เพิ่งจะผ่านไปชั่วเวลาหนึ่งถ้วยชา เหล่าผู้เข้าร่วมแข่งขันครึ่งหนึ่งก็ยืนขึ้น
หลี่คุนกระซิบข้างหูหมิงซุ่นตี้ “ฝ่าบาท ดูสิขอรับ จ้าวเฮ่อของพวกเรายืนขึ้นแล้ว!”
“ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้วเขาเพิ่งจะยืนขึ้น มีอะไรให้น่าตื่นใจ” หมิงซุ่นตี้ถลึงตาใส่เขา
หลี่คุนงับปากฉับ ไม่กล้าส่งเสียงอะไร
“จิ๊ พวกนอกคอกก็คือพวกนอกคอก อีกประเดี๋ยวก็จะเริ่มรอบแรกแล้ว น่าขันจริงๆ” ลั่วซินเม่ยหัวเราะเยาะมองเหยาชิงหลีอย่างพอใจ
องค์หญิงฝูเอ๋อร์เองก็อารมณ์ดี
“ชิงหลี…” อวี๋อ๋องและเหมยไทเฮาร้อนรนจนเหงื่อตก
พวกเขาเห็นเหยาชิงหลียังคงนั่งอยู่บนโต๊ะ ฉินอิงสยงก็ไม่รู้ว่ากำลังกระซิบกระซาบอะไรกับนาง
คงไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจหรอกใช่ไหม? อวี๋อ๋องร้อนรนจนแทบอยากจะเข้าไปดู
“ซื่อจื่อ แม่นางเหยากำลังทำอะไร?” หันซิงที่อยู่ด้านหลังมู่เหลียนโยวเอ่ยถาม
มู่เหลียนโยวเห็นเหยาชิงหลีดูตำราพลางลูบนิ้วมือตัวเองก็หัวเราะออกมา “กำลังลับกรงเล็บ”
ลับกรงเล็บ? มุมปากของหันซิงกระตุก
กลางลาน
“ข้าลองหลายครั้งแล้ว แต่ความร้อนนั้นก็ไม่ออกมาอีกเลย” เหยาชิงหลีเอ่ยเสียงเบา
“นั่นก็หมายความว่าเจ้าดูดซับเสร็จตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว” ฉินอิงสยงเอ่ย “คนยืนกันครึ่งหนึ่งแล้ว เร็วเข้า พวกเราเองก็รีบยืนไม่เช่นนั้นฝ่าบาทได้โมโหแน่”
เหยาชิงหลีได้แต่ต้องยืนขึ้นตามฉินอิงสยง
“เฮอะ เป็นพวกดึงดันจริงๆ เพิ่งจะดูดซับยาเสร็จ ไร้ความสามารถ!” จ้าวเฮ่อสีหน้าเคร่งเครียด “ไม่รู้ว่าพวกเจ้าไปเอาคำสั่งให้เข้าสู่รอบรองได้อย่างไร พวกเจ้าสองคนน่ะต่ำเสียยิ่งกว่าระดับล่างของต้าฉู่เสียอีก”
“ไอ้แก่นี่น่ารำคาญจริงๆ” เหยาชิงหลีจ้องเขา “เช่นนั้นข้าก็ขออวยพรให้ท่าน”
“แน่อยู่แล้ว” ใบหน้าของจ้าวเฮ่อเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
เมื่อมองทางลานเห็นเหยาชิงหลีดูดซับพลังเสร็จแล้ว อวี๋อ๋องและเหมยไทเฮาก็เบาใจ
“การดูดซับพลังของยาเปิดเส้นลมปราณเป็นคุณสมบัติหนึ่งของหมอ” ลั่วซินเม่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสัญญาณดี แต่ทุกปีหนึ่งในสามคนแรกที่ดูดซับพลังเสร็จจะได้เข้าร้อบชิงแน่นอน สิบคนแรกที่ดูดซับพลังเสร็จก็มีหวัง แต่คนที่เพิ่งดูดซับเสร็จหลังผ่านไปครึ่งทางแล้วแทบจะหมดหวัง”
ใบหน้าของอวี๋อ๋องเคร่งขรึม “ไม่แน่ นางอาจจะแค่เหนื่อยก็เลยอยากนั่งต่อ”
“เหอะๆ” ลั่วซินเม่ยยิ้มเยาะ “หากนางตกรอบแรกท่านก็อย่าร้องไห้แล้วกัน! หรือกำลังคิดว่าจะช่วยนางอย่างไรดี”
ขณะนั้น ผู้อาวุโสจูก็เดินมาด้านหน้า เวลาหนึ่งถ้วยชาผ่านไปแล้ว
“ดูท่าทุกท่านคงจะดูดซับพลังและท่องจำเคล็ดลับเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นก็เริ่มกันเลย” ผู้อาวุโสจูพูดขึ้น “การแข่งขันแบ่งเป็นห้ารอบ รอบแรก ตรวจชีพจร!”
ตรวจชีพจร? ทุกคนต่างงุนงง
เหยาชิงหลีมองกลับไป ไม่เห็นแม้แต่โต๊ะสำหรับนั่งตรวจ และไม่มีคนป่วย จะให้ตรวจอย่างไร?
ซั่งกวนเยียนและฉินอิงสยงตื่นเต้นจนต้องกลืนน้ำลาย เพราะว่าเนื้อหาในการแข่งขันต่างกันไปทุกปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แพทย์หญิงข้ามภพ