คนอีกฝั่งของมือถือน่าจะจับน้ำเสียงเธอที่เศร้าสลดได้ เลยรีบถามด้วยความเป็นห่วง “ยังอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ?”
เฉินเมิ่งฉีได้ยินก็สะอื้นเบาๆ อย่างเป็นผู้ถูกกระทำขึ้นมาทันที “พี่มู่ฝาน ฉันทรมานมาก ทรมานจริงๆ เห็นอยู่ว่าผู้ชายคนนั้นมาตื๊อฉันตั้งแต่ต้น ขู่ฉัน ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อฉัน…”
“เด็กดี ยังมีผมที่เชื่อคุณอยู่ ชอบคุณจริงๆ คนที่รักคุณ จะเชื่อคุณ ทำไมจะต้องเสียใจเพราะคนที่ไม่สำคัญเหล่านั้นด้วย?”
“แต่ว่าหวั่นหวัน! แม้แต่หวั่นหวันเธอก็ไม่เชื่อฉัน!” เฉินเมิ่งฉีพูดด้วยความสะเทือนใจ ราวกับว่าเสียใจจนถึงขีดสุด
ได้ยินชื่อเยี่ยหวั่นหวัน เยี่ยมู่ฝานอีกฝากของมือถือก็เงียบลงทันที ผ่านไปนานค่อยพูดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงเย็นชา “เธอไม่เชื่อก็ไม่เชื่อไปเถอะ ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกคุณแล้ว อย่าไปสนิทกับเธอมากนัก เยี่ยหวั่นหวันไม่คู่ควรกับการที่คุณปฏิบัติด้วยความจริงใจ!”
“แต่ว่า ฉันเห็นหวั่นหวันเป็นเพื่อนสนิทมาตลอด…”
“เพื่อนแบบนี้ ไม่ต้องมีหรอก! เอาล่ะ อย่าไปคิดเรื่องที่ไม่สบายใจเลย คิดว่าหลังจากเรียนจบคุณก็จะกลายเป็นดาราดังที่ทุกคนจับจ้องแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะมีคนเยอะแยะมากมายชอบคุณ!”
ดวงตาเฉินเมิ่งฉีเป็นประกาย “จริงหรือ? ฉันจะได้เป็นดาราดังจริงหรือคะ?”
“แน่นอน ผมจะทำให้คุณเป็นดาวเด่นที่แพรวพราวที่สุดสะดุดตาที่สุด!”
………
หลังจากมาตรวจที่ห้องพยาบาลแล้ว เยี่ยหวั่นหวันก็กลับหอพักด้วยกันกับเจียงเยียนหราน
เจียงเยียนหรานนั่งอยู่ที่ขอบเตียง มองไปทางเยี่ยหวั่นหวันด้วยความกังวล “หวั่นหวัน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ถึงแม้เวลาปกติเยี่ยหวั่นหวันจะดูเหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรทั้งสิ้น แต่เธอมองออก ในใจเธอซ่อนเรื่องราวไว้มากมาย รวมถึงใบหน้านี้ของเธอด้วย ที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงมาก่อน กลัวว่าจะมีเรื่องอื่นที่ปิดบังเช่นกัน
ตอนนี้โดนบีบบังคับ โดนทุกคนเห็นหมด ไม่เป็นอะไรจริงเหรอ?
เยี่ยหวั่นหวันยิ้มอย่างขมขื่นแล้วปัดมือ “พูดตามจริง… ที่จริงเป็น แล้วยังเป็นเรื่องใหญ่ด้วย!”
“สำคัญมาก?” เจียงเยียนหรานสีหน้าเปลี่ยนทันที “ตกลงทำไมเธอถึงเผยใบหน้าที่แท้จริงไม่ได้?”
“แน่นอนว่ากลัวผู้ชายมาติดน่ะสิ! แฟนฉันขี้หึงมาก!” เยี่ยหวั่นหวันถอนหายใจ
เจียงเยียนหรานได้ยินก็อึ้งไป ตามมาด้วยโล่งใจ เธอยังคิดว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่น่ากลัวเสียอีก ปรากฏว่าเปิดเผยหน้าแล้วจะโดนหลงรัก
เยี่ยหวั่นหวันรู้ว่าเจียงเยียนหรานกำลังคิดอะไร และก็ไม่ได้อธิบาย
เฮ้อ ถ้าคนนั้นของเธอเพียงแค่หึงหวงน่ารักแบบนั้นก็ดีหรอก คนนั้นของเธอหึงขึ้นมาทีถึงกับต้องการชีวิตเลย!
เพื่อที่จะรักษาชีวิต เยี่ยหวั่นหวันคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องรีบคิดวิธีรับมือล่วงหน้าไว้ก่อน
“เยียนหราน มีเรื่องหนึ่งต้องบอกเธอ ช่วงเวลาหลังจากนี้ ฉันอาจจะไม่ได้อยู่ที่หอแล้ว” เยี่ยหวั่นหวันพูด
“ไม่อยู่ที่หอ? เธอจะกลับไปอยู่ที่บ้านหรือ?” เจียงเยียนหรานถาม
เยี่ยหวั่นหวันได้ยิน สีหน้าอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย กลับบ้าน.. เธอยังมีบ้านที่ไหนให้กลับไปอีก…
“อืม คงอย่างนั้น คิดว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้าน คิดถึงบ้านนิดหน่อย” เยี่ยหวั่นหวันทำได้แค่พูดเออออไปกับเจียงเยียนหราน
ยังไงเธอก็ไม่สามารถตอบได้ว่าตัวเองกลับไปทำให้ปีศาจตัวใหญ่ตัวหนึ่งสบายใจหรอกนะ?
“ได้ยินเฉินเมิ่งฉีบอกว่า ก่อนหน้านี้เธอทะเลาะกับที่บ้านแรงมาก ตอนนี้ดีกันแล้วก็ดี มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่ทำเพื่อลูกสาว มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรก็พูดกันให้ชัดเจน อย่ารอจนเสียใจทีหลัง!” เจียงเยียนหรานปลอบ
เยี่ยหวั่นหวันพยักหน้า “อืม ฉันรู้”
………………………………………………………….
บทที่ 198 คิดถึงคุณจนนอนไม่หลับ
ก่อนนอน เยี่ยหวั่นหวันส่งข้อความหนึ่งหาซือเยี่ยหาน
‘ที่รัก ฉันคิดถึงคุณมากเหลือเกิน คิดถึงคุณทุกวันจนนอนไม่หลับ ฉันเตรียมจะขออนุญาตอาจารย์ไปกลับโรงเรียน ไม่อยู่หอ ดังนั้น ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไป ฉันจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ! ดีใจไหมคะ?’
ตอนนี้ฉินรั่วซีกลับมาจากดีพทาวน์แล้ว ฝั่งซือเยี่ยหานนั้นเธอก็ต้องจับให้อยู่หมัดมากขึ้นไปอีก อีกทั้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ใกล้เข้ามาแล้ว ดีที่ยังสามารถหาโอกาสให้ซือเยี่ยหานช่วยติววิชาเลขให้เธอ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ผ่านไปไม่กี่วินาทีเสียงข้อความมือถือก็ดังขึ้นมา ซือเยี่ยหานตอบเธอหนึ่งคำ ‘อืม’
เยี่ยหวั่นหวันมุดอยู่ในผ้าห่มแอบอมยิ้ม เฮ้อ อยากจะรู้จริงๆ ว่าทุกครั้งบทที่ซือเยี่ยหานเห็นข้อความหวานเลี่ยนของเธอพวกนี้มีสีหน้ายังไง
นับถือเขาจริงๆ ที่ทุกครั้งยังสามารถตอบเธอได้อย่างนิ่งเฉย
‘ใช่แล้วๆ! ต้าไป๋อยู่บ้านไหมคะ? ฉันอยากเล่นกับต้าไป๋!’ เยี่ยหวั่นหวันจงใจถามต่ออีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี