ใช่สิ ด้วยความฉลาดของเขาแล้ว ทำไมจะไม่รู้ความคิดเรื่องนั้นของเธอ…
ทีแรกเธอเข้าใจว่าซือเยี่ยหานเพียงแค่เห็นเธอเป็นสัตว์เลี้ยงที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ และไม่ได้สนใจว่าเธอจะจริงใจหรือไม่ ขอเพียงเธอเชื่อฟังทำตัวดีก็ใช้ได้แล้ว
อีกอย่างผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งเธอก็ไม่เคยคิดมากมาก่อน…
แต่ว่า เมื่อครู่ตอนที่ซือเยี่ยหานมองมาที่ตัวเธอ วินาทีที่พูดออกมาว่า “เธอคิดจริงเหรอว่าฉันสนใจแค่เรื่องแต่งตัวน่าเกลียด” เธอก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนว่าผู้ชายคนนี้กำลังรู้สึกผิดหวังและเสียใจ…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ระหว่างที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังไม่มีสติอยู่กับตัวนั้น เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มได้แว่วผ่านมาในอากาศ “ฉันจะไป”
ซือเยี่ยหานพูดจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปทางประตู…
ต่อมา วินาทีที่กำลังจะผลักประตูเปิดออกไป ข้อมือข้างหลังพลันกระชับแน่น
ไม่รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นตามมาข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร ดึงชายแขนเสื้อของเขาไว้พลางกล่าว “ขอบคุณนะ”
ซือเยี่ยหานไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าไร้ซึ่งการแสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ
ขณะที่ซือเยี่ยหานกำลังย่างเท้าจะออกไปอีกครั้ง เยี่ยหวันหวั่นพลันพูดออกมา “คืนนี้อยู่ต่อเถอะ!”
นัยน์ตาของซือเยี่ยหานคล้ายจะวาบไหวอยู่เล็กน้อย สายตาหลุบลงมองที่เธอ
เยี่ยหวันหวั่นเห็นเขายืนนิ่ง จึงจูงมือของเขาพาเดินกลับเข้าห้องมา
“รอยคล้ำที่ขอบตาของคุณหนักอีกแล้ว ต่อไปหากว่าสะดวกก็พยายามมาหาฉันที่นี่นะ ส่วนฉันหากไม่มีธุระอะไร ก็จะกลับไปหาคุณที่สวนจิ่นหยวน”
เห็นว่าซือเยี่ยหานยังคงจ้องมองตนอยู่ตลอด เยี่ยหวันหวั่นจึงเอ่ยไปว่า “ทำไมเหรอ? ไม่ใช่ว่าเวลาที่อยู่กับฉันแล้วคุณจะนอนหลับได้ดีกว่าเหรอ?”
กลัวว่าเขาจะรู้สึกว่าการกระทำของตนเองเปลี่ยนไปกระทันหันเกินไป เยี่ยหวันหวั่นจึงกล่าวเสริมไปว่า “อะแฮ่ม คิดว่าเป็นการตอบแทนจากฉันแล้วกัน! เป็นการขอบคุณ!”
เธอรู้ดีว่าสำหรับคนคนหนึ่งที่มีความปรารถนาในการควบคุมอย่างแรงกล้า การประนีประนอมเมื่อครู่ไม่ได้ง่ายสำหรับเขาเลย
น้ำเสียงของเยี่ยหวันหวั่นคล้ายจะผ่อนคลายลง แต่ว่าตัวเธอเองรู้ดี ช่วงเวลาเมื่อครู่นี้ความรู้สึกในใจของเธอได้ผ่านอะไรมาบ้าง
แม้ว่าชาติก่อนเป็นเพราะความระแวงในเธอและความปรารถนาที่จะครอบครองอันน่ากลัวของซือเยี่ยหาน เธอเคยเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ว่าคนคนนี้ไม่เคยหลอกลวงและทรยศเธอเลยสักครั้ง และก็เพราะเขา สุดท้ายเธอถึงได้เห็นชัดๆ ถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของเฉินเมิ่งฉีและกู้เยว่เจ๋อ…
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางรับได้กับสถานะที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างเธอกับเขา เป็นความสัมพันธ์เหมือนกำแพงพุผังที่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ ไม่อาจยอบรับได้กับความปรารถนาที่จะครอบครองตัวเธออย่างไร้เหตุผลของซือเยี่ยหาน และอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ตลอดเวลา…
ทว่า เธอก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าในชาตินี้หลังจากเปลี่ยนวิธีการเข้าหาเขาแล้ว การเปลี่ยนแปลงของเขานำมาซึ่งความประทับใจของเธอ
เธอพูดไม่ถูกว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกแบบไหนกับซือเยี่ยหาน แต่เธอมั่นใจได้ว่า อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากให้เขาตาย…
ช่างเถอะ ในเมื่อคิดไม่ตกก็ไม่ต้องคิดแล้ว ทำตามหัวใจเถอะ
ต่อให้เธอจะอยากได้อิสรภาพ แต่ก็ไม่อยากได้มันมาจากการเสียชีวิตของเขาวิธีนี้
บรรยากาศยามค่ำคืนอันเงียบสงบ
คนทั้งสองนอนนิ่งสงบอยู่บนเตียง
เวลาที่ซือเยี่ยหานนอนหลับจะสงบนิ่งเป็นพิเศษ ไม่ขยับพลิกตัวเลยสักนิด เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่แน่ใจว่าเขาหลับไปแล้วหรือยัง
เยี่ยหวันหวั่นมีเรื่องคิดว้าวุ่นใจ นอนตั้งนานก็ยังนอนไม่หลับ จึงเอียงศีรษะเอ่ยถามเสียงเบา “ใช่แล้ว เกือบลืมไปว่ามีเรื่องหนึ่งอยากถามคุณ… เหมยจิ่งโจว…คนนั้นคุณรู้จักไหม?”
ด้านข้างมีเสียงเยียบเย็นเช่นที่ผ่านมาของซือเยี่ยหานแว่วมา “ไม่รู้จัก”
เยี่ยหวันหวั่นกระพริบตา เอ่ยสงสัย “เอ๊ ไม่ใช่ว่าคุณให้เขาไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดคุณปู่ฉันเหรอ?”
น้ำเสียงของซือเยี่ยหานยังคงราบเรียบไร้คลื่นอารมณ์เหมือนเช่นเคย “ไม่ใช่”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด
หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เธอแอบไปถามสวี่อี้มาแล้ว คงจะเชื่อจริงๆ ว่าไม่ใช่เขา
…………………………………
บทที่ 374 ยันต์เร่งความตายของซือเยี่ยหาน
เช้าวันถัดมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี