บทที่ 185 – ตอนที่ต้องอ่านของ แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
ตอนนี้ของ แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนปัจจุบันทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 185 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เฉิงเสวี่ยเปลี่ยนใส่ชุดราชินีเรียบร้อยแล้ว ด้วยการแต่งหน้าเจ็ดส่วนชุดแต่งกายอีกสามส่วนเสริมให้ใบหน้าเล็กนั้นดูละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
ข้างๆ นอกจากมีบรรดาแฟนคลับสาวที่มารอซือเซี่ยแล้ว ก็มีนักเรียนชายกลุ่มใหญ่ที่พุ่งตัวเข้ามาหาดาวโรงเรียนอย่างเฉิงเสวี่ย เวลานี้ทุกคนต่างห้อมล้อมตัวเธอประดุจดาวล้อมเดือน ทั้งชื่นชมทั้งถ่ายรูปไปหยุด
เฉิงเสวี่ยเหลือบมองนักเรียนชายที่มีหัวใจมาส่งให้ถึงหน้าประตูพวกนี้ด้วยสายตาที่ไม่สนใจเลยสักนิด สายตาจดจ่อไปทางประตูอยู่ตลอดเวลา
รออยู่นานกระทั่งคนคนนั้นปรากฎตัวขึ้น เฉิงเสวี่ยดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ยกชายกระโปรงวิ่งเข้าไปต้อนรับ “ซือเซี่ย! นายมาแล้ว!”
พูดจบใบหน้าระคนไปด้วยความเขินอายหลายส่วน มองเขาด้วยแววตาที่เฝ้ารอ
จากนั้น สำหรับเธอในวันนี้ที่แต่งตัวสวยงามจนผู้ชายหลายคนไม่อาจละสายตาไปได้ ซือเซี่ยกลับเหลือบมองไม่เท่าไร ก็เบนสายตาของเขาพุ่งเป้าข้ามฝูงชนมองตรงไปทางเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ทางด้านหลังของผู้คน
เฉิงเสวี่ยมองตามสายตาของซือเซี่ยไปทางเยี่ยหวันหวั่น กัดฟันกรอด
ยัยตัวประหลาดมีดีอะไรกันแน่ ถึงสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษหนึ่งครั้งสองครั้งสามครั้งจากเขางั้นเหรอ?
“ซือเซี่ย นายว่าชุดนี้ของฉันสวยไหม?” เฉิงเสวี่ยคล้องแขนซือเซี่ยเขย่า พยายามดึงความสนใจจากเขา
แต่ซือเซี่ยไม่มีการตอบสนองกลับ
เฉิงเสวี่ยหน้าชา “ซือเซี่ย นายกำลังมองอะไร?”
ซือเซี่ยในเวลานี้ดูแล้วเหมือนคนไม่มีสติ ราวกับจมอยู่ในโลกที่มีเพียงตัวเองอย่างสิ้นเชิง แต่ในสายตาของเฉิงเสวี่ยกลับเห็นว่าเขากำลังเหม่อมองเยี่ยหวันหวั่น
เฉิงเสวี่ยไหนเลยจะยอมทนเห็นเขาใช้สายตาแบบนี้มองผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าตัวเองได้ จึงเร่งเสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจ “ซือเซี่ย…ซือเซี่ย…”
ซือเซี่ยสายตามึนงงพลันคล้ำลงหลายส่วน นัยน์ตาพรั่งพรูความเย็นชาอันหนาวเหน็บ “หุบปาก น่ารำคาญชะมัด”
เฉิงเสวี่ยตกตะลึงตาค้าง ไม่อยากเชื่อเลยว่าต่อหน้าทุกคนแล้ว ซือเซี่ยจะตะคอกใส่เธอด้วยท่าทีเช่นนี้
“นาย…” เฉิงเสวี่ยริมฝีปากสั่นเทา ขอบตาแดงกร่ำผลักฝูงชนให้หลีกทาง แล้ววิ่งออกไป
“เสี่ยวเสวี่ย! เสี่ยวเสวี่ย!”
พวกลิ่วล้อของเฉิงเสวี่ยหันมองซือเซี่ยไปทีหนึ่ง แล้วส่งสายตาเกลียดชังจ้องไปทางเยี่ยหวันหวั่นทีหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งตามเฉิงเสวี่ยไป
เพียงครู่เดียว บรรยากาศในห้องโถงพลันชะงักงัน
เดิมทีบรรดาเด็กนักเรียนหญิงได้เห็นซือเซี่ยแล้วพากันคึกคักเหมือนได้ฉีดเลือดไก่ ต่างถอยห่างออกมาด้วยความกลัวตัวสั่นงันงก
อ้า ดูเหมือนว่าวันนี้เทพบุตรจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย แม้แต่เฉิงเสวี่ยยังโดนตอกกลับมา พวกเธอถอยห่างออกมาหน่อยจะดีกว่า!
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นซือเซี่ยแสดงอาการเช่นนี้ออกมา ตกใจมากเลย…
ซือเซี่ยไม่มองเฉิงเสวี่ยที่วิ่งร้องไห้ออกไปเลยสักนิด หาตำแหน่งข้างหน้าต่างนั่งลงไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ มือเท้าคาง จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นตาไม่กระพริบต่อไป
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังถูกจ้องมอง…
เธอขบฟัน แทบอยากจะกระโจนเข้าไปอัดเจ้าเด็กคนนี้อีกสักรอบ
แม่เจ้าเด็กแสบคนนี้มองอะไรอยู่ได้ หรือว่าจะมองจนฉันเป็นดอกไม้ขึ้นมาหรือไง?
เธอไม่ได้คาดคิดเลยว่า ตั้งแต่เมื่อคืน ซือเซี่ยไม่เพียงไม่ยอมหยุด แต่ยังอัพเลเวลท่าใหม่อีกแล้ว!
ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าอึดอัด ผ่านไปนานในที่สุดทุกคนก็สามารถปลอบเฉิงเสวี่ยให้เริ่มทำการซ้อมใหญ่ได้สักที
กระทั่งการซ้อมใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น สายตาของซือเซี่ยยังคงจ้องอยู่ที่เยี่ยหวันหวั่นเช่นเดิม ไม่เห็นจะกระพริบตาเลยสักนิด
ไม่ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะเดินไปทางไหน สายตาของเขาก็จะจ้องตามไปเหมือนกับลูกนกที่เพิ่งเกิด เรียกว่าแนบชิดไม่ยอมห่างแม้เพียงก้าวเดียว
แสดงความสนใจอย่างชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนอย่างไรได้อีก หากว่าคนอื่นๆ มองไม่เห็นก็คงจะตาบอดแล้ว เพียงแต่เพราะอารมณ์โมโหอันน่ากลัวของซือเซี่ยเมื่อครู่ ทำให้ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ได้แต่แอบไม่พอใจอยู่ในใจเท่านั้น
เทพบุตรนายเป็นอะไรไปกันแน่เทพบุตร! โดนเยี่ยหวันหวั่นทำเสน่ห์ใส่แล้วหรือไง!!!
เยี่ยหวันหวั่นความจริงไม่ควรแสดงบทเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ แต่ควรแสดงเป็นแม่มดใจร้าย!
………………………………….
เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า เธอนอนอยู่ในโลงเฉยๆ ยังโดนเล็งเป้าอีกเหรอ?
ท่ามกลางความโกลาหล เฉิงเสวี่ยและนักเรียนหญิงอีกคนรีบช่วยกันประคองซือเซี่ยไปห้องพยาบาล
ผลที่ได้ พลันมีเสียง “เพียะ” ดังขึ้นกลางอากาศ
ซือเซี่ยสะบัดมือของเฉิงเสวี่ยอย่างแรง ด้านหนึ่งหอบหายใจ อีกด้านหนึ่งเนื่องจากนัยน์ตาแสบจนมีน้ำตาคลอจึงพยายามกระพริบตาถี่ๆ ทอดมองไปทางเยี่ยหวันหวั่น “หวันหวั่น…ให้หวันหวั่นส่งฉัน…”
อะไรอีก!?
เฉินเสวี่ยเดิมทียื่นมือจะไปช่วยประคองซือเซี่ยพลันต้องแข็งทื่อ สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นมืดมนขั้นสุด
ทีแรกเธอไม่ได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นอยู่ในสายตาสักนิด อย่างไรแล้วการไปเปิดศึกชิงรักหักสวาทกับผู้หญิงเกรดต่ำแบบนี้เป็นการลดตัวเกินไป แต่ใครจะรู้ว่ายัยตัวประหลาดทำอะไรกับซือเซี่ยบ้าง ถึงได้ทำให้เขาหลงขนาดนี้!
ภายใต้สายตาที่ถูกจ้องมอง เฉิงเสวี่ยถูกตบหน้าต่อหน้าผู้คนอีกแล้ว หน้าดำคล่ำเครียดอยู่นานกว่าจะข่มอารมณ์ลงได้ ถลึงตาร้ายกาจเป็นที่สุดจ้องเยี่ยหวันหวั่น “ยัยตัวประหลาด! ซือเซี่ยเรียกชื่อเธอไม่ได้ยินหรือไง?”
ลิ่วล้อที่อยู่ข้างเฉิงเสวี่ยตวาดออกไปอย่างอารมณ์เสีย “ยังไม่รีบมาอีก! หากไม่ใช่เธอ ซือเซี่ยจะป่วยได้อย่างไร!”
ผู้คนรอบด้านต่างเริ่มพากันชี้มือวิพากษ์วิจารณ์มาทางเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นแม้จะรู้สึกว่าครั้งนี้ตนเองดวงซวยชัดๆ แต่อยู่ๆ เธอก็คิดขึ้นมาได้ เหมือนว่าคนที่เป็นหอบหืดไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ และไม่ควรทำให้อารมณ์แปรปวนอย่างรุนแรง
ได้ยินเฉิงเสวี่ยบอกว่าซือเซี่ยไม่มีอาการกำเริบมานานแล้ว แต่วันนี้จากคนที่สภาพดีจู่ๆ ก็ล้มป่วยขั้นสาหัสขึ้นมา คงไม่ใช่เพราะ…เมื่อคืนเธอทำให้เขาตกใจเกินไปหรอกนะ?
อีกอย่าง วันนี้ตั้งแต่แรกเขาก็มีท่าทีแปลกๆ ดูไม่ค่อยมีสติ สภาพเหมือนคนตกใจจนเบลอไปแล้วจริงๆ
อ้า…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
ตามองเห็นการหายใจของซือเซี่ยติดขัดขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตคนสำคัญกว่า ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงรีบกระโดดออกมาจากโลงแก้ว ดึงแขนของชายหนุ่ม พยุงตัวเขาลุกขึ้น…
………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี