การแสดงออกของลั่วซินเม่ยพลันเปลี่ยนไป “เรื่องนี้... ไม่เกี่ยวข้องกับท่าน!”
“เกี่ยวสิ!” มู่เหลียนโยวหัวเราะเบาๆ “หากเจ้าทำได้ ก็จงใช้วิชาตรวจเส้นเลือดปฐมวิญญาณ แต่ดูท่าแล้วเจ้าอิดๆ ออดๆ ไม่ยอมเช่นนี้ เห็นทีว่าคงใช้ไม่เป็นจริงๆ”
“ข้าก็แค่...ไม่อยากใช้เท่านั้น!” ลั่วซินเม่ยกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
แต่ในที่สุดทุกคนก็ตระหนักว่านางไม่รู้วิธีใช้วิชานั้นจริงๆ !
เมื่อครู่นางยังพูดออกมาเองอีกว่ามารดาของนางเป็นธิดาบุญธรรม!
หากไม่มีเลือดของราชาแห่งภูเขาหย่งซานไหลเวียนในร่างกาย แล้วนางจะมีเส้นเลือดวิญญาณได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงวิชาตรวจเส้นเลือดปฐมวิญญาณด้วยซ้ำ!
แต่เป็นอย่างที่นางบอก นั่นคือนางเป็นหลานสาวของราชาแห่งภูเขาหย่งซาน! แม้ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่นางก็เป็นท่านหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งหุบเขาเทียนอี
“แม่นางเหยา เชิญกินยาเม็ดนี้ด้วย!” เห็นได้ชัดว่าลั่วซินเม่ยไม่อยากพูดเรื่องเส้นเลือดวิญญาณอีกต่อไป จึงยื่นยาวิญญาณโลหิตให้กับเหยาชิงหลี
ดวงตาของเหยาชิงหลีหรี่ลงครึ่งหนึ่ง พลางจ้องไปที่ลั่วซินเม่ยอย่างเย็นชา
“ไม่” อวี๋อ๋องพลันกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่มันไม่ดีกับร่างกายของเจ้า!”
แผนเดิมของเขาคือแม้จะพบการใช้ยาบนร่างของมือปราบ แต่ไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงเหยาชิงหลี ดังนั้นเขากับเหมยไทเฮาจะสามารถหาข้อแก้ตัวได้ว่าไม่พบหลักฐานที่แท้จริง
แต่ใครจะคิดว่าลั่วซินเม่ยกลับคิดใช้ยาเช่นนี้! หากกินไปแล้วยอมพูดออกมาทั้งหมด แล้วนางจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้อย่างไร!
“ข้าวางใจยาจากหุบเขาเทียนอี ในเมื่อท่านหญิงบอกว่ามันจะไม่เป็นอันตราย ดังนั้นมันจะไม่เป็นอันตราย” ฮ่องเต้หมิงซุ่นกล่าวอย่างอดทน
ใบหน้าของเหยาชิงหลีทรุดลงเล็กน้อย นางเริ่มรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น ข้าควรทำอย่างไรดี...
“ฝ่าบาท” มู่เหลียนโยวหัวเราะเบาๆ “กระหม่อมรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทดสอบอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”
“เพราะเหตุใด” หมิงซุ่นตี้ถามกลับ
ดวงตาของมู่เหลียนโยวหรี่ลงครึ่งหนึ่ง “เหยาชิงหลีไม่มีเวลาก่ออาชญากรรมเช่นนั้น เมื่อคืนกระหม่อมส่งคนไปรับยาที่บ้านของนาง นางอยู่ที่นั่นเตรียมยาอยู่ครึ่งค่อนคืนพ่ะย่ะค่ะ”
เหยาชิงหลีคลายคิ้วที่ขมวดแน่นออกและจ้องมองเขาอย่างเย็นชา “มู่เหลียนโยว!”
หมิงซุ่นตี้และสื่อฮองเฮ่าถึงกับสำลักเล็กน้อย นี่เขา...กำลังโกหกอยู่!
“จิ่งอ๋องซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังกล่าวเท็จอยู่!” ลั่วซินเม่ยหัวเราะเยาะ “ท่านมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่านั่นเป็นเรื่องจริง!”
“ข้าอย่างไรเล่าคือหลักฐาน” เขาพูดพลางมองย้อนกลับไปที่หมิงซุ่นตี้ “ฝ่าบาท พระองค์ทรงคิดอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
หมิงซุ่นตี้โกรธกริ้วมากจนอยากโยนถ้วยชาในมือไปที่หน้าของมู่เหลียนโหยว
แต่เมื่อมองดูดวงตาเรียวอันเย็นชาของมู่เหลียนโยว เขาจึงนึกถึงกองกำลังทหารในมือ และพรมแดนทั้งหมดที่ต้องพึ่งพาเขาอยู่! คนเช่นนี้จำเป็นต้องเอาอกเอาใจเข้าไว้!
เมื่ออย่างนั้น หมิงซุ่นตี้จึงกล้ำกลืนความโกรธกริ้วลงไป
“อ้อ” หมิงซุ่นตี้พลันฉีกยิ้มเล็กน้อย “มีเรื่องเช่นนี้ เหตุใดซื่อจื่อถึงไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ