“ขอบคุณค่ะพี่รั่วซี กำไลสวยมากเลย” เยี่ยหวั่นหวันปิดกล่อง แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร
“เธอชอบก็ดีแล้ว” ฉินรั่วซีทักทายเธอเสร็จ ก็หันไปหาซือเยี่ยหาน
บทที่มองไปทางซือเยี่ยหาน ท่าทางที่ดูสุภาพเหินห่างกลับดูสนิทสนมขึ้นมาไม่น้อยเลย สายตาก็อ่อนโยนขึ้นในทันใด “อาจิ่ว เรื่องที่ดีพทาวน์นั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานการณ์เดี๋ยวฉันจะเล่ารายละเอียดให้คุณฟังตอนเย็น”
“ลำบากแล้ว” ซือเยี่ยหานถอนสายตาจากเยี่ยหวั่นหวันออกมาอย่างนิ่งเฉย
เมื่อกี้วินาทีที่เห็นฉินรั่วซี สีหน้าเยี่ยหวั่นหวันดูผิดปกติมาก
“คิดว่าฉันลำบากจริงก็แค่พูดเฉยๆ หรือ?” ฉินรั่วซีเลิกคิ้ว
ซือเยี่ยหานมองไปทางสวี่อี้ สวี่อี้รีบหยิบของที่เตรียมไว้นานแล้วออกมา เป็นเหล้าชั้นดีไหหนึ่ง
พอฉินรั่วซีเห็นสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที “เหล้าจู๋ชิงเย่[1]ที่พี่เจ็ดกลั่น! ครั้งที่แล้วฉันเอาหนังสือแพทย์โบราณที่ไม่มีตีพิมพ์อีกแล้วไปแลกกับเขาเขายังไม่ยอมเลย! คุณทำยังไงถึงได้มา?”
“สวี่อี้จัดการ”
“คุณแกล้งสวี่อี้อีกแล้ว ชอบใช้ให้เขาทำเรื่องที่ยากลำบาก!”
เยี่ยหวั่นหวันยืนอยู่ข้างซือเยี่ยหานเงียบๆ มองดูทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข คนข้างๆ ไม่มีที่เข้าไปแทรกได้เลย
เวลานี้ ที่หน้าประตูมีเสียงดีใจของหลิวอิ่งดังขึ้นมา “คุณหนูรั่วซี! คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไรครับ!”
พอหลิวอิ่งเห็นฉินรั่วซีก็เหมือนเห็นที่พึ่งทางใจ สายตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
ฉินรั่วซียิ้ม “เพิ่งมาถึง ได้ยินว่าช่วงนี้นายไปเรียนวิชาหมัดมวยใหม่มา? ไปซ้อมเป็นเพื่อนฉัน?”
“ได้ครับ!” หลิวอิ่งพักหน้าทันที
“เด็กซนนี่ กลับมาก็หาคนมาชกต่อยเลย ไม่มีกิริยาของผู้หญิงเลยสักนิด!” คุณหญิงย่าสีหน้าไม่พอใจ แต่น้ำเสียงที่เอ็นดูนี่ไม่ได้มีแววตำหนิอะไร
ส่วนผู้หญิงที่ซือเยี่ยหานเลือกไม่ใช่ฉินรั่วซี แต่เป็นเธอที่เป็นเด็กโผล่มาจากไหนไม่รู้ คิดว่าคุณหญิงย่าต้องผิดหวังแน่นอน
แต่โชคดีอยู่อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นใคร ดีหรือไม่ ยังไงก็ดีกว่าซือเยี่ยหานเป็นโสดไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงนานหลายปีขนาดนี้แน่
คุณหญิงย่าพูดจบก็เข้าไปในครัว เยี่ยหวั่นหวันก็นั่งข้างโต๊ะไม้ใต้กระถางต้นไม้ตามซือเยี่ยหาน
เวลานี้ฉินรั่วซีถอดเสื้อคลุมออก กำลังจะต่อสู้กับหลิวอิ่ง
เยี่ยหวั่นหวันนั่งอย่างไม่มีกระดูกสันหลังอยู่บนเก้าอี้หวาย มองดูร่างภูมิฐานของทั้งคู่อย่างเงียบๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่พบกัน ฉินรั่วซีก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกได้อย่างสบาย
ตั้งแต่ซือเยี่ยหาน มาถึงคุณหญิงย่า ถึงสวี่อี้ จนถึงหลิวอิ่ง ไม่มีใครสักคนเอ่ยถึงอำนาจของเธอเลย กำลังบอกเธอว่า ที่ข้างๆ ซือเยี่ยหานนั้น ไม่มีที่ว่างสำหรับเธอ
ชาติที่แล้วก็เป็นแบบนี้ ดูเหมือนฉินรั่วซีไม่ได้ทำอะไรที่เป็นแก่นสารมาทำร้ายเธอ แต่กลับทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวจนถึงสิ้นหวังไปทีละนิด
ในโลกของซือเยี่ยหาน เธออยู่คนเดียวมาตลอด ไม่เคยได้รับความเห็นใจหรือช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ว่า ชาติที่แล้วเป็นเพราะตัวเธอโง่เกินไป
ถึงแม้ฉินรั่วซีจะซื้อใจคนรอบข้างซือเยี่ยหานทั้งหมดได้แล้วยังไง เธอแค่จับคนหนึ่งให้อยู่หมัด ก็สามารถอยู่ในสถานะที่ไม่แพ้แล้ว
เยี่ยหวั่นหวันเท้าคาง มองไปด้านข้างราวกับขาทองคำที่เปล่งแสงอยู่ แล้วพูดเสียงออดอ้อน “ซือเยี่ยหาน ฉันอยากกินเมล็ดแตงโม~”
เมื่อกี้ซือเยี่ยหานรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายบนตัวนั้นผิดปกติ เพียงแต่เขาจับไม่ทันก็หายไปแล้ว
ความคิดที่ประเมินดูเธอแต่แรกนั้น พอเห็นหญิงสาวอยู่ๆ เงยใบหน้าเล็กที่งามพริ้งขึ้นมา ยิ้มอย่างออดอ้อนหวานเยิ้มให้เขา เลยเหมือนกับวินาทีชั่วครู่นั้นเขาแค่คิดไปเอง
เยี่ยหวั่นหวันโยกแขนเขา “ช่วงนี้การบ้านเยอะมาก ฉันเจ็บมือไปหมด ช่วยฉันปอกหน่อยสิคะ”
………………………………………………………..
บทที่ 174 ขอให้ป้อน
คนที่มีวรยุทธ์นั้นทักษะการได้ยินดี หลิวอิ่งที่กำลังปะทับกับฉินรั่วซีได้ยินชัดเจนว่าเมื่อกี้เยี่ยหวั่นหวันพูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี