันเลยอีกด้วย เธอจึงทำได้เพียงเอ่ยปากด้วยสถานะตอนนี้ “การสอบที่โรงเรียนของเยียนหรานจบลงแล้ว เป็นช่วงพักร้อนพอดี ฉะนั้นจึงสามารถเข้ากลุ่มได้ทุกเมื่อ แล้วก็มีเวลาในการถ่ายทำที่มากพอด้วยค่ะ เรื่องนี้คุณกับกลุ่มผู้กำกับวางใจได้ ส่วนเรื่องค่าตัว ตามกฎแล้ว ยังไงตอนนี้เยียนหรานก็เป็นนักแสดงใหม่ พวกฉันย่อมไม่เรียกค่าตัวแพงอยู่แล้ว แต่ว่า…”
เยี่ยหวันหวั่นสาธยายปัญหาทั้งหมดอย่างชัดเจน จากนั้นก็พูดถึงปัญหาที่ต้องการทำความเข้าใจทั้งหมดออกมา ผู้ผลิตคนนั้นมีสีหน้าประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะฟังเธอ
ความสามารถ ประสบการณ์ รวมถึงความเข้าใจในสายอาชีพระดับนี้…เธอเป็นแค่นักศึกษาจริงๆ เหรอ?
ผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าที่ผู้ผลิตหนังคนนั้นมองเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “คุณเยี่ย ขออนุญาตถามซักหน่อย คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”
“ฉันเป็นนักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยนิเทศเมืองหลวงค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นบอก
ถึงแม้อีกเดี๋ยวเธอก็จะไปรับประกาศนียบัตรสำหรับจบการศึกษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้
“คุณเยี่ยเก่งมาก อายุยังน้อยก็เข้าใจสายงานนี้เป็นอย่างดีแล้ว?” ผู้ผลิตหวังอดชมไม่ได้
“ฉันกำลังฝึกงานที่จูเสินสือไต้ ก็เลยพอมีความรู้อยู่บ้างน่ะค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นบอกปัดส่งๆ จากนั้นก็หันไปมองเจียงเยียนหราน “ได้ยินที่พวกฉันคุยกันเมื่อกี้แล้วใช่ไหม มีปัญหาอะไรก็ถามตอนนี้ได้เลย พวกเราจะได้รีบปรึกษากัน”
สายตาที่เจียงเยียนหรานมองเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความชื่นชม “ไม่มีๆ เธอตัดสินใจได้เลยจ้ะ!”
ไม่อยากเชื่อเลย ว่าไอดอลของเธอกำลังช่วยเธอเจรจาเรื่องสัญญา! แล้วเธอจะมีปัญหาอะไรได้เล่า!
ด้วยเหตุนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงตกลงเวลาถ่ายทำและเนื้อหาสัญญาคร่าวๆ กับทางกลุ่มผู้กำกับอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เผิงหย่วนหูอ่านสัญญาที่ผู้ผลิตคนนั้นยื่นให้ คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมคลายออกในที่สุด “ไม่คิดเลยว่าในที่สุดก็จะได้ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ตอนยังมีชีวิตอยู่…”
“นั่นสิครับผู้กำกับเผิง! ยินดีด้วยนะครับๆ!” คนอื่นๆ ต่างก็พากันตื่นเต้นดีใจ
เผิงหย่วนหูเดินไปหาเจียงเยียนหราน “คุณเจียง ผมดีใจมากที่ได้เห็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ยอดเยี่ยมอย่างคุณ แล้วก็รู้สึกโชคดีมากที่คุณมาเข้าร่วมการออดิชั่น! หวังว่าพวกเราจะร่วมงานกันอย่างราบรื่น!”
………………………………
บทที่ 1106 ทำได้แน่
เจียงเยียนหรานหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นโดยสัญชาตญาณ แล้วพูดด้วยสีหน้าเก้อเขิน “ความจริงฉันไม่กล้ามาหรอกค่ะ แต่ผู้จัดการของฉันเกลี้ยกล่อมฉัน ว่าต้องมาลองให้ได้!”
ผู้ผลิตคนนั้นได้ยินก็ทำหน้าสงสัย เด็กคนนี้มีผู้จัดการด้วยเหรอ?
เดาว่าคงเป็นเพื่อนหรือไม่ก็คนในครอบครัวของเธอล่ะมั้ง…
ในวงการมีศิลปินมากมายที่มักจะให้เพื่อนหรือญาติเป็นผู้จัดการส่วนตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี