บริษัทลูกในสังกัดเยี่ยกรุ๊ปแห่งหนึ่ง บริเวณทางเหนือของเมืองหลวง
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นเข้าไปซือเยี่ยหานกำลังหารือกับผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทหลายคน ฉินรั่วซีและหลิวอิ่งก็อยู่ในนั้นด้วย
สีหน้าท่าทางของทุกคนล้วนเคร่งเครียด
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าของหลิวอิ่งพลันบูดบึ้ง
แม้ว่าผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ จะสงสัยใครรู้ในตัวเยี่ยหวันหวั่นแค่ไหน เดาว่าเธอคงจะเป็นคนโปรดที่เลื่องลือกันคนนั้นของ BOSS เพียงแต่ว่าจะอยากรู้มากแค่ไหนก็ยังเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่กล้ามองมาก รวบรวมสมาธิให้อยู่ที่หัวข้อในการประชุมต่อไป
ส่วนฉินรั่วซี ทำสัญญาณทักทายเยี่ยหวันหวั่นอย่างมีมารยาทตอนที่เธอเข้ามาเท่านั้น แล้วรวบรวมสมาธิรายงานต่อไป
โต๊ะทำงานของซือเยี่ยหานมีเอกสารต่างๆ กองอยู่เต็มไปหมด บนโต๊ะชาในมุมห้องมีกล่องอาหารวางอยู่ อาหารด้านในเหมือนว่าจะไม่เคยถูกแตะต้องมาก่อน
ตาคนนี้มีแต่โรคไปทั่วทั้งตัว กระเพาะอาหารก็บอบบางมาก แล้วยังทรมานร่างกายตัวเองแบบนี้อีก
เห็นเธอมาอย่างกะทันหัน ซือเยี่ยหานจึงส่งสัญญาณให้เธอหาที่รอก่อน
เยี่ยหวันหวั่นไม่ขยับ เม้มริมฝีปาก มองเขา “คุณยังไม่ได้กินข้าวเย็นเหรอ?”
เหมือนว่าซือเยี่ยหานจะคิดไม่ถึงว่าเธอตั้งใจมาที่นี่เพียงเพื่อจะถามเรื่องนี้ “มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ”
เยี่ยหวันหวั่นหน้าบึ้ง เรื่องของคุณ มีอะไรไม่สำคัญบ้าง?
ไม่ว่าจะสำคัญแค่ไหน มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของเขาอย่างนั้นเหรอ?
ซือเยี่ยหานเห็นสีหน้าเธอไม่สู้ดี จึงหยิบโน้ตบุ๊กคออกมาจากลิ้นชักแล้วส่งให้เธอ “เอาไปเล่นก่อน”
ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นมืดคล้ำ “ไม่เล่น! ฉันไม่ได้มาเล่นสักหน่อย!”
เป็นเหมือนอย่างเคย ซือเยี่ยหานไม่เคยหลบเลี่ยงผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะหารือเรื่องสำคัญมากแค่ไหน ทั้งยังอนุญาตให้เธออยู่ในการประชุมลับแบบนี้ด้วย แล้วตอนนี้ยังมาทำตัวเจ้าอารมณ์ต่อหน้าทุกคน สีหน้าของหลิวอิ่งบูดบึ้งเสียจนใกล้จะระเบิดแล้ว
สวี่อี้ปาดเหงื่อ จ้องเขาอย่างระมัดระวังอยู่ด้านข้าง ป้องกันไม่ให้เขาอดไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมา
ฉินรั่วซียังคงรักษาท่าทางอ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติไว้เช่นเคย ยิ้มบางพลางเอ่ยว่า “คุณหนูเยี่ยอย่าโกรธไปเลย ตอนนี้ประธานซือมีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือกับพวกเราจริงๆ รอให้เขาจัดการธุระเสร็จก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณได้แล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปทางฉินรั่วซีที่เหมือนว่าจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ แต่ไม่ได้สนใจเธอ หยิบโน๊ตบุคไปนั่งบนโซฟาด้านข้าง
ทางด้านซือเยี่ยหานไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสิ้น เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงเลื่อนดูข่าวอย่างเบื่อหน่าย
ระหว่างนั้นโทรศัพท์ก็สั่น เป็นหานเซี่ยนอวี่ส่งแชทหาเธอ
หานเซี่ยนอวี้ส่งรูปให้เธอหลายรูป ถามว่ารูปไหนหล่อกว่า
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามอง เลือกรูปหนึ่งส่งกลับไป “รูปนี้ หน้าด้านซ้ายของนายดูดีกว่า”
ดาราหลายๆ คนล้วนมีมุมที่สวยที่สุด อีกทั้งทุกครั้งที่อยู่หน้ากล้องก็มักจะจงใจเผยมุมนั้นออกมา ส่วนใบหน้าด้านซ้ายหานเซี่ยนอวี่นั้นสมบูรณ์แบบ
หานเซี่ยนอวี่ตอบกลับมาว่า “OK”
หลังจากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็รีเฟรชหน้าเว็บไซต์ เห็นหานเซี่ยนอวี่โพสต์เวยป๋อ มีคนบอกว่าหน้าด้านซ้ายดูดีกว่า?
รูปประกอบก็คือรูปที่เยี่ยหวันหวั่นเลือกรูปนั้น
คอมเมนต์ข้างใต้มีแต่เสียงของการเลียจอ
[กรี๊ด! พระเจ้า! ในที่สุดสามีก็โพสต์รูปเซลฟี่แล้ว! ฉันรอมานานมากเลย!]
[หล่อมาก หล่อสุดๆ จะมุมไหนของสามีก็หล่อทั้งนั้น!]
[มีคน? มีคนคือใคร? เหมือนว่าฉันจะได้กลิ่นอะไรตุๆ!]
…
เยี่ยหวันหวั่นเลื่อนเวยป๋ออย่างเหม่อลอย พลางคอยมองไปทางซือเยี่ยหานเป็นพักๆ
เวลาแต่ละวินาที แต่ละนาทีค่อยๆ ผ่านไป
เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง ซือเยี่ยหานเหมือนว่ายังคงไม่มีทีท่าว่าจะจบการประชุม
เมื่อนึกถึงสุขภาพอันอ่อนแอของซือเยี่ยหาน คิ้วของเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดมากขึ้นเรื่อยๆ นิ้วมือเคาะพนักวางแขนของโซฟาอย่างไม่ได้ดั่งใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี