เจียงเยียนหรานที่อยู่ข้างๆ ก็พูดไม่ออก “เป็นถึงขนาดนี้แล้ว เธอแต่งหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
เยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป สุดท้ายก็เอากระเป๋าเครื่องสำอางใบใหญ่นั้นเก็บเข้าตู้
บาปกำเนิดของเธอไม่ใช่ใบหน้านี้ แต่เป็นความอ่อนแอ
ปิดบังมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรก ที่เยี่ยหวั่นหวันไม่แต่งหน้า
เธอมาร์สหน้าให้ตัวเองก่อน จากนั้นเอาเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงและประหลาดๆ ทั้งหมดเก็บเข้าไป
ที่มาแทนที่คือ ชุดหนึ่งที่ฝุ่นจับอยู่ด้านล่างลัง ชุดกระโปรงสวยงามอ่อนหวานสารพัดแบบที่เธอเคยชอบมากที่สุด เป็นของเวลาของหญิงสาวที่เธอเคยสูญเสียไปแล้วครั้งหนึ่ง
เยี่ยหวั่นหวันหวีผมยาวอย่างนุ่มนวล เลือกผมเสียข้างๆ ออกมา แล้วติดกิ๊ปตัวเล็กขึ้นไป จากนั้นเลือกชุดเดรสกระโปรงสีแดงเข้มมาใส่
ชุดแบบคอปาด แขนผีเสื้อที่กว้าง ชายขอบเหมือนดั่งดอกไม้บาน การตัดเย็บที่ประณีตแสดงให้เห็นถึงเอวบางและสัดส่วนโค้งเว้า สีของกระโปรงยิ่งขับให้ผิวขาวของเธอแต่เดิมยิ่งขาวราวหิมะขึ้นไปอีก
มองดูตัวเองสวมชุดเดรสกระโปรงนี้ในกระจก สีหน้าเยี่ยหวั่นหวันดูเหม่อลอย
นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เยี่ยมู่ฝานให้เธอเมื่อสองปีที่แล้ว
สายตาของเยี่ยมู่ฝานยอดเยี่ยมไม่มีที่ตีอยู่แล้ว ถึงแม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ชุดกระโปรงนี้ยังไม่เชยเลย
น่าเสียดาย ตอนนั้นความสัมพันธ์ของเธอและคนที่บ้านกับเยี่ยมู่ฝานเริ่มบีบคั้นมากขึ้น หลักจากนั้นไม่นานก็ทะเลาะกันครั้งใหญ่ ตัดความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก กับเยี่ยมู่ฝานก็ทะเลาะกับราวกับจะพลิกแผ่นดิน ชุดกระโปรงนี้ ภายหลังเธอไม่เคยได้ใส่อีกเลยสักครั้ง
พ่อแม่ต้องการปกป้องเธอถึงได้สูญเสียทุกอย่าง แต่เธอกลับถูกครอบงำโดยคำพูดไม่กี่คำของเฉินเมิ่งฉี กล้าพูดคำพูดที่ตัดขาดจากพ่อแม่แบบนั้นออกมา
เขาต้องโกรธแค้นที่มีน้องสาวที่ทั้งโง่และจิตใจโหดร้ายแบบนี้สินะ…
เพราะเธอ ตระกูลเยี่ยเปลี่ยนเจ้าของ พ่อแม่ต่อสู้จนไม่เหลืออะไร เขาก็สูญเสียสภาพแวดล้อมการเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเยี่ย สูญเสียคุณสมบัติที่จะรักคนๆ หนึ่ง
ที่บ้านโดนเธอทำจนกลายเป็นแบบนี้ แล้วยังกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจเธอ ทุกคนจึงปกปิดความจริงกับเธอ
มีเพียงเธอที่เป็นตัวหายนะไม่รู้เรื่องราวอะไร มีชีวิตอยู่อย่างไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น โดยชายชั่วเข้าหาด้วยเรื่องสัญญาแต่งงานกับพ่อเธอหลังสูญเสียอำนาจไปแล้ว
จะโทษก็โทษที่เธอไม่ได้เรื่องอ่อนแอเกินไป ครอบครัวต้องเสียสละถึงขั้นนี้เพื่อเธอ…
เยี่ยหวั่นหวันดึงความคิดกลับมาจากความทรงจำ เปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา
“สวยไหม?” เยี่ยหวั่นหวันถาม
วินาทีที่เจียงเยียนหรานหันไปเห็นหญิงสาว ในสมองก็มีประโยคหนึ่งลอยขึ้นมา: ‘ผิวขาวราวหยกสีขาว งามดั่งดอกไม้’
บนโลกใบนี้ มีบางคนที่ได้รับความเอ็นดูจากพระเจ้าจริงๆ
“สวย… สวยมาก…” เจียงเยียนหรานตอบด้วยความตะลึง
เมื่อคืนเยี่ยหวั่นหวันแค่สวมชุดกระโปรงขาวสบายๆ และปล่อยผมยาวลงมาลวกๆ ก็ทำให้ทุกคนอึ้งตะลึงกันหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหลังจากที่เธอตั้งใจแต่งตัวเลย
เยี่ยหวั่นหวันให้กำลังใจ “ฉันไปเรียนแล้วนะ!”
“อ้อ…”
วินาทีนี้ จู่ๆ เจียงเยียนหรานก็เข้าใจจิตใจของแฟนเยี่ยหวั่นหวันขึ้นมาทันที
มีแฟนสาวแบบนี้ กลัวว่าจะไม่สบายใจอยู่ทุกชั่วขณะสินะ…
………………………………………………….
บทที่ 200 แก่แล้วยังทำตัวไม่น่าเคารพ
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นปรากฎตัวที่ประตูห้อง F ทั้งชั้นเรียนต่างพากันเงียบกริบ
เฉิงเสวี่ยเตรียมการป้องกันไม่ให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก วันนี้จึงลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่ แม้แต่รอยยับทุกกลีบล้วนถูกจัดการอย่างพิถีพิถัน ใครจะรู้เพียงเยี่ยหวันหวั่นปรากฎตัวก็สามารถแย่งสายตาของทุกคนไปได้อย่างง่ายดาย
เดิมทีซือเซี่ยหน้าตาดูกระวนกระวายเหมือนเขากำลังรออะไรอยู่ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่หน้าประตู มือที่เท้าคางอยู่พลันหลุดออก ใบหน้าไถลลงเกือบชนกับโต๊ะ ดวงตาไม่วอกแวกเลยสักนิด
เมื่อคืนรวดเร็วเพียงชั่วพริบตามองไม่เห็นอะไรเลย จึงไม่อาจแน่ใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี