[สนามบินโตเกียว]
"ตามที่อยู่คือที่นี่เลยครับ" สิงหราชเดินทางมากับแชมป์แค่สองคน
"ทำไมต้องหนีมาไม่เข้าใจ นี่ถ้าแม่ของเธอไม่วุ่นวายนะ กูก็ไม่ตามมาถึงที่นี่หรอก" แสร้งพูดกับแชมป์ เหมือนอารมณ์ไม่จอย
"เหรอครับ.." ส่วนลูกน้องก็ไม่รับมุกเอาสะเลย
"มึงพูดเหมือนไม่เชื่อกูเลยว่ะไอ้แชมป์"
"เชื่อครับ ผมเชื่อเสี่ย"
"แต่คำพูดของมึงเหมือนไม่เชื่อ"
"ผมเชื่อเสี่ยม๊ากมากเลยครับ"
"มึงพูดเสียงสูง!"
"เสี่ยครับผมว่าเราเข้าไปดูดีกว่า..ว่าเธออยู่ในหอพักนี้จริงไหม"
"ฝากไว้ก่อนเถอะมึงไอ้แชมป์ กวนตีนกูดีนักนะมึง" จบคำพูดเขาก็รีบเดินนำหน้าเข้าไปด้านใน
ชายหนุ่มสอบถามคนดูแลที่นี่ด้วยภาษาอังกฤษ..และคำตอบที่ได้คือเธอย้ายไปแล้ว
"จะย้ายไปไหนอีก" พอได้คำตอบ เขาก็ออกมาจากหอพักนั้น
"หรือว่าเธอจะกลับประเทศไทยไปแล้วครับ"
"มึงลองเช็คดูสิ"
แชมป์ก็เลยประสานมาทางประเทศไทย ลูกน้องที่นี่ก็รีบค้นหาให้..แต่ก็ยังไม่เจอ
"แสดงว่ายังไม่กลับ"
"อย่าบอกนะว่าหนีไปประเทศอื่นอีกแล้ว" แชมป์แค่เดา
"จะไปเพราะปากมึงนี่แหละไอ้แชมป์!"
"โดนอีกแล้วกู" พูดออกมาเบาๆ ถ้าผู้เป็นนายได้ยินคงจะโดนเล่นงานอีกเป็นแน่
ทั้งสองก็เลยต้องได้หาที่พักก่อน พอเขาจากไปเพียงไม่นาน เธอก็กลับมาที่หอพักนั้น
"*จริงเหรอคะ*" อัปสรสุดาสื่อสารกับเจ้าของหอพักด้วยภาษาญี่ปุ่น ที่เธอรู้จักหอพักนี้ ก็เพราะเคยมาเรียนภาษา..พ่อเป็นคนส่งมา อยากให้ลูกได้หลายภาษาหน่อย คิดว่าจะให้ดูแลกิจการช่วย..แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น
และที่เจ้าของหอพักบอกไปแบบนั้น ก็เพราะเธอขอร้องไว้ ถ้ามีใครมาถามหาบอกว่าย้ายออกไปแล้ว อันนั้นเธอแค่คาดเดาไว้แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาตามหาจริงๆ
หญิงสาวจำเป็นต้องได้รีบเข้ามาเก็บข้าวของ คนแบบเขาคงไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แน่ เธอต้องรีบหนีไปจากที่นี่ก่อน
ทีแรกคิดว่าจะหลบมาอยู่ที่นี่ ใกล้คลอดแล้วถึงจะกลับ แต่ถ้ากลับไปคงไม่ไปให้ใครเห็นหน้าแน่
สองวันต่อมา..
"ออกนอกประเทศไปแล้วครับเสี่ย" มีรายงานจากลูกน้องส่งมา บอกว่าตอนนี้เธอได้เดินทางไปประเทศที่สาม
"กลับ!!"
"อะไรนะครับ"
"ในเมื่ออยากจะหนีไปนักก็ปล่อยให้ไปเลย" เขาไม่ใช่ที่คนที่จะตามหาใครพร่ำเพรื่อ
ใช้เวลาเพียงไม่นาน สิงหราชก็กลับมาถึงประเทศไทย
เขาไม่ได้ไปแจ้งข่าวแม่เธอโดยตรง แต่ให้แชมป์เป็นคนไปบอก..และให้บอกไปตามความจริง
พอแก้วกานดาได้รับรู้เรื่องราวของลูกสาว ก็รีบมาหาเขาที่บ้าน
"น้องไม่เคยทำตัวแบบนี้ มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ สิงหาช่วยน้าอีกทีได้ไหม ถือว่าน้าขอร้อง" นางแทบจะคุกเข่าขอร้อง
"ถ้าผมไปตามเธอถึงที่นั่น เธอก็ต้องหนีไปอีก คุณน้าไม่สงสารลูกสาวเหรอครับที่ต้องหนี"
"เราสองคนมีอะไรกันหรือเปล่า" ถ้าไม่งั้นลูกสาวของนางคงไม่หนีไปแบบนั้น
"ผมจะให้คนไปตามหาเธออีกทีครับ" เขาไม่ตอบเรื่องที่นางถาม เพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
Club x & z
"เสี่ยขาาา" สาวๆ ถูกส่งขึ้นมาให้เพื่อคลายเหงา
ชายหนุ่มก็ทำแค่ลูบคลำ และให้ผสมเหล้าให้ดื่ม แต่จะถึงขั้นนั้นทีไร ทำไมเขาคิดถึงแต่เธอ ทั้งๆ ที่เธอไม่คิดถึงเขาเลย
"เบ่งอีกค่ะ..ใกล้แล้ว" หมอและพยาบาลต่างก็ให้กำลังใจ มือของคุณหมอก็พยายามโกยท้องช่วย
อัปสรสุดาเบ่งจนหมดแรงที่จะเบ่ง แต่ลูกก็โผล่พ้นออกมาได้แค่หัว ยังเหลือลำตัวที่อยู่ด้านใน
"คนไข้หมดลมเบ่งแล้ว..เตรียมห้องผ่าคลอดไว้ด้วยนะ" เคสแบบนี้มีน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี
อัปสรสุดาเหนื่อยมากความดันก็ขึ้นสูง จนหมอหยุดให้เบ่งแล้วรีบพาตัวเธอเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งห้องผ่าตัดอยู่คนละตึก อยู่คนละชั้น ต้องเข็นเธอผ่านคนอีกมากมาย โดยการเอาผ้าคลุมร่างของเธอไว้ ทั้งที่เด็กก็ยังโผล่หัวออกมาอยู่แบบนั้น
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะร้องโอดโอยทนไม่ได้ แต่นี่ได้ยินแค่เสียงเบ่งและก็บอกว่าเจ็บไม่กี่คำ
เข้ามาถึงห้องผ่าตัดก็ต้องได้รีบฉีดยาชา เพราะเป็นเคสที่เร่งด่วน
พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์หมอก็ลงมือผ่าคลอด อันดับแรกต้องได้เอาหัวเด็กกลับเข้ามาที่ช่องเดิม
โชคดีที่เธอได้รับยาชาจากการผ่า แต่มันก็ยังเจ็บปวดทรมานอยู่ดี
"เราจะดึงหัวเด็กกลับเข้ามาแล้วนะคะ" พอสิ้นเสียงคุณหมอ เหมือนมีใครจับอะไรทิ่มเขามา..มันจุกมาก
พอหัวเด็กกลับเข้ามาได้ หมอก็ใช้เครื่องมือดึงเด็กออกจากท้อง...
อุแง้! อุ๊แง๊!! เสียงเด็กน้อยแหกปากร้องเมื่อถูกคุณหมอใช้เครื่องมือดึงออกมา
ลูก.. จากที่หนักอึ้งอยู่เธอถึงกับโล่ง.. ที่โล่งเพราะได้ยินเสียงลูกร้องไห้ นั่นแสดงว่าลูกของเธอปลอดภัยแล้ว
ร่างกายของอัปสรสุดา บอบช้ำมาก เพราะเธอทั้งเบ่งออกทางช่องคลอด และก็ต้องได้ผ่าออกทางหน้าท้อง เพราะหมดลมเบ่งกลัวแม่และเด็กจะเป็นอันตราย
"น่าสงสารแม่กับลูกนะ" พยาบาลพูดกัน..เพราะว่าเธอมาขอคลอดแบบอนาถา ไม่มีญาติที่ไหนขอให้ทางโรงพยาบาลเป็นฝ่ายช่วย แถมยังมาเจอเคสทรหดแบบนี้อีก
คนตัวเล็กถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าคลอด แล้วพาไปห้องรวมสำหรับคุณแม่หลังคลอด
เวลาผ่านไป..
ตอนนี้หญิงสาวเริ่มจะขยับตัวไม่ค่อยได้ เพราะความเจ็บปวดที่สวยงาม ที่เรียกว่าความเจ็บปวดที่สวยงาม เพราะตอนนี้เธอได้แต่นอนยิ้มมองดูลูกชาย ที่ถูกห่อไว้เหมือนกับดักแด้
ด่านต่อไปก็คือ..ทำยังไงเธอถึงจะดูแลลูก ในขณะที่ตัวเองยังขยับตัวไม่ได้ ถึงแม้หมอจะบอกว่าให้พยายามขยับตัว แต่ตอนนี้แม้แต่หายใจยังเจ็บปวดสะเทือนไปทั่วร่างกาย
**************************
ปล. การคลอดที่ไรท์นำมาเขียน..ไม่ได้แต่งขึ้นเองแต่อย่างใด..มันเป็นเรื่องจริงของคนข้างบ้านค่ะ เคสนี้มีอยู่จริงค่ะ (แต่น้อยมาก) บางคนอาจจะไม่เคยรู้เลยก็ได้ และอาจจะคิดว่า...แบบนี้ก็มีเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น