แค่กๆ ยังจะช่วยพวกเขาดูดวงอีกเหรอ?
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนต่างแสดงอาการไร้คำจะพูด
เยี่ยหวันหวั่นจะทำท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอยู่ตรงนั้นก็ช่างเถอะ นี่ยังจะ “ปล่อยข่าวลือ” งมงายพวกเขาอีกเหรอ!
หลิวอิ่งข่มกลั้นอารมณ์โกรธแล้วเอ่ยขึ้นว่า “รบกวนคุณหนูเยี่ยระวังคำพูดด้วย เมื่อคืนผมก็แค่โชคไม่ดีเท่านั้น”
หนุ่มน้อยรูปร่างผอมตัดผมทรงสกินเฮดคนหนึ่งข้างกายหลิวอิ่งคาดว่าเป็นสาวกของหลิวอิ่ง เมื่อเห็นหัวหน้าทีมถูกหยามเกียรติ สีหน้าก็เริ่มไม่พอใจ “คุณหนูเยี่ย เรื่องแบบนี้อย่าเอามาล้อเล่นเลยจะดีกว่านะครับ!”
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกำลังอารมณ์ดีทีเดียว ก็เลยไม่ได้ถือสาหาความกับเขา เพียงแต่หันไปพิจารณาหนุ่มน้อยที่พูดแทรกขึ้นมา “นายชื่ออะไร?”
หนุ่มน้อยชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ซ่งจิ้ง!”
“อ๋อ…” เยี่ยหวันหวั่นพลันมองเขาให้มากอีกหน่อย ด้วยท่าทางชอบกล
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา…
“คุณหนูเยี่ยมีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่าครับ?” ซ่งจิ้งรู้สึกว่าท่าทางที่เยี่ยหวันหวั่นมองเขานั้นน่าขนลุก
เยี่ยหวันหวั่นหลุบตาลง ยิ้มเล็กน้อยพลางยื่นมือออกมา ทำท่าทางนับนิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่ซ่งจิ้งกล่าวว่า “เมื่อกี้ฉันดูดวงให้นาย! ได้ความว่า…”
“ได้ความว่าอะไรเหรอครับ?” ซ่งจิ้งพลั้งปากเอ่ยถามทันที
คนรอบข้างที่มามุงดูเรื่องสนุก แม้ว่าจะไม่สนใจแต่ก็หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยอยากรู้ อยากดูว่าเธอจะพูดจาเหลวไหลอะไรอีก
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้นเนิบๆ ว่า “ได้ความว่า ช่วงนี้นายมีเคราะห์”
ทุกคนได้ยินดังนั้น แสยะมุมปากขึ้นเล็กน้อย มีเคราะห์อีกแล้วเหรอ? เปลี่ยนลูกไม้ใหม่หน่อยได้ไหมเนี่ย?
สีหน้าซ่งจิ้งไม่เปลี่ยน “เคราะห์อะไร?”
เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง ไตร่ตรองคำพูด “อืม นับว่าเป็น…เคราะห์ด้านความรักละมั้ง…”
ทุกคนต่างตกตะลึง แอบคัดค้านอยู่ในใจ เคราะห์ด้านความรักคืออะไรกัน?
“ไม่ใช่โชคด้านความรักนะ แต่เป็นเคราะห์ด้านความรัก อีกทั้งเคราะห์ครั้งนี้อันตรายมาก!” เยี่ยหวันหวั่นทำท่าทางจริงจังราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
สรุปจากความจำอันยอดเยี่ยมของเธอ ต่อให้จะเป็นคำไม่สำคัญสองสามคำของคนอื่นในชาติก่อน ขอเพียงเธอได้ยิน ก็จะจำได้อย่างแม่นยำ
เธอจำได้ว่านานหลังจากเรื่องนั้นเกิดขึ้นในชาติที่แล้ว ตอนที่บอดี้การ์ดหลายคนพูดคุยแก้เบื่อได้พูดถึงคนคนหนึ่งที่ชื่อซ่งจิ้งว่า ตอนที่อยู่ประเทศ B ถูกหนุ่มนักกล้ามต่างชาติคนหนึ่งต้องตาเข้า จนเกือบจะรักษาดอกเบญจมาศ[1]เอาไว้ไม่ได้ เรื่องราวค่อนข้างดุเดือดทีเดียว…
ตอนนี้เรื่องราวของหลิวอิ่งเป็นจริงแล้ว เกรงว่าดอกเบญจมาศของซ่งจิ้งก็คง…น่าเป็นห่วง…
เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง น้ำเสียงมีเลศนัย “ทางฉันมีวิธีแก้นะ อยากจะให้ฉันเตือนนายสักหน่อยไหมล่ะ? ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยนะ!”
ซ่งจิ้งสีหน้าดำคล้ำ “ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณคุณหนูเยี่ยที่เป็นห่วง”
เยี่ยหวันหวั่นทำท่าทางเป็นหนักใจ “ไม่ต้องจริงเหรอ? มันอันตรายมากจริงๆ นะ! อาจจะสร้างบาดแผลที่ใหญ่มากให้กับนายก็ได้นะ!”
แม้จะบอกว่าสุดท้ายไม่ได้สมดั่งใจ แต่จะต้องสร้างบาดแผลใหญ่และปมในจิตใจแน่ๆ…
ดูได้จากลั่วเฉินเป็นตัวอย่าง ปมเรื่องนี้สำหรับผู้ชายทั้งแท่งนั้นนักหนาขนาดไหน…
เห็นซ่งจิ้งไม่เชื่อ สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นก็เหมือนกำลังมองคนโง่คนหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นจึงได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสียดาย ไม่พูดอะไรอีก ทานอาหารเสร็จก็กลับไป
มองแผ่นหลังของเยี่ยหวันหวั่นที่เดินจากไป ซ่งจิ้งสบถออกมาด้วยสีหน้าหมดคำพูด “สมองของผู้หญิงคนนี้มีปัญหาหรือเปล่า?”
“ออกจะประหลาดอยู่สักหน่อย!” คนข้างกายส่ายศีรษะพลางหัวเราะอย่างขบขัน
“แต่ว่าเรื่องของหัวหน้าทีม เธอพูดถูกจริงๆ ด้วยนะเนี่ย” มีคนเอ่ยขึ้น
“เรื่องนั้นเธอก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ นายสมองมีปัญหาเหมือนกับเธอแล้วหรือไง? ยังมีเคราะห์ด้านความรักนั่นอีก อันตรายมากผิดปกติเหรอ? ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่กันแน่!”
……………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี