“แล้ว…แล้วตอนนี้ต้องทำอย่างไร! อาการสาหัสมากหรือเปล่า?” หลิวอิ่งเองก็ลนลานแล้ว
“ใช้ยารักษาไปก่อน จะช่วยประคองอาการได้ชั่วคราว จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม!” คุณหมออธิบายพลางฉีดยาให้กับซือเยี่ยหาน จากนั้นก็รีบหยิบยาเม็ดออกมาจากกล่องยา เตรียมป้อนให้ซือเยี่ยหานกิน
ยิ่งลนก็ยิ่งวุ่นวาย ป้อนยาให้ซือเยี่ยหานเท่าไรก็ป้อนไม่สำเร็จสักที
ผู้คนในห้องต่างรู้สึกกลัดกลุ้ม ว้าวุ่นใจ…
ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงผลักประตูเปิดออกดัง “ปัง”
มีคนคนหนึ่งเดินรีบร้อนเข้ามา
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นมาถึงหน้าประตูห้องนอน เห็นเพียงซือเยี่ยหานนอนอยู่บนเตียงใบหน้าซีดขาว ในห้องมีสวี่อี้ หลิวอิ่งและบรรดาผู้บริหารระดับสูงอยู่กันครบหมด แล้วยังมีคุณหมออีกสองสามคนห้อมล้อมอยู่ด้วย
คุณหมอเหล่านั้นดูเหมือนจะกำลังพยายามป้อนยาให้ซือเยี่ยหาน แต่ก็ป้อนไม่สำเร็จสักที น้ำหกเลอะคอเสื้อของซือเยี่ยหานจนเปียกไปหมด
คุณหมอร้อนใจอย่างที่สุด บ่นอุทาน “แล้วนี่จะทำอย่างไรดี…”
หลิวอิ่งที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างเตียงกำลังอารมณ์เสียอยู่ เมื่อได้ยินเสียงผลักประตูเปิดเข้ามา ก็ตวาดเสียงดังด้วยความหงุดหงิดทันที “ใคร? แม่งไม่ต้องเข้ามาเพิ่มความวุ่นวายเลย!”
เยี่ยหวันหวั่นมองจ้องชายหนุ่มที่นอนหมดสติไร้ซึ่งการรับรู้ใดๆ บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าเย็นเยียบคล้ายกับมีน้ำค้างแข็งเคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปยังเตียงผู้ป่วย
หลิวอิ่งเห็นว่าเป็นเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าพลันแย่ลงกว่าเก่า พลันกล่าวด้วยสายตาเย็นชาดั่งน้ำแข็ง “ขอเชิญคุณออกไปด้วยครับ! อย่ามาขวางทาง! ไม่เช่นนั้นผม…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด แววตาดั่งคมมีดพุ่งไปทางหลิวอิ่งที่เข้ามาขวางทางตน พลันตวาดใส่ “หลบไป!”
พูดจบก็เดินผ่านหลิวอิ่งมาเลย ผลักคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าเตียงผู้ป่วยออก หยิบแก้วน้ำและยาในมือของเขามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกรอกยาเข้าปากตัวเอง ตามด้วยน้ำอีกหนึ่งคำ จากนั้นก็ประกบลงที่ริมฝีปากของซือเยี่ยหานท่ามกลางสายตาของทุกคน
ลำคอของซือเยี่ยหานกระดกเคลื่อนที่อยู่สองที เม็ดยาที่ถูกปลายลิ้นอันอ่อนนุ่มกดไว้ ได้ถูกส่งลงคอไปอย่างราบรื่น…
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ถึงสามวินาที
ทุกคนต่างนิ่งอึ้งพูดไม่ออก
สวี่อี้และบรรดาผู้บริหารชั้นสูง อีกทั้งบรรดาคุณหมอต่างมองภาพนี้ด้วยอาการตกตะลึง ยืนอึ้งกันอยู่ตรงนั้น แม้แต่หลิวอิ่งที่แสดงอาการโกรธอยู่ยังตกตะลึงไปด้วย
ในขณะที่ทุกคนยังดึงสติกลับมาไม่ได้ เยี่ยหวันหวั่นก็หยิบเสื้อผ้าสะอาดจากในตู้ออกมา แกะเสื้อเชิ้ตของซือเยี่ยหานออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงสวมเสื้อตัวใหม่ให้แทน
เห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นจัดการเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ได้อย่างเรียบร้อยและรวดเร็ว ทุกคนต่างพากันถอนใจโล่งอก
“รบกวนคุณหนูหวันหวั่นแล้ว!” สวี่อี้กล่าวอย่างซาบซึ้ง
คุณหมอก็กล่าวขอบคุณเช่นกัน “ขอบคุณคุณหนูหวันหวั่น!”
หลิวอิ่งไม่ได้พูดอะไร หน้าตาบูดบึ้ง แต่ว่าสีหน้าก็ผ่อนคลายลงไปหลายส่วน
“สถานการณ์ของซือเยี่ยหานเป็นอย่างไรบ้าง?” เยี่ยหวันหวั่นสอบถาม
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจแล้วว่าทำไม ช่วงเวลานี้ในชาติก่อนซือเยี่ยหานจึงสูญเสียหนักขนาดนั้น ด้านหนึ่งเป็นเพราะคนเหล่านั้นเก่งกาจยากจะจัดการ อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ แน่นอนว่าเป็นเพราะซือเยี่ยหานล้มป่วยหนักอย่างกะทันหัน…
ก่อนหน้านี้เธอคอยเป็นห่วงเรื่องสภาพร่างกายของซือเยี่ยหานมาโดยตลอด สุดท้ายเรื่องที่เป็นห่วงที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้
ภายใต้การทำงานอย่างหนักหน่วงและการเดินทางที่ยาวนาน ภัยเงียบในร่างกายของซือเยี่ยหานพลันถูกกระตุ้น จึงปะทุออกมาอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้าเช่นนี้
สุขภาพของซือเยี่ยหานในตอนนั้นยังไม่สาหัสเท่าตอนหลังจากนี้ และไมได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคุณหมอหลายท่านบอกว่าหากเขายังทำแบบนี้ต่อไป สุขภาพของเขาคงจะรับไม่ไหวแน่ แต่ว่าภาพลักษณ์ของซือเยี่ยหานในสายตาของทุกคนช่างสมบูรณ์แบบเกินไป ราวกับเทพเซียนที่ไม่มีเรื่องใดจะล้มเขาได้
กระทั่งถึงตอนนี้ ทุกคนถึงได้รู้ซึ้งว่าคำพูดของคุณหมอไม่ได้มีเจตนาพูดให้คนต้องตกใจ บอสหรือนายท่านของพวกเขาได้ยืนหยัดมาถึงที่สุดแล้วจริงๆ…
…………………………………
บทที่ 394 สิ่งที่ไม่อาจยั่วโมโหได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี