ซือหมิงหลี่กัดฟันกรอดพลางกล่าว “หัวหน้าตระกูลทำตามกฎของตระกูล ฉันไม่กล้าคัดค้านอยู่แล้ว”
ซือหมิงหลี่สีหน้าเครียดคล้ำ ตวัดสายตาเย็นเยียบมองจ้องไปทางเยี่ยหวันหวั่น
ยัยผู้หญิงสมควรตาย ทำให้เขาต้องตกมาอยู่ขั้นนี้!
ซือหมิงหลี่แผดเสียงเอ่ยขึ้นมาทันที “หัวหน้าตระกูล คุณจะลงโทษฉันก็ได้ แต่ความภักดีของฉันที่มีต่อตระกูลซือฟ้าดินเป็นพยานได้! ต่อให้คุณจะลงโทษ ฉันก็จำเป็นต้องพูด ต้องสอบสวนผู้หญิงคนนี้ให้ละเอียด! ตอนที่ฉันสงสัยในตัวสวี่อี้ ยังไงก็มีหลักฐานของจริง แต่ว่าผู้หญิงคนนี้อาศัยแค่คำพูดลอยๆ จากปากตัวเอง มีเพียงคำพูดไร้ซึ่งหลักฐาน!
ใครจะรู้สายคนนั้นที่เธอพูดถึงสรุปแล้วมีจริงหรือเปล่า? หากเธอเองก็คือคนของพันธมิตรเลือดล่ะ?
เธอเป็นถึงว่าที่นายหญิงของตระกูล ด้วยฐานะเช่นนี้ หากว่าเป็นสายลับของพันธมิตรเลือด ผลที่จะตามมาคงเลวร้ายจนไม่กล้าคิด! หัวหน้าตระกูลอย่าลืมพิจารณาสถานการณ์โดยรวมด้วย!”
ซือหมิงหลี่พูดจบ บรรดาผู้อาวุโสมองหน้าสบตากัน ต่างวิพากวิจารณ์เสียงกระซิบกันเซ็งแซ่
อันที่จริงความสงสัยของซือหมิงหลี่ไม่ไร้เหตุผล…
ซือหมิงหรงกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อครู่เขาเห็นด้วยกับการพาผู้หญิงคนนี้ไปสอบสวน ซึ่งก็เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิด
สวี่อี้และสวี่ฉางคุนที่อยู่ด้านข้างเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เผยสีหน้าร้อนใจขึ้นมาทันที
ซือหมิงหลี่คนนี้! วันนี้ต้องการกัดคุณหนูหวันหวั่นไม่ยอมปล่อยสินะ!
หากว่าวันนี้นายท่านต้องการปกป้องคุณหนูหวันหวั่นล่ะก็ ซือหมิงหลี่ไม่มีทางทำอะไรได้แน่ แต่หากว่าทำเช่นนี้ ก็ยากที่จะโน้มน้าวใจผู้คนได้ แม้แต่ตัวคุณหนูหวันหวั่นเองก็ยังมีภัยร้ายซ่อนอยู่…
นิ้วมือเรียวยาวของซือเยี่ยหานเคาะเบาๆ เป็นจังหวะบนโซฟาที่มือพาดอยู่ พลางกล่าว “ความหมายของคุณปู่สี่ก็คือ หวันหวั่นเป็นสายของพันธมิตรเลือดที่แอบเข้ามาแทรกแซงในตระกูลซือของเรา ครั้งนี้ตั้งใจช่วยชีวิตผมไว้ เพื่อที่จะได้รับความเชื่อใจจากผม?”
“ไม่ผิด! แม้ว่าจุดประสงค์ของผู้หญิงคนนี้จะไม่ใช่การสังหารหัวหน้าตระกูล งั้นจะต้องทำไปเพื่อข่าวกรอง และมีเพียงการได้มาซึ่งความเชื่อใจของคุณที่เป็นหัวหน้าตระกูล เธอจึงจะล้วงความลับได้มากขึ้น!” น้ำเสียงของซือหมิงหลี่หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นประกายรังสีสังหาร
ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว เขาไม่เชื่อว่าจะทำอะไรเธอไม่ได้!
“หวันหวั่น…” ซือเยี่ยหานหันมามองเยี่ยหวันหวั่นกระทันหัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ของล่ะ?”
ของ? ของอะไร?
ทุกคนได้ยิน พากันฮือฮาหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความสับสน สวี่อี้ก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน
เยี่ยหวันหวั่นกระพริบตา ล้วงๆ ในกระเป๋าข้างกายตัวเองอย่างว่าง่าย แล้วหยิบเอกสารยับยู่ยี่เป็นปึกๆ ออกมา…
“เอาให้คุณปู่สี่ดู” ซือเยี่ยหานเอ่ยเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
เยี่ยหวันหวั่นก็ส่งเอกสารไปให้ซือหมิงหลี่อย่างว่าง่าย
ซือหมิงหลี่มองเธอคราหนึ่ง รับเอกสารมาด้วยสีหน้าเย็นชา ผลลัพธ์คือเพิ่งจะเห็นเอกสารหน้าแรกหน้าก็ดำคล้ำเสียแล้ว เมื่อพลิกไปหน้าถัดไป หน้าก็ยิ่งดำคล้ำราวกับก้นกระทะ!
“นี่…นี่…นี่ไม่ใช่ข้อมูลลับของโครงการครั้งนี้และหนังสือร่างสัญญา…” ซือหมิงหลี่หน้าถอดสี
ของสำคัญขนาดนี้ซือเยี่ยหานกลับหยัดกระเป๋าให้ผู้หญิงคนนี้ดูแล? !
คณะผู้อาวุโสได้ยิน ต่างพากันชะโงกหน้าไปมอง พลันต่างต้องตกตะลึง
“อะไรกัน…ข้อมูลความลับของโครงการ energy…?”
“กระทั่งหนังสือร่างสัญญา…”
“นี่มัน…หัวหน้าตระกูลให้ความเชื่อใจผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วไหม!”
นี่ต้องเป็นคนที่เชื่อใจมากเท่าไร ถึงจะมอบของสำคัญขนาดนี้ให้เธอช่วยดูแล!
ด้วยระดับความเชื่อใจที่ซือเยี่ยหานมีต่อผู้หญิงคนนี้แล้ว ไหนเลยที่เธอยังจำเป็นต้องวิ่งอ้อมวงใหญ่ขนาดนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อใจจากเขา นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกเหรอ?
ซือเยี่ยหานเอ่ยเรียบๆ “ตอนนี้ คุณปู่สี่ยังมีปัญหาอะไรอีกไหม?”
ซือหมิงหลี่กำเอกสารเหล่านั้นไว้แน่น โกรธจนแทบหายใจไม่ออกเกือบเป็นลมล้มพับไป ผ่านไปนานใบหน้าบวมแดงกว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้ไม่กี่คำ “ไม่…ไม่มี…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี