วินาทีถัดมา มีเสียง “ปัง” ลอยมาจากที่ห่างออกไปไม่ไกล
สายตาเยี่ยหวันหวั่นมองเห็นชัดเจนว่า กำแพงด้านข้างหลิวอิ่งแตกเป็นรอยร้าว…
ชายหนุ่มกำหมัดแน่น จ้องไปยังเยี่ยหวันหวั่นเขม็ง จากนั้นไม่สนใจถ้อยคำถามไถ่อย่างห่วงใยจากฉินรั่วซี หันหลังจากไป
โอ้ว โมโหจนหนีไปแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่น “…”
ที่จริงเมื่อครู่นี้ เธอแค่คิดอยากจะกินเมล็ดแตงโมเท่านั้นจริงๆ
พูดกลับมา มิน่าล่ะฉินรั่วซีถึงมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ ต่อให้เห็นเธอกับซือเยี่ยหานทำตัวสนิทสนมกันขนาดนี้ด้วยตัวเอง ก็ยังคงไม่ส่งเสียงเอะอะ ทั้งยังกลับมาช่วยเกลี้ยกล่อมหลิวอิ่งอีกด้วย
คนที่สวยทั้งภายนอกภายใน มีความรู้มีความสามารถ แล้วยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ขี้หึง ช่างเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ
แม้แต่เธอยังรู้สึกว่าสายตาของซือเยี่ยหานมีปัญหา ไม่ต้องพูดถึงญาติๆกับผู้ติดตามของเขาเลย
จนกระทั่งรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก ความคิดที่ล่องลอยไปไกลของเยี่ยหวันหวั่นถึงได้กลับมา “โอ๊ะ…”
“คิดอะไรอยู่?” เมื่อรู้สึกได้ว่าเธอกำลังเหม่อลอย น้ำเสียงของชายหนุ่มไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
นี่ยังต้องถามอีกเหรอ? หลิวอิ่งน้อยของคุณโมโหจนพังกำแพงแล้ว คุณไม่เห็นเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ จากนั้นพึมพำ “กำลังคิดว่าสายตาที่เลือกผู้หญิงของคุณมีปัญหาหรือเปล่า…”
ดวงตาของซือเยี่นหานหรี่เล็ก เอ่ยขึ้นเนิบช้า “เธอลองว่ามาสิ มีปัญหาตรงไหน?”
เยี่ยหวันหวั่นลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นทำใจกล้าเอ่ยขึ้น “ทำไมคุณถึงไม่เลือกผู้หญิงที่สวยทั้งภายนอกและภายใน มีความรู้มีความสามารถ ไปข้างนอกออกหน้าออกตาได้ อยู่ในบ้านทำกับข้าวเป็น แต่กลับเลือกสาวสวยพราวเสน่ห์ ที่เป็นชนวนปัญหา?”
ซือเยี่ยหานได้ยินดังนั้น สายตาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวนิ่งล้ำลึก
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นถูกสายตานั้นจ้องจนรู้สึกว่าหัวใจเริ่มจั๊กกะจี้ ในที่สุดก็ได้ยินอีกฝ่ายตอบอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ตอบเธอกลับมาสี่คำ “ลุ่มหลงหน้าตา”
เยี่ยหวันหวั่นถูกคำตอบนี้ทำให้นิ่งอึ้ง “แค่ก…นี่ไม่ใช่การกระทำของชายชาตรีนี่นา?”
“ใครบอกว่าฉันเป็นชายชาตรีกัน?”
“…” เยี่ยหวันหวั่นพลันหมดคำพูด
เวลากลางคืน ซือเยี่ยหานยังประหยัดคำพูดราวกับเสียดายทองเหมือนเดิม
ส่วนฉินรั่วซีกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดคุยเรื่องทั่วไปกับคุณย่าเหมือนกับไม่มีเรื่องราวอะไร บางทีก็หยอกคุณหญิงย่าให้หัวเราะอย่างเบิกบานใจ
เห็นได้ชัดว่าฉินรั่วซีรู้ดีถึงความสำคัญของคุณหญิงย่า
ใจของเยี่ยหวันหวั่นรู้ดี ความรักที่ “รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย” ที่คุณหญิงย่ามีต่อเธอเป็นเพียงความรักผิวเผินเท่านั้น เมื่อฉินรั่วซีกลับมา ระดับความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ ของคุณหญิงย่าที่เธอสร้างขึ้นก่อนหน้านี้กลายเป็นบางเบา
สำหรับเรื่องนี้เธอได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว ฐานะของฉินรั่วซีในตระกูลซือมั่นคงมาก ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถโยกคลอนได้ในวันสองวัน
หลังจากอาหารเย็น เยี่ยหวันหวั่นหยิบเอาชีทข้อสอบออกมา กางบนโต๊ะหนังสือและเริ่มทำการบ้าน
ส่วนซือเยี่ยหานถือเอกสารปึกหนึ่งในมือ นั่งอ่านอยู่บนโซฟาที่ห่างออกไปไม่ไกล
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินรั่วซีเดินเข้ามา ดูจากลักษณะคือมารายงานผลการทำงาน
“จิ่ว เรื่องดีพทาวน์…” ฉินรั่วซีพูดพลางปรายตามองเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังทำการบ้านอยู่ทีหนึ่ง
ความหมายชัดเจน เรื่องลับสุดยอดเช่นนี้ เยี่ยหวันหวั่นย่อมควรจะหลบไป
เยี่ยหวันหวั่นกำลังที่จะเก็บข้าวของเพื่อออกไป ซือเยี่ยหานวางเอกสารในมือลง เงยหน้าขึ้นมา มองฉินรั่วซีแล้วพูดออกมาคำหนึ่ง “นั่งสิ”
ไม่มีความหมายว่าให้เยี่ยหวันหวั่นออกไปเลยแม้แต่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าขึ้นมา เหลือบมองไปทางคนทั้งสองที่อยู่ตรงข้าม รู้สึกใจโหวงเหวง
อันที่จริง เธอหวังจริงๆ ว่าซือเยี่ยหานจะให้ตัวเองหลบออกไป เธอไม่อยากรู้เรื่องลับสุดยอดนั้นเลยสักนิด!
……………………………………………….
บทที่ 176 วิถีทรราช
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี