บทที่ 533 ขอเพียงมีคุณอยู่ในสายตา
ทางด้านบอดี้การ์ดข้างหลังมองเยี่ยหวันหวั่นที่เพิ่งวิ่งไม่ถึงพันเมตรก็ออดอ้อนอย่างน่าสงสารแล้ว สีหน้ามึนงง
ไม่ต้องพูดถึงสืออี แม้แต่ต้าไป๋ที่อยู่ด้านหลังซือเยี่ยหานก็เลิกเปลือกตาขึ้นมา ราวกับกำลังเหยียดหยาม
เยี่ยหวันหวั่นเองก็รู้ ตัวเองเพิ่งวิ่งแค่พันเมตรแล้วจะล้มเลิกกลางคันคงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ความจริงเมื่อกี้นี้เธอแค่อ้อนไปอย่างนั้น จึงรีบบอกซือเยี่ยหาน “ไม่ต้องหรอก ฉันวิ่งต่อดีกว่า อย่างมากก็วิ่งช้าลงหน่อย!”
ซือเยี่ยหานขมวดคิ้ว
เยี่ยหวันหวั่นส่งสายตาขอร้องอย่างสุดความสามารถ “ที่รัก คุณก็ขึ้นรถไปด้วยสิ! แบบนี้ ฉันได้เห็นคุณ เวลาวิ่งจะได้มีแรงมากขึ้น!”
สีหน้าซือเยี่ยหานจริงจัง “เธอแน่ใจนะว่าไม่เป็นไร?”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันยังวิ่งได้อีกหน่อย แต่เมื่อกี้ไม่รู้ทำไม พอเห็นคุณก็ทนไม่ไหวขึ้นมา…”
ได้ยินคำของหญิงสาว สีหน้าของซือเยี่ยหานอ่อนโยนลงหลายส่วนอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น สุดท้ายซือเยี่ยหานก็ขึ้นรถไปด้วยกัน รถขับอยู่ด้านหน้าช้าๆ เยี่ยหวันหวั่นวิ่งตามอยู่ด้านหลัง
บอดี้การ์ดหนุ่มตกอยู่ในภาวะสงสัยในชีวิต ไม่อาจเชื่อมโยงนางมารสังหารโหดในคืนนั้นกับผู้หญิงบอบบางซึ่งวิ่งไม่ถึงพันเมตรก็หมดแรงจะตายตรงหน้าได้เลย
“เอ่อ หัวหน้าครับ แน่ใจเหรอว่าคนเดียวกันจริงๆ?” บอดี้การ์ดทนไม่ไหวกดเสียงเบาสบถกับสืออี
สืออีกำลังจะตอบ ทว่าไม่รู้เหตุใดสายตาถึงเปลี่ยนไปทีละนิด “นายลดความเร็วลงเหรอ?”
บอดี้การ์ดส่ายหัว “เปล่านะครับ ทำไมเหรอ?”
สืออีพึมพำ “ถ้านายไม่ได้ลดความเร็วของรถ งั้นก็แปลว่า…ความเร็วของคุณหนูหวันหวั่นมากขึ้นเรื่อยๆ…”
บอดี้การ์ดที่ขับรถอยู่อึ้งตะลึง มองกระจกหลังทีหนึ่ง “อ้าวเฮ้ย จริงด้วย! เริ่มจะแซงรถผมแล้ว…อ่า…แซงไปแล้ว…”
ขณะกำลังพูด เยี่ยหวันหวั่นวิ่งแซงหน้ารถไปแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นวิ่งพลางตะโกนคุยกับคนในรถ “นี่ พวกนายอย่าลดความเร็วลงสิ! ให้เจ้านายของพวกนายอยู่ในสายตาฉัน ไม่งั้นฉันไม่มีแรงวิ่งนะ!”
“อ่า…ครับ! เดี๋ยวนี้เลยครับ!” บอดี้การ์ดหน้าแดงเรื่อ รีบเร่งความเร็ว
จะว่าไป พวกเขาไม่ได้ลดความเร็วเลยสักนิดนี่?
แม่เจ้า! ไม่ถูกสิ…ทำไมถึงวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ?
จากการสังเกตของพวกเขาเมื่อครู่ เยี่ยหวันหวั่นวิ่งจนถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้วแน่นอน ในสถานการณ์แบบนี้คนทั่วไปไม่มีทางเพิ่มความเร็วได้อีก ทำไมถึงเห็นเธอยิ่งวิ่งยิ่งดูผ่อนคลายอย่างนั้น?
“หรือว่าเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายหลังจากถึงขีดจำกัด?”
บางทีหลังจากร่างกายถึงขีดจำกัดแล้วจะมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกว่าเท้าเบาหวิว แต่ความรู้สึกแบบนี้สั้นมาก เหมือนแสงที่สะท้อนกลับอย่างไรอย่างนั้น
ความคิดของสืออีกับบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ค่อยต่างกัน ทว่าสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย…
เพียงพริบตาก็วิ่งครบสามพันเมตรแล้ว ระหว่างนั้นเยี่ยหวันหวั่นไม่ได้หยุดเลยสักครั้ง
สืออีมองจำนวนกิโลเมตร เตรียมตะโกนให้หยุด เยี่ยหวันหวั่นกลับวิ่งฉิวไปไกลแล้ว
“คุณชายเก้า นี่?” สืออีมองซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างอย่างขอความเห็น
ผลคือสายตาเจ้านายตัวเองเอาแต่จับจ้องอยู่ที่หญิงสาวด้านหลังรถ เหมือนไม่คิดจะให้หยุดแต่อย่างใด
สืออีจึงเงียบเสียงและคอยสังเกตต่อไป
เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่เพียงไม่เหนื่อยจนล้มพับไป ตรงกันข้ามฝีเท้ากลับทั้งเบาและเร็วกว่าเดิม จึงอดไม่ได้หันไปหาซือเยี่ยหานที่อยู่บนรถด้วยสีหน้ายินดี “นี่ๆ ที่รัก ได้ผลจริงๆ นะ! ฉันรู้สึกว่าขอแค่มีคุณอยู่ในสายตา ฉันก็ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยสักนิด! อัศจรรย์มากเลย!”
ซือเยี่ยหานอยู่บนรถ เอียงศีรษะมองใบหน้าเล็กที่กระปรี้กระเปร่าของหญิงสาว ในดวงตาฉายยิ้มที่สังเกตเห็นได้ยาก
สืออีและบอดี้การ์ดอีกคนที่แค่ออกมาวิ่งเป็นเพื่อนยังโดนโชว์หวานใส่ขนาดนี้พากันพูดไม่ออก
……………………………………………………………….
บทที่ 534 ท่าทางร้ายกาจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี