แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี นิยาย บท 227

สรุปบท บทที่ 227: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

ตอน บทที่ 227 จาก แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 227 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนปัจจุบัน แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 227 เขาไม่ได้อยากฟังเลยสักนิด / บทที่ 228 หัวหน้าผู้ดูแลวังหลวงถูกซื้อตัว
บทที่ 227 เขาไม่ได้อยากฟังเลยสักนิด / บทที่ 228 หัวหน้าผู้ดูแลวังหลวงถูกซื้อตัว
โดย
Ink Stone_Romance
บทที่ 227 เขาไม่ได้อยากฟังเลยสักนิด

เมื่อเยี่ยหวันหวั่นรู้ว่าสามารถกลับไปได้แล้ว พละกำลังก็ฟื้นคืนขึ้นมาทันที

วัดไข้เสร็จแล้ว ก็มีชายชราเข้ามาจับชีพจรให้เธออีก หลังจากมั่นใจว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ซือเยี่ยหานก็สั่งให้สวี่อี้ขับรถไปส่งเธอกลับบ้านจริงๆ

น่าจะเป็นเพราะความคิดถึงบ้าน เพราะเป็นคนสองภพ ในที่สุดก็จะได้พบหน้าพ่อแม่ เธอจึงรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

หลังจากล้มละลาย พ่อกับแม่ก็ไปพึ่งพาน้าชาย ตอนนี้จึงอาศัยอยู่ที่บ้านของน้าชาย

น้าชายชื่อเหลียงเจียหาวเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีความสามารถอะไร จบจากมหาวิทยาลัยธรรมดา ไม่มีความสามารถพิเศษ ไม่ได้มีความดีความชอบอะไร ตอนแรกแม้แต่เงินแต่งงานก็เป็นพ่อกับแม่ของเธอช่วยจัดการให้ ส่วนเรือนหอก็เป็นทรัพย์สินภายใต้ชื่อของพ่อกับแม่เธอ

ภายใต้ความช่วยเหลือของพ่อกับแม่ในช่วงหลายปีมานี้ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตได้อย่างชุ่มชื่น น้าหญิงก็มาเป็นคุณนายแม่บ้านเต็มตัว ตั้งใจดูแลบ้านคอยรับส่งลูกสาวไปโรงเรียน

หากว่าเธอจำไม่ผิดละก็ เหลียงซือหานลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของเธอปีนี้น่าจะขึ้น ม.หก และสอบเอนทรานซ์พร้อมกับเธอในปีนี้

เหลียงซือหานมีนิสัยหยิ่งยโสและเอาแต่ใจ ชอบเปรียบเทียบกับเธอในทุกๆ ด้าน ขอเพียงเธอมีของเล่นใหม่ ก็จะคิดหาวิธีเพื่อให้ได้มาเช่นกัน

คุณแม่รักและตามใจน้องชายของตัวเองคนนี้มาตั้งแต่เล็ก จึงรักและเอ็นดูหลานสาวมากเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วของขวัญที่ให้เธอ ก็จะเตรียมเผื่อเหลียงซือหานด้วยชิ้นหนึ่ง แทบจะรักและเอ็นดูเหลียงซือหานเสมือนเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่ง ถึงขนาดทำให้เธอรู้สึกอิจฉาจนทะเลาะกับคุณแม่อยู่หลายครั้ง

หลังจากเกิดเรื่อง สิ่งแรกที่แม่คิดถึงก็คือไปพึ่งพาน้องชายคนสนิท…

เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในใจ ไม่นานรถก็แล่นมาถึงพื้นที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง

สิ่งแวดล้อมและความร่มรื่นของพื้นที่คฤหาสน์ไม่เลวเลย ทุกตึกจะมีประตูหน้าบ้านส่วนตัว และสวนหย่อมเล็กๆ ของตัวเองด้วย

แม้จะยังอยู่ไกลแต่ก็สามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างอันคุ้นเคยได้ เยี่ยหวันหวั่นรีบบอกให้สวี่อี้หยุดรถ

ขณะที่กำลังลงรถ สวี่อี้ที่นั่งอยู่ที่นั่งด้านหน้าหันกลับมามองเธอด้วยสีหน้าเศร้าโศก

เยี่ยหวันหวั่นถูกสายตาคู่นั้นจ้องมองจนรู้สึกขนลุก “พ่อบ้านสวี่ นายมีอะไรอยากจะพูดหรือเปล่า?”

ทำหน้าเหมือนมีเรื่องสำคัญอยากจะพูดแบบนั้นหมายความว่าอะไร?

สวี่อี้ยังคงจ้องเธอด้วยสีหน้าขมขื่น “คุณหนูเยี่ย ผมยังตัวคนเดียว ยังไม่ได้แต่งงานเลย…”

เยี่ยหวันหวั่น “แล้ว?”

สวี่อี้ “อย่างน้อยขอให้ผมได้มีชีวิตอยู่ถึงวันที่ได้แต่งภรรยาได้ไหมครับ?”

เมื่อไม่นานมานี้เขายังพูดว่านายท่านเป็นคนมีหลักการมีบรรทัดฐาน คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงข้ามคืน เขาก็ยอมอนุญาตให้เยี่ยหวันหวั่นกลับมาแล้ว

วันนี้ตอนที่ออกมา เพื่อความไม่ประมาท เขาได้แนะนำให้นายท่านส่งคนมาด้วยมากกว่านี้จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่ก้าวเดียว แต่นายท่านกลับส่งเขามาเป็นคนขับรถเพียงคนเดียว

นี่หมายความว่า ไม่คิดจะจับตาการเคลื่อนไหวของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว

แต่ว่าหากคนหายไป เขาก็จะเป็นคนแรกที่ซวย!

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแบบนี้ก็กระตุกริมฝีปาก “ถ้านายไม่ไว้ใจ จะตามฉันไปด้วยก็ได้นะ!”

“ได้จริงๆ เหรอครับ?” สวี่อี้ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

เยี่ยหวันหวั่น “ได้สิ อย่างมากก็แค่ถูกพ่อแม่ฉันเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนฉันเท่านั้นเอง!”

สวี่อี้ “…ผมว่าผมรอคุณอยู่ในรถดีกว่าครับ!”

เยี่ยหวันหวั่นมองขอบฟ้า เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “วางใจเถอะ ฉันไม่หนีหรอก เพราะว่า ฉันก็ยังไม่อยากตาย…หากว่ามีสักวันได้รับอิสระล่ะก็…ฉันอยากจะเลี้ยงดูหนุ่มน้อยหน้าขาวสักร้อยแปดสิบคน เปิดฮาเร็มสักสามพันแห่ง…”

สวี่อี้ “…!!!”

โอ่ย! คุณหนูของผม! อย่าพูดจาน่ากลัวแบบนี้ได้ไหมครับ?

ที่สำคัญคือยังจะมาพูดแบบนี้ให้เขาได้ยินอีก!

ไม่ใช่แค่ตกใจ เรียกว่าตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลย

ผู้หญิงคนนี้พูดจาหว่านล้อมใจคนเก่งเหลือเกิน เพียงชั่วพริบตา ก็ทำให้เขาหวั่นไหวได้จริงๆ!

แต่ว่า…ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ เหมือนตัวเองเป็นหัวหน้าผู้ดูแลวังหลวงที่กำลังโดนนางสนมของฮ่องเต้ซื้อตัว…

“พ่อบ้านสวี่ นายเก็บไปคิดดูก็แล้วกัน” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็ลงรถไป

ถ้าหากอีกฝ่ายคือหลิวอิ่ง เธอไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้กับเขาแน่

แต่ว่า สวี่อี้ไม่เหมือนกัน สวี่อี้เป็นคนที่รู้จักเอาตัวรอด ปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ได้ดี และยังเป็นคนที่ใกล้ชิดกับซือเยี่ยหานมากที่สุด หากเธอสามารถได้รับความช่วยเหลือจากสวี่อี้จริงๆ การใช้ชีวิตในวันข้างหน้าก็จะราบรื่นขึ้นมาก

สวี่อี้นั่งอึ้งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับ มองยังทิศทางที่เยี่ยหวันหวั่นจากไป แล้วจมสู่ภวังค์แห่งความคิด…

ลงรถมาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็อาศัยความทรงจำหาคฤหาสน์ของน้าชายจนเจอ

ยืนหน้าประตูคฤหาสน์อยู่นาน เธอจึงตัดสินใจแอบย่องเข้าไปทางประตูหลังของสวนดอกไม้

เธอไม่อยากทำให้คนอื่นตกใจ เพียงแต่มองดูพวกเขาอยู่ไกลๆ อยากรู้ว่าพวกเขามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง

คิดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งจะเข้ามา เธอก็ได้เห็นเงาร่างอันคุ้นเคยของคุณแม่

เยี่ยหวันหวั่นรีบหลบไปอยู่หลังพุ่มไม้ทันที แอบมองลอดพุ่มไม้ด้วยความระแวดระวังไปยังทิศทางที่แม่อยู่

เห็นเพียงคุณแม่ที่เคยมีใบหน้างดงาม บัดนี้ดูแก่ขึ้นไม่น้อย ร่างกายซูบผอมราวกับเพียงลมพัดก็หอบร่างไปด้วยได้แล้ว เวลานี้เขากำลังยกตะกร้าผ้าใบใหญ่ออกมาผึ่งแดดข้างนอก

เยี่ยหวันหวั่นมองผ่านๆ ก็รู้แล้วว่า เสื้อผ้าเหล่านั้นไม่ได้มีเพียงของพ่อกับแม่ เห็นชัดเจนว่าชุดสีชมพูนั่นเป็นชุดกระโปรงของเหลียงซือหาน แล้วก็เสื้อสูทสีน้ำเงินและกระโปรงสีแดงสดนั่น ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าของน้าชายและน้าสะใภ้…

…………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี