เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ซือเยี่ยหานไม่กินผักชีฝรั่งเหรอ?
มุมปากหลิวอิ่งยิ้มเยาะด้วยความเย็นชา “แม้แต่อุปนิสัยการกินของนายท่านยังไม่รู้เลย…”
“คุณไม่กินผักชีฝรั่งเหรอคะ?” เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางซือเยี่ยหานแล้วถาม
ซือเยี่ยหานมองเธอ แล้วตอบ “อืม”
“อ้อ…”
กลายเป็นว่าฉินรั่วซีรู้จักเขาดีกว่าเธออยู่ดี แต่ก็ไม่แปลก ถึงแม้เอาสองชาติของตัวเองมารวมกัน เวลาที่รู้จักซือเยี่ยหานก็ยังไม่นานเท่าเธอ
เยี่ยหวันหวั่นถอนตะเกียบออกมา เตรียมจะคีบผักอย่างอื่น
ปรากฏว่ามือที่เธอกำลังจะถอนออกมา ตะเกียบกลับว่างเปล่าแล้ว ซือเยี่ยหานกลืนผักชีฝรั่งจากตะเกียบนั้นลงไปโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไป มองไปทางซือเยี่ยหานด้วยความประหลาดใจ
ก็บอกว่า… ไม่กินไม่ใช่เหรอ?
ใบหน้าหลิวอิ่งที่เย้ยหยันดูถูกแข็งทื่อทันที
สวี่อี้ก็กุมหน้าเงียบๆ เขารู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้…
ที่สำคัญไม่ใช่ผักอะไร แต่เป็นใครป้อนต่างหาก
เห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่ขยับ ซือเยี่ยหานก็เอียงหน้า ส่งสายตาถามหา หมายความว่า… ให้ป้อนต่อ
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตา คีบผักชีฝรั่งขึ้นมาอีกครั้งด้วยความลังเล
ซือเยี่ยหานกินโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนอีกครั้ง
ตอนนี้ไม่มีใครดูไม่ออกว่า เจ้านายของตัวเองจงใจหนุนหลังคนอื่น จนถึงขั้นไม่ไว้หน้าฉินรั่วซีเลย
แค่เพียงการกระทำเล็กๆ แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดสนิทและเหินห่างได้…
ทุกคนในห้องต่างมองไปทางฉินรั่วซี แต่เธอฝ่าฟันมาจนถึงตำแหน่งนี้ได้ก็ไม่ได้เสียแรงเปล่า สีหน้าดูไม่เปลี่ยนแปลงเลย
หลังกินข้าวเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นไม่อยู่ต่อ กลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดซือเยี่ยหานก็เสร็จงาน
“เลิกแล้วหรือคะ?” เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าขึ้นมาทันที
สวี่อี้ที่อยู่ข้างๆ พูด “คุณชายเก้ายังต้องไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ครับ”
สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นกลับมาบึ้งตึงอีกครั้ง “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว? ทำไมถึงต้องประชุมกันดึกดื่น?”
สวี่อี้กระแอม “การประชุมนี้… ค่อนข้างสำคัญครับ”
สำคัญ… สำคัญอีกแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางซือเยี่ยหานแล้วถาม “เปลี่ยนวันไม่ได้หรือคะ?”
ฉินรั่วซีอยู่ข้างๆ อธิบาย “การประชุมครั้งนี้สำคัญมากจริงๆ เลื่อนไม่ได้ หวังว่าคุณหนูเยี่ยจะเข้าใจท่านประธานนะคะ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ตอบฉินรั่วซี เอาแต่จ้องเขม็งซือเยี่ยหาน
ซือเยี่ยหานยื่นมือออกไป ลูบศีรษะเยี่ยหวันหวั่น “เธอกลับไปก่อน”
ได้ยินประโยคนี้ ไฟโมโหที่เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งระงับไว้เมื่อกี้กลับปะทุขึ้นมาในพริบตา
รู้จักแต่ทำงานๆ หรือว่างานสำคัญกว่าชีวิตเขาอีก?
ร่างกายตัวเองเป็นยังไง เขาไม่รู้แก่ใจเลยหรือ?
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางสวี่อี้ โกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงบังคับไม่อยู่ ถามออกไป “จากที่นี่ไปถึงบริษัทใช้เวลานานแค่ไหน?”
เห็นบรรยากาศของทั้งสองคนตอนนี้ดูไม่ค่อยดี สวี่อี้ตอบด้วยความระมัดระวัง “ประมาณชั่วโมงกว่าครับ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดทันที “งั้นฉันไปด้วย”
ซือเยี่ยหานได้ยิน มองไปทางหญิงสาวด้วยสีหน้าคาดเดา
เยี่ยหวันหวั่นจ้องเขาอย่างอารมณ์เสีย “มองฉันทำไม? ฉันไปไม่ได้เหรอ?”
ซือเยี่ยหาน “ตามใจเธอ”
หลังขึ้นรถมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี