บทที่ 873 รับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด / บทที่ 874 อย่าขอร้องให้ฉันออกมา – ตอนที่ต้องอ่านของ แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
ตอนนี้ของ แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนปัจจุบันทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 873 รับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด / บทที่ 874 อย่าขอร้องให้ฉันออกมา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 873 รับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด
คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่ไม่หลับนอน
ที่คฤหาสน์หอกุหลาบ กลุ่มทหารรับจ้างห้าคนกำลังจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่าย
“เฮ้อ ซือเยี่ยหานป่วยใกล้ตายแล้ว! แบบนี้เจ้านายพวกเราต้องปวดใจแน่เลย…”
“ก็ไม่แน่หรอกมั้ง ถึงเจ้านายจะค่อนข้างรักใคร่คนคนนี้จริง แต่คนงามตายไปหนึ่งคนก็ยังมีคนงามอีกเป็นหมื่นพันคนนี่นา!”
“ที่สำคัญคือซือเยี่ยหานตายแล้ว พวกเราก็ต้องย้ายฐานหรือเปล่า ยังไงซะเจ้านายก็อยู่ที่นี่เพราะเขา…”
“ก็คงใช่มั้ง เฮ้อ ทำใจไปจากที่นี่ไม่ลงจริงๆ แฮะ นายดูสิดอกไม้ที่ฉันตัดเล็มสวยขนาดไหน! ไม่ได้มีวันที่มีอิสระขนาดนี้นานแล้ว…”
“เจียวเจียวก็ไม่อยากไป…”
…
บ้านฉิน
ฉินเฟิงบิดาของฉินรั่วซีรีบเดินทางกลับมาจากต่างประเทศในคืนนั้น
“คุณพ่อ!”
“เรื่องเป็นยังไงบ้าง”
“ตอนนี้ยังไม่มีข่าว ดูจากสถานการณ์ตอนนี้คาดว่าจะร้ายมากกว่าดี…ก่อนหน้านี้ซุนไป๋เฉ่าก็คาดการณ์ว่าเขาจะอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ตอนนี้ใกล้ตายเต็มที ที่ดีขึ้นก่อนหน้านี้ คงเป็นแสงสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจ”
“หึ เด็กนั่นไม่รู้จักดีชั่ว ถ้าแต่งงานกับลูกดีๆ ก็ยังอยู่ได้อีกหลายปี! ก่อนที่เรื่องจะยืนยันชัดเจนอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวก่อน ผู้หญิงคนนั้นจะมีคนช่วยลูกจัดการเอง!” ฉินเฟิงเอ่ยเสียงดุดัน
“ค่ะ คุณพ่อ”
ดวงตาของฉินรั่วซีมีแววเย็นเยียบวาบผ่าน ในเมื่อไม่ได้มา…ทำลายไปเลยก็ดี…
…
วันถัดมา โรงพยาบาลแถบชานเมือง
ผู้อาวุโสทุกคนกำลังรอฟังผลที่หน้าประตูห้องผู้ป่วยอย่างร้อนใจ
ซือหมิงหลี่สอดส่ายสายตารอบด้าน จากนั้นจงใจถาม “ผู้หญิงคนนั้นล่ะ”
เฝิงอี้ผิงเอ่ยน้้ำเสียงเหยียดหยัน “ไม่รู้สิ ไม่เห็นเงาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คงไม่ใช่กลัวความผิดหนีไปแล้วหรอกมั้ง?”
“เฮ้อ เมื่อวานไม่น่าปล่อยเธอไปเลย!”
ขณะที่พวกผู้อาวุโสโกรธกับความไม่เป็นธรรม เสียงฝีเท้าดังตึกๆๆ ก็ดังขึ้นจากสุดปลายโถงทางเดิน
เทียบกับฉินรั่วซีที่ขาวบริสุทธิ์ทั้งตัวแล้ว พวกเขาเห็นเยี่ยหวันหวั่นสวมชุดกระโปรงสีแดงเข้มทั้งตัว แต่งหน้าสวยงาม ก้าวเดินเข้ามาช้าๆ ไม่ได้กลัวลนลานอย่างที่พวกเขาคาดคิด และยิ่งไม่มีท่าทีร้อนตัวกลัวความผิด
เห็นเยี่ยหวันหวั่นในสภาพนี้ เฝิงอี้ผิงมีสีหน้าดูถูกอย่างยิ่ง “หัวหน้าตระกูลเป็นตายไม่รู้ ก็ยังสวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาดขนาดนี้ สารรูปอะไรกัน!”
ซือหมิงหรงที่ไม่เอ่ยอะไรมาตลอดมองเยี่ยหวันหวั่นขึ้นลง สีหน้าก็ไม่น่าดูมาก กำลังจะเอ่ยปาก ซุนไป๋เฉ่ากับทีมผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย
ซือหมิงหรงถาม “คุณหมอ หัวหน้าตระกูลพวกเราร่างกายเป็นยังไงบ้าง”
ทุกคนเข้าไปล้อมวงอย่างร้อนใจ แม้แต่ซือหมิงหรงก็เลิกสนใจเยี่ยหวันหวั่น และจับจ้องซุนไป๋เฉ่าไม่วางตา ดวงตาเต็มไปด้วยแววคาดหวัง
“ผู้ป่วยอยู่ในอาการหมดสติหลับลึก ลมหายใจเบาบาง สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีนัก พวกเรากำลังตรวจสอบหาสาเหตุ พวกคุณ…เตรียมใจรับผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดไว้ดีกว่าครับ…เรื่องที่ควรเตรียมก็ต้องเตรียมแล้ว…” หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเตือนทางอ้อม
“นี่…”
นี่แทบจะเท่ากับตัดสินโทษตายให้พวกเขาเตรียมงานศพแล้ว!
เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกคนพลันแตกตื่นฮือฮา
ซือหมิงหลี่ตะโกนทันที “ใครก็ได้ จับผู้หญิงคนนี้ไว้! พาไปขังให้ดี ฉันจะสอบปากคำให้หนัก!”
ฉับพลันนั้นบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคนเดินมาทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าดุดัน
เยี่ยหวันหวั่นก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ขวางสวี่ฉางคุนที่กำลังโกรธจัดไว้ จากนั้นชำเลืองมองซือหมิงหลี่ที่มีสีหน้าลำพองใจ เอ่ยปากเรียบๆ ว่า “ฉันเข้าห้องขังก็ได้ แต่ หวังว่าถึงตอนนั้นปู่สี่จะไม่ขอร้องให้ฉันออกมาล่ะ”
“ฮ่าๆๆ เหลวไหลทั้งเพ!” ซือหมิงหลี่หัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยามถึงที่สุด “คุณหนูเยี่ย ด้วยความผิดของเธอ ชั่วชีวิตนี้อย่าหวังจะได้ออกมา!”
“พาตัวเธอไป!”
“ครับ!”
บอดี้การ์ดที่ผ่านการฝึกมาอย่างเข้มงวดสองสามคนพลันเข้ามาล้อมเยี่ยหวันหวั่น ก่อนจะพาตัวเธอไป
เมื่อเห็นว่าในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็อยู่ในกำมือตัวเอง ซือหมิงหลี่เบิกบานใจอย่างยิ่ง อารมณ์ที่มืดมัวในหลายวันมานี้หายวับไปหมดเกลี้ยง!
นางสารเลว ยังกล้าคิดออกจากห้องขังตระกูลซืออีก ช่างไร้เดียงสาจริงๆ!
เนื่องด้วยสภาพของซือเยี่ยหานในตอนนี้อาจลาโลกได้ทุกเมื่อ พวกผู้อาวุโสตระกูลจึงรออยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยไม่กล้าไปไหน ส่วนซือหมิงหลี่ขันอาสาไปเตรียมงานศพล่วงหน้าแล้ว
…
ห้องขังตระกูลซือ
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเหยียบเข้าไป ความหนาวเสียดกระดูกก็โจมตีเข้ามา ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดเหนียวข้นคละคลุ้ง กลิ่นเชื้อราผสมกับกลิ่นของสนิมเหล็กชวนให้คนรู้สึกคลื่นไส้
“อ้ากกก—” ส่วนลึกของทางเดินมีเสียงกรีดร้องปานจะขาดใจดังขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นเคยได้ยินเรื่องสถานที่นี้มาแล้ว ที่นี่กักขังคนทรยศตระกูล และสายลับของศัตรูที่แฝงตัวเข้ามาในตระกูลไว้ เป็นสถานที่ที่ดำมืดที่สุดของตระกูลซือ
เธอขี้ขลาดมาตั้งแต่เด็ก แถมยังกลัวเลือด ถ้าเป็นเมื่อก่อนมาเห็นภาพนองเลือดอย่างนี้ คงตกใจจนเป็นลมไปนานแล้ว แต่อาจเป็นเพราะมีประสบการณ์มามากมาย เวลานี้อารมณ์ของเธอจึงไม่สั่นคลอนอะไร
สองคนที่คุมตัวเธอมาเป็นคนสนิทของซือหมิงหลี่ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้านิ่งค้าง ก็คิดแค่ว่าเธอตกใจจนสติหลุดไปแล้ว
หนึ่งในนั้นขู่เสียงเย็นว่า “กล้าปองร้ายแม้แต่หัวหน้าตระกูล คนพวกนี้ก็คือจุดจบหลังจากนี้ของเธอ!”
……………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี