เหลียงหวั่นจวินมองสำรวจลูกสาวที่ไม่เจอกันมานานขึ้นๆ ลงๆ ทั้งยังรู้สึกแปลกหน้าและค่อนข้างคุ้นเคย ไหล่บางสั่นไหวนิดๆ “หวันหวั่น แม่นึกว่า…นึกว่าลูกจะไม่กลับมาแล้ว…”
เวลานี้ เยี่ยเส่าถิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตื้นตันมาก ได้ฟังแล้วก็หันหลังไปเช็ดน้ำตา
เยี่ยหวันหวั่นน้ำตาคลอ ได้ยินคำพูดของเหลียงหวั่นจวินแล้ว รับรู้ได้รางๆ ว่าเหลียงหวั่นจวินคล้ายจะมีตรงไหนที่แปลกไป แต่เนื่องจากอารมณ์ความคิดในสมองมากเกินไป จึงไม่ได้คิดมาก ฟังแล้วรีบเอ่ยไป “แม่ แม่พูดเหลวไหลอะไรกัน หนูจะไม่กลับมาอีกได้ยังไง! หนูเป็นลูกสาวสุดที่รักของแม่นะคะ ต้องอยู่กับแม่ไปชั่วชีวิตสิ!”
พอเหลียงหวั่นจวินได้ยินประโยคนี้ ก็ควบคุมน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ไหลรินลงมาทันที “หวันหวั่น…”
เยี่ยเส่าถิงตบไหล่เหลียงหวั่นจวิน “เอาละๆ อย่าร้องเลย ลูกกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ เธอดูเธอสิ ทำลูกตกใจแล้ว!”
เยี่ยมู่ฝานก็รีบเข้ามาปลอบเช่นกัน “ใช่แล้ว นี่หวันหวั่นก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอครับ พวกเรากลับบ้านแล้วค่อยคุยกันเถอะ!”
“แม่คะ พวกเรากลับบ้านเถอะ!”
“จ๊ะ…ได้…กลับบ้าน…”
….
จินโตวปี้ไห่
ไม่นาน ทั้งครอบครัวก็ขับรถกลับมาถึงวิลล่าแล้ว
“หวันหวั่น ลูก…ลูกกลับมาแล้วเตรียมจะไปอยู่ที่ไหน” เหลียงหวั่นจวินเอ่ยถามอย่างคล้ายจะประหม่าอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นคล้องแขนเหลียงหวั่นจวินไว้ แล้วรีบตอบไปว่า “อยู่บ้านไงคะ หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนพวกพ่อแม่เยอะๆ!”
“ดีจ๊ะดี...” ใบหน้าของเหลียงหวั่นจวินเต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที “มู่ฝาน รีบช่วยยกข้าวของของน้องสาวลูกเข้าไปไว้ในห้องน้องสิ!”
“รู้แล้วครับ!” เยี่ยมู่ฝานบ่นอย่างแง่งอน “แม่ ไม่ใช่ผมจะว่าแม่หรอกนะ รอยยิ้มตอนแม่เพิ่งเจอน้องได้ไม่เท่าไร มากกว่าที่มีให้ผมทั้งเดือนอีก!”
เหลียงหวั่นจวินตวัดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “น้องสาวลูกทั้งว่าง่ายทั้งรู้ความ แถมยังได้คบกับแฟนหนุ่มที่ดีเลิศแบบนั้นอีก แล้วลูกล่ะ! จนตอนนี้แม้แต่เงาคนสักครึ่งตัวก็ยังพากลับบ้านมาหาแม่ไม่ได้!”
เยี่ยมู่ฝานสีหน้าหมดคำพูดทันที “แม่ แม่จะพูดก็พูดไปสิ มาโจมตีคนอื่นเขาทำไม! เมื่อก่อนผมพากลับมาหาแม่ตั้งเยอะ ทำไมไม่พูดล่ะ”
เหลียงหวั่นจวินโมโหแล้ว “แกยังมีหน้ามาพูดถึงเมื่อก่อนอีก! แต่ละวันพาใครก็ไม่รู้กลับมา ถ้าไม่ใช่เพราะน้องแกดูแลแก ตอนนี้น่ากลัวว่าแกคงโดนผู้หญิงเหลวไหลข้างนอกพวกนั้นหลอกจนไม่เหลือแม้แต่กางเกงแล้ว!”
ใบหน้าของเยี่ยมู่ฝานดำเหมือนก้นหม้อทันที “แม่ นี่แม่สองมาตรฐานตรงๆ เลย! เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเมื่อก่อนน้องแย่กว่าผมซะอีก สายตาในการเลือกผู้ชายแย่กว่าสายตาในการเลือกผู้หญิงของผมเป็นร้อยเท่า!”
เหลียงหวั่นจวินไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเข้าไปตรงเข้าไปดึงหูของเยี่ยมู่ฝานทันที “แกว่าน้องได้ยังไงหะ!”
เยี่ยเส่าถิงก็ถลึงตาใส่แวบหนึ่งเช่นกัน “ไอ้เด็กตัวเหม็น! แกวอนเจ็บตัวสินะ!”
….
เยี่ยหวั่นมองบทสนทนาของคนในครอบครัวทั้งสามคน รู้สึกเหมือนเดจาวูอย่างน่าประหลาด
บทสนทนาแบบนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับเนี่ยอู๋หมิงและพ่อแม่ของเธอเลย!
เพียงแต่ เห็นทั้งครอบครัวหัวเราะเบิกบานอย่างสมัครสมาน พอเยี่ยหวันหวั่นนึกถึงสิ่งที่ตัวเองจะพูดต่อจากนี้แล้ว ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกพูดยากกว่าเดิม
หลังจากเก็บของเสร็จ ทั้งบ้านมานั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก
“เรื่องที่เธอกลับมา เยียนหรานกับกงซวี่รู้เรื่องรึเปล่า” เยี่ยมู่ฝานถาม
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ยังไม่ได้บอก ฉันวางแผนว่าจะแอบไปเซอร์ไพรส์พวกเขาทีละคน!”
“ใช่แล้ว บทที่เธอช่วยเลือกให้กงซวี่ครั้งก่อนไม่เลวเลย คิดว่าครั้งนี้คงได้รางวัลใหญ่ที่ต่างประเทศแน่!” เยี่ยมู่ฝานเอ่ย
“โอ้…” เยี่ยหวันหวั่นร้องออกมา
“เยียนหรานก็ร้ายกาจมาก ก้าวเดินอย่างมั่นคงมาโดยตลอด ทำให้ผู้คนวางใจได้อย่างดีเยี่ยม” เยี่ยมู่ฝานเอ่ยเสริมขึ้น
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ฟังก็เอ่ยว่า “ถ้าเป็นเยียนหรานฉันวางใจอยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี