กงซวี่โบกๆ มืออย่างรำคาญ สื่อให้โจวเหวินปินขยับไปอยู่ด้านข้าง จากนั้นกะพริบดวงตาดอกท้อ ทำท่าทางเป็นเด็กดีเชื่อฟัง เขยิบเข้าไปหาเยี่ยหวันหวั่นเพื่อรอรับรางวัลอย่างอดใจไม่ได้ “พี่เยี่ย จัดการเรื่องเสร็จแล้ว พี่ดูสิ ผมบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับผมเลย! แต่ว่า…พูดไปก็เป็นต้นเหตุจากผมอยู่ดี เพื่อเป็นการแสดงคำขอโทษจากใจจริง เอางี้ เย็นนี้ผมเลี้ยงข้าวพี่ดีไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นสบตาเปล่งประกายของชายหนุ่มอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คุณชายกงเกรงใจแล้ว เรื่องนี้ไม่จำเป็นหรอก”
กงซวี่ได้ยินก็ร้อนใจ รู้สึกว่าต้องเป็นเพราะเรื่องแย่งบทละครสร้างภาพจำแย่ๆ ให้กับเยี่ยไป๋ เขาเลยไม่ยอมให้น้องสาวมาเข้าใกล้ตน
แบบนั้นได้ไง! ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะหาผลไม้แช่อิ่มน้อยของเขาเจอ!
เขาต้องรีบเติมเต็มความรู้สึกดี!
แต่ว่า…จะเติมยังไง…
กงซวี่กำลังรีบร้อนเป็นกังวล ทว่าต่อมาไม่รู้ฉุกคิดอะไรได้ ดวงตาคู่นั้นพลันสว่างสดใส
กงซวี่เปลี่ยนสีหน้าท่าทางเป็นผ่านโลกมาโชกโชนและจนใจ ทอดถอนใจพลางอุทาน “เฮ้อ พี่เยี่ย หลายปีมานี้ชื่อเสียงในวงการของผมแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะคบคนผิด โดนผู้จัดการไร้ความรับผิดชอบพวกนั้นหลอกจนชีวิตขมขื่น! ผมก็เลยอิจฉาลั่วเฉินมากเป็นพิเศษ มีผู้จัดการส่วนตัวที่มีความชำนาญ รับผิดชอบ มีสายตาเฉียบแหลม ทั้งยังหน้าตาหล่อแบบพี่เยี่ย!
พี่เยี่ย ไม่ปิดบังพี่นะ ตั้งแต่วันแรกที่พี่เข้ามาในบริษัท ผมก็รู้ว่าพี่เยี่ยไม่ใช่คนธรรมดา ไม่งั้นศิลปินในค่ายก็มีตั้งมากมาย พี่จะถูกตาลั่วเฉินคนมีศักยภาพแบบนี้ได้ไง ตอนนั้นพี่เคยพูดว่า เว้นแต่โจวเหวินปินจะเอาผมไปแลก พี่ถึงยอมเปลี่ยนตัวกับลั่วเฉิน ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเลย…”
เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน
ได้เห็นกงซวี่คุณชายที่หัวสูงเหนือฟ้ามาประจบเยี่ยไป๋น้ำไหลไฟดับ คุยโม้จนลิงหลับ สีหน้าของโจวเหวินปินที่อยู่ด้านข้างตกใจเหมือนเห็นผี…
สมควรตาย! กงซวี่วันนี้เป็นอะไรกันแน่? โดนเสน่ห์หรือไง?
กงซวี่ประจบสอพลอด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะแอบพูดเป็นนัย “พี่เยี่ย ผมรู้ว่าตัวเองคุณสมบัติแย่ แต่ว่าผมมีหัวใจที่ขยันทำงาน ขาดแต่โป๋เล่อ[1]เหมือนอย่างพี่เยี่ย! ดังนั้น…พี่เยี่ยรับผมไว้ได้ไหม?”
โจวเหวินปินเห็นกงซวี่พูดประจบเยี่ยหวันหวั่น เดิมทีใบหน้าก็ไม่น่าดูมากอยู่แล้ว พอได้ยินมาถึงตรงนี้ รูม่านตาพลันหดลงทันที
มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุก “รับนายน่ะเหรอ?”
กงซวี่พยักหน้าเหมือนลูกเจี๊ยบจิกข้าว “อืมๆ พี่เยี่ย ผมอยากติดตามพี่จริงๆ! พี่เยี่ยมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของผมดีไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไรไม่ออก
สำหรับศิลปินแล้ว การเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ว่าพูดจากปากกงซวี่กลับเหมือนเปลี่ยนนาฬิกาข้อมือ หรือเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่อะไรอย่างนั้น
วินาทีที่กงซวี่พูดว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว ทั้งผู้ช่วย เจ้าหน้าที่ในห้องแต่งหน้า รวมถึงทุกคนที่ห้อมล้อมอยู่หน้าห้องแต่งหน้าต่างตะลึงค้างไป
แย่แล้ว พวกเขาได้ยินเรื่องอะไรเนี่ย?
กงซวี่ต้องการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว ทั้งยังเป็นฝ่ายขอติดตามเยี่ยไป๋ด้วยตัวเอง!
โจวเหวินปินหน้าซีดลงไปอีก มองไปทางกงซวี่ทันควันด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป “กง…กงซวี่…นายจะเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัว? เรื่องนี้จะเป็นไปได้ยังไง!”
กงซวี่เลิกคิ้ว นัยน์ตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเย่อหยิ่งโดยพลัน “ทำไม? ผมก็แค่อยากเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวเท่านั้น จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากพี่เหรอ? พี่เป็นตัวอะไร!”
เขาได้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวก็ไม่ใช่เพราะกงซวี่พูดคำเดียวก็เปลี่ยนได้หรอกเหรอ ต่อให้ฉู่หงกวงอยู่ที่นี่ด้วย ก็ควบคุมไม่ได้ว่าเขาจะไปกับใคร
กงซวี่พูดจบก็ไม่สนใจโจวเหวินปินอีก ทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเข้าไปใกล้เยี่ยหวันหวั่น “พี่เยี่ย ได้ไหมๆ? พี่รับผมไว้เถอะ! ผมสัญญาว่าจะทำตัวดีเชื่อฟังสิ่งที่พี่พูดทั้งหมด!”
………………………………………………………..
บทที่ 472 ดาบสองคม
หลังจากได้สัมผัสกงซวี่ด้วยตัวเอง เยี่ยหวันหวั่นถึงเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมชื่อเสียงของกงซวี่ถึงได้แย่ขนาดนี้ ข่าวฉาวมากมาย แต่ยังมีแฟนพันธุ์แท้มากมายขนาดนี้ได้
หมอนี่มีใบหน้าหล่อเหลาน่าเหลือเชื่อ เวลาทำท่าทางน่าสงสารก็น่าหลงใหลจริงๆ ทำให้คนอดใจไม่อยู่ยอมให้อภัยเรื่องที่เขาทำไว้ ยอมรับปากกับสิ่งที่เขาขอร้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี