พอฟังคำพูดของเยี่ยมู่ฝานจบ เยี่ยหวันหวั่นก็ตกตะลึงอยู่นาน
ไม่คิดเลยว่าเยี่ยมู่ฝานที่พึ่งพาไม่ได้มาโดยตลอด จะมีด้านที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ด้วย
“พี่เริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่…”
เยี่ยมู่ฝานคิดๆ ดู “จำได้ไม่ชัดแล้ว เรื่องมีเยอะมาก น่าจะเริ่มจากตอนที่จู่ๆ แกก็เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเฉินเมิ่งฉี เพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตอนแรกพวกนั้น ฉันไม่ได้เก็บมาคิดเลย…สิ่งที่ทำให้ความสงสัยของฉันชัดเจนขึ้นมาน่าจะเป็นครั้งนั้น…”
“ครั้งไหน” เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้ามอง
เยี่ยมู่ฝานกระแอมไอเบาๆ คล้ายในใจจะมีความกังวลอยู่ จึงกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ก็…ก็ตอนที่เธอชกหมัดเดียวแล้วเจาะทะลุกระโปรงรถสปอร์ตกงซวี่ได้ครั้งนั้น…”
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าแข็งทื่อ แล้วกุมหน้าผากเงียบๆ “เข้าใจแล้ว…”
ที่แท้ก็เป็นตอนเธอดื่มจนเมาครั้งนั้น…
“จากนั้น…ฉันก็เลยย้อนกลับไปคิดดู เธอเปลี่ยนแปลงไปมากเกินไปจริงๆ…เป็นเด็กสาวอ่อนแอบอบบางคนหนึ่งชัดๆ แต่ว่า ไม่ว่าตอนไหนก็ออกตัวขวางอยู่ตรงหน้าตลอด ไม่ว่าเรื่องไหนเธอก็ตัดสินใจได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ความจำของเธอแย่มาก แต่จู่ๆ กลับเปลี่ยนเป็นเห็นผ่านตาไม่ลืมเลือน ถึงแม้เธอจะเคยเรียนรู้ทักษะบางอย่างมาก่อน แต่ไม่มีทางถึงระดับที่ร้ายกาจขนาดนั้นได้แน่…” เยี่ยมู่ฝานค่อยๆ คิดดูอย่างละเอียดแล้วพูดออกมา
“เพราะสงสัยในตัวตนฉัน พี่เลยไปตรวจดีเอ็นเอใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นลองถาม
เยี่ยมู่ฝานส่ายหน้า “เปล่าหรอก ต่อให้สงสัยเธอแค่ไหน ฉันก็ไม่เคยไปตรวจ แค่กลับมาคุยกับพ่อแม่เป็นการส่วนตัวอยู่สองสามครั้ง..”
เยี่ยมู่ฝานยิ้มอย่างจนปัญญาอยู่บ้าง “อันที่จริงฉันมองออก พ่อแม่ก็ดูเหมือนจะสงสัยอยู่บ้างเหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาก็เหมือนฉัน ทางหนึ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ อีกด้านหนึ่งก็หลบเลี่ยงเรื่องนี้ไปตามสัญชาตญาณ…”
เยี่ยหวันหวั่นฟังไม่เข้าใจ “ถ้างั้นพวกพี่…”
ถ้างั้นพวกพี่มั่นใจได้ยังไง…
ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นจะไม่ได้พูดจนจบ แต่เยี่ยมู่ฝานก็รู้ว่าเธออยากพูดอะไร จึงมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายเธอแวบหนึ่ง “ไม่กี่เดือนก่อน จู่ๆ ผู้ชายของเธอก็มาหากลางดึก แล้วบอกความจริงกับพวกเรา”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ฟัง จึงหันไปมองซือเยี่ยหานที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตกตะลึง “คุณเก้าบอกพวกพี่เหรอ”
ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยล่ะ
เยี่ยหวันหวั่นไม่คิดเลยว่า ซือเยี่ยหานจะบอกความจริงกับพวกเยี่ยมู่ฝานไปก่อนแล้ว
เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า “แน่นอน ถึงแม้พวกเราจะสังหรณ์ใจอยู่รางๆ แล้วว่าแกเป็นตัวปลอม แต่ว่า พอได้ฟังความจริงจากปากเขาเข้าจริงๆ ก็ยากจะรับไหวเกินไปอยู่ดี…จากนั้น…เขาก็รออยู่นอกประตูตลอด…ขอโทษฉันกับพ่อแม่…”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ฟังเรื่องพวกนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความมึนงง ไม่รู้เลยว่ามีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นด้วย
เยี่ยหวันหวั่นมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ “ทำไมถึงกลับมาทำเรื่องพวกนี้คนเดียวล่ะ”
ซือเยี่ยหานตอบด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ด้วยนิสัยของเธอ หลังจากรู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะทนปิดบังพวกเขาได้แน่ ตอนแรกก็เป็นความผิดของฉันอยู่แล้ว การบอกความจริงกับพวกเขา ไม่ควรให้เธอต้องมาแบกรับ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่คาดคิดเลยว่า แม้แต่เรื่องพวกนี้ซือเยี่ยหานก็วางแผนไว้แล้ว
เขาเข้าใจนิสัยของเธอดี ไม่อยากให้เธอต้องเผชิญหน้า ดังนั้นจึงจัดการทุกอย่างให้เธอไว้แต่เนิ่นๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี