ตอน บทที่ 2263 อย่ามาว่าแล้วกันถ้าฉันยกพวกไปฉุดคน / บทที่ 2264 นางจิ้งจอกกับไอ้พันทาง จาก แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2263 อย่ามาว่าแล้วกันถ้าฉันยกพวกไปฉุดคน / บทที่ 2264 นางจิ้งจอกกับไอ้พันทาง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนปัจจุบัน แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 2263 อย่ามาว่าแล้วกันถ้าฉันยกพวกไปฉุดคน
ปุดๆๆ…
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเสียงเส้นดำทะมึนผุดขึ้นมาเต็มหัว หลินเชวียไม่อธิบายซะยังดีกว่า พออธิบายแล้วในใจของเธอก็ยิ่งละอาย
ซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เป็นเด็กดีอยู่ที่นี่รอฉันกลับมา ถ้าเธอไปกับฉัน ฉันจะเป็นห่วงเธอ แล้วจะจัดการเรื่องไม่สะดวก”
มองจากท่าทางของซือเยี่ยหานแล้ว ไม่มีทางให้เธอไปแน่นอน เยี่ยหวันหวั่นคิดดูแล้ว สำหรับสิ่งมีชีวิตประเภทแม่สามีแล้วดูเหมือนตัวเองจะไม่มีความมั่นใจว่าจะจัดการได้จริงๆ ถึงไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับ “งั้นก็ได้ ถ้ามีเรื่องอะไร คุณต้องบอกฉันทันทีเลยนะ”
ซือเยี่ยหานตอบตกลง “ได้”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “ถ้างั้นพิธีแต่งงานของเรากำหนดเอาไว้หลังจบประชุมสมัชชาแล้วกัน ถ้าถึงเวลาแล้วคุณยังไม่กลับ ก็อย่ามาว่าแล้วกันถ้าฉันยกพวกไปฉุดคนน่ะ!”
ซือเยี่ยหานฟังแล้วหลุดยิ้มออกมา “เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”
ถึงแม้ว่าเขาจะตั้งตารอมากก็ตาม
เป่ยโต่ววิ่งเข้ามาพร้อมกับซองกระดาษสีน้ำตาลซองหนึ่ง “พี่เฟิง ของที่พี่ต้องการฉันให้คนเขียนไว้เรียบร้อยแล้ว! แล้วก็ผมสั่งการลงไปแล้ว ถ้ามีข่าวของจี้หวงจะแจ้งพี่ทันที! พี่สบายใจได้เลย!”
สีหน้าของซือเยี่ยหานคล้ายจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร ทำเพียงมองเป่ยโต่วอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง
แผ่นหลังของเยี่ยหวันหวั่นแข็งเกร็งขึ้นทันที สีหน้าแปรเปลี่ยนในทันใด จากนั้นก็ถลึงตาใส่เป่ยโต่วแวบหนึ่ง “โอเคๆ ฉันไม่ได้หูหนวก นายลดเสียงลงหน่อยเถอะ”
พอพูดจบก็แกระแอมไอเบาๆ ทีหนึ่ง รีบมองไปที่ซือเยี่ยหาน แล้วอธิบายอย่างระมัดระวัง “เพราะว่าหลังออกจากเกาะแล้วก็ไม่มีใครได้ข่าวคราวของจี้หวงเลย เพราะงั้นฉันเลยให้คนคอยสอดส่องสักหน่อยน่ะ คุณอย่าคิดมากเลยนะ!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “ในสายตาของเธอ ฉันเป็นคนไม่มีเหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะกลบเกลื่อน “ฮ่าๆ ไม่เลย คุณไม่ใช่เลยสักนิด! คุณมีเหตุผล ฉันไม่เคยถูกทะเลน้ำส้มสายชูท่วมตายเลย!”
ซือเยี่ยหานเงียบไปแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มแห้งๆ จากนั้นก็หยิบซองเอกสารมาจากมือของเป่ยโต่ว “ที่รัก ในเมื่อคุณจะไปประชุม งั้นก็ถือโอกาสช่วยฉันเอาเอกสารนี้ไปส่งทีสิ”
“อะไร” ซือเยี่ยหานถาม
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเผล่แล้วตอบว่า “แน่นอนว่าเป็นคำร้องที่ฉันจะยื่นฟ้องเรื่องสายหลักผิดสัญญา! ใช่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับโทษ งั้นเรียกค่าชดเชยก็ได้ ฉันไม่ถือสาหรอก!”
ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวที่ราวกับจิ้งจอกน้อยแวบหนึ่ง จากนั้นก็ลูบศีรษะเธอ “ได้ จะช่วยเธอเรียกค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด”
เยี่ยหวันหวั่นกระโดดจุ๊บซือเยี่ยหานทีหนึ่ง “รักคุณที่สุดเลย!”
เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างอ้าปากหวอ แล้วเอ่ยอย่างทอดถอนใจ “เมื่อก่อนฉันคิดว่านายแห่งอาชูร่าซื่อตรงเป็นคนดีเกินไปไม่เหมาะกับพี่เฟิงของฉัน ตอนนี้พอดูๆ ไปแล้ว ช่างเข้ากันเหลือเกิน”
หลินเชวียเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เป็นไปได้ว่านายจะเข้าใจอะไรพี่เก้าของฉันผิดไปนะ”
….
การประชุมสมัชชาของสิบสองเขตรัฐอิสระที่สำคัญสุดๆ ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ไม่นาน ซือเยี่ยหานก็ออกเดินทางไปยังเมืองเทียนสุ่ย
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ณ ประตูเมืองเทียนสุ่ย
ทันทีที่รถยนต์สีดำคันหนึ่งจอดนิ่ง ยังไม่ทันได้ยื่นเอกสารติดต่อ ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งกรูเข้ามาล้อมไว้แล้ว
ในความมืด เด็กหนุ่มที่เป็นผู้นำกลุ่มสวมชุดเครื่องแบบใส่รองเท้าคอมแบท สาวเท้าก้าวมาหยุดหน้ารถยนต์สีดำ แล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า “คุณชายโปรดสละเวลาสักครู่ นายหญิงให้มาเชิญครับ”
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเย็นชาราวกับหุ่นยนต์ ไม่มีอารมณ์ใดๆ ตัวคนเสมือนดาบเปื้อนเลือดเล่มหนึ่ง แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำให้จิตใจคนหนาวสะท้านแล้ว
ภายในรถ หลินเชวียยืดคอมองออกไปนอกรถแวบหนึ่ง แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว “แม่งเอ้ย เป็นเว่ยจื่อเชียน จบเห่แล้วพี่เก้า แม้แต่องครักษ์เหล็กน้าหรงก็ส่งมาแล้ว ผมบอกแล้วว่าอย่ากลับมาเลย น้าหรงรอตะครุบพี่อยู่แน่ๆ! นี่ไม่ใช่แกะเดินเข้าปากเสือหรอกเหรอ…”
พอนึกถึงใบหน้าที่แสนงดงามของน้าหรง แข้งขาเขาก็สั่นพั่บๆ แล้ว ถึงขั้นที่แม้แต่ใบหน้าของพี่เก้าที่มีความคล้ายคลึงกันนั่นก็ไม่กล้ามองตรงๆ แล้ว…
—————————————————————————————
เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นของอินเหิงแล้ว ซือเยี่ยหานมองคนที่เข้ามาด้วยสีหน้าเฉยเมยแวบหนึ่ง ราวกับมองไม่เห็นอะไร
ดูเหมือนอินเหิงจะคุ้นเคยกับปฏิกิริยาตอบรับเช่นนี้ของซือเยี่ยหานแล้ว จึงไม่ได้พูดอะไร แต่คนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังเขากลับมีสีหน้าโมโห “ในที่สุดคุณชายก็กลับมาแล้ว! ไม่คิดเลยว่า คุณชายจะทำเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งจนมาถึงขั้นนี้ได้ ทำให้คนอื่นประหลาดใจจริงๆ ปีนั้นนายหญิงตั้งความหวังไว้กับคุณชายสูงที่สุด…”
ถ้าเป็นในอดีต แค่คนรับใช้คนหนึ่ง จะกล้าแสดงท่าทีแบบนี้กับซือเยี่ยหานได้ยังไง
เพียงแต่ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น ว่าตอนนี้ท้องฟ้าตระกูลอินผลัดเปลี่ยนแล้ว ลูกชายบุญธรรมอย่างอินเหิงสิที่เป็นว่าที่หัวหน้าตระกูลของตระกูลอินคนต่อไป ซือเยี่ยหานถูกเขี่ยทิ้งไปตั้งนานแล้ว
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ แต่กลับเป็นหลินเชวียที่กลอกตาใส่คนรับใช้คนนั้นแวบหนึ่ง “ถ้าไม่เป็นแบบนี้ นายคิดว่าน้าหรงจะชายตามองเจ้านายของนายรึไง! ทำตัวเป็นคนซื้อถูกแต่ขายแพงให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ! ทำเหมือนคนว่าอื่นเขาอยากได้เลยกลับมางั้นแหละ!”
พออินเหิงได้ยินคำพูดนี้ แววตาก็โชนแสงนิดๆ แต่กลับไม่แสดงสีหน้าออกมาเลย
คนรับใช้ถือว่ามีอินเหิงหนุนหลัง ประกอบกับความกระตือรือร้นที่จะประจบเอาใจว่าที่หัวหน้าตระกูลอย่างอินเหิงคนนี้ จึงร้องเฮอะออกมาทันที พูดจาอย่างไม่มีความเกรงใจ “ในเมื่อไม่อยากได้ งั้นตอนนี้กลับมาที่เมืองเทียนสุ่ยอีกทำไม ฉันจะเตือนไว้สักประโยคนะ หนนี้เกรงว่าโทสะของนายหญิงคงไม่ดับลงง่ายๆ หรอก
หลินเชวีย ฉันว่านายควรเกลี้ยกล่อมคุณชายบ้างนะ ถ้าคุณชายมาแสดงความจริงใจยอมรับผิด จะมามือเปล่าได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องเอาหัวของนางจิ้งจอกตัวนั้นกับไอ้พันทางมาด้วยสิ…”
มีเสียงดัง ‘ปั่ก’ แว่วดังขึ้นเบาๆ เป็นเสียงของซือเยี่ยหานวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ
ในเวลาเดียวกัน บรรยากาศในห้องโถงก็พลันหนาวเย็นลงในชั่วพริบตา
‘เพียะ…’
วินาทีต่อมา พอสิ้นเสียงของคนรับใช้คนนั้น ไม่รอให้ซือเยี่ยหานได้ออกอาการ อินเหิงก็สะบัดมือตบหน้าคนรับใช้ฉาดหนึ่ง ใบหน้าของคนรับใช้ปวดเป่งขึ้นมาทันที ฟันหน้าหลุดออกมาซี่หนึ่ง
“โอหัง ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน! ใครใช้ให้แกเสียมารยาทกับพี่ใหญ่แบบนี้” อินเหิงตำหนิ
“ครับ…” คนรับใช้ถอยออกไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
หลินเชวียที่ยืนอยู่ด้านข้างเบะปากแล้วเอ่ยว่า “เสแสร้งแกล้งทำ…น้าหรงไม่ได้อยู่ที่นี่ซะหน่อย นายเสแสร้งให้ใครดูกัน”
—————————————————————————————
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี